คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลอุทธรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,244 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1172/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กระบวนการพิจารณาคดีที่ผิดระเบียบ: ศาลอุทธรณ์มีอำนาจแก้ไขแม้ไม่มีการอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1, 2 และ 4 ร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ในฐานที่จำเลยที่ 1 และ 2 เป็นนายจ้างของผู้ขับรถโดยประมาทและจำเลยที่ 4 เป็นผู้รับประกันภัยความปรากฏแก่ศาลอุทธรณ์ว่าศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งว่าจำเลยที่ 1 ขาดนัดพิจารณาแล้วพิพากษาคดีโดยจำเลยที่ 1 ไม่ทราบวันนัดสืบพยานและวันนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยว่าการดำเนินกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับจำเลยที่ 1 นั้น เป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบ พิพากษาให้เพิกถอนเสียแล้วให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาเสียใหม่ได้ แม้จะไม่มีฝ่ายใดยกปัญหาข้อนี้อุทธรณ์ขึ้นมาก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1172/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กระบวนการพิจารณาคดีที่มิชอบ แม้ไม่มีข้ออุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิจารณายกคำพิพากษาได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1, 2 และ 4 ร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ในฐานที่จำเลยที่ 1 และ 2 เป็นนายจ้างของผู้ขับรถโดยประมาทและจำเลยที่ 4 เป็นผู้รับประกันภัยความปรากฏแก่ศาลอุทธรณ์ว่าศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งว่าจำเลยที่ 1 ขาดนัดพิจารณาแล้วพิพากษาคดีโดยจำเลยที่ 1 ไม่ทราบวันนัดสืบพยานและวันนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยว่าการดำเนินกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับจำเลยที่ 1 นั้น เป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบ พิพากษาให้เพิกถอนเสียแล้วให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาเสียใหม่ได้ แม้จะไม่มีฝ่ายใดยกปัญหาข้อนี้อุทธรณ์ขึ้นมาก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 994/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากไม่ได้ระบุเหตุผลความผิดพลาดในคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์
ฎีกากล่าวข้อความแต่เพียงว่า จำเลยไม่เห็นพ้องด้วยคำพิพากษาศาลล่างจึงฎีกาเพื่อศาลสูงได้วินิจฉัยในเหตุผลของพยานทั้งสองฝ่ายประกอบคำพิพากษาล่างที่จำเลยฟังว่ายังมีการคลาดเคลื่อนต่อเหตุผลข้อเท็จจริงอยู่หลายประการ...... ที่จำเลยยังไม่สามารถคัดสำนวนไปประกอบทำฎีกาทันภายในกำหนดอายุความฎีกา จึงขอยื่นฎีกาไว้แต่เพียงย่อ ดังนี้ ฎีกามิได้ระบุข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงให้เห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์คลาดเคลื่อนข้อใด เป็นฎีกาที่มิได้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 193, 225 ไม่เป็นฎีกาที่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 948/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากจำเลยมิได้อุทธรณ์ประเด็นลดหนี้ และศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยรับผิดน้อยลงแล้ว
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์แล้ว โจทก์เป็นฝ่ายอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 2 รับผิดเพิ่มขึ้นจากที่ศาลชั้นต้นพิพากษาส่วนจำเลยที่ 2 มิได้อุทธรณ์คดีแต่อย่างใด ในการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ตามที่โจทก์อุทธรณ์ขึ้นมาฝ่ายเดียวนั้น ศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 2 รับผิดน้อยลงไปกว่าเดิมด้วยซ้ำดังนี้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกาขอลดจำนวนเงินที่จะต้องรับผิดให้น้อยลงไปอีกได้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ ทั้งไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาขัดต่อดุลพินิจศาลในการส่งตัวจำเลยไปฝึกอบรมแทนการลงโทษตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
การที่ศาลพิพากษาให้ส่งตัวจำเลยไปฝึกและอบรม ณสถานพินิจและคุ้มครองเด็กโดยอาศัยอำนาจตามความในบทบัญญัติมาตรา 75 ประกอบด้วยมาตรา 74 แห่งประมวลกฎหมายอาญา แม้มิใช่การพิพากษาให้ลงโทษจำคุก แต่ก็เป็นการสั่งใช้วิธีการที่เบากว่าโทษจำคุกจึงต้องอยู่ในบังคับของมาตรา 218 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาด้วย เมื่อศาลอุทธรณ์เพียงแต่แก้กำหนดระยะเวลาที่จะให้จำเลยไปอยู่ฝึกและอบรม จำเลยกลับฎีกาอ้างเหตุมาว่า ถูกคุมขังในระหว่างอุทธรณ์มาเกินกำหนดระยะเวลาแล้ว ถือว่าเป็นการลงโทษและจำเลยได้รับโทษตามคำพิพากษาแล้ว ขอให้ศาลฎีกาพิพากษาว่า ขังมาพอกับโทษและให้ปล่อยตัวไป เช่นนี้เท่ากับจำเลยฎีกาคัดค้านดุลพินิจของศาลและขอให้เปลี่ยนจากใช้วิธีการที่เบากว่าโทษตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มาเป็นการลงโทษและกำหนดโทษใหม่ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง และข้อจำกัดในการฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่ดินพิพาทราคา 1,400 บาทเป็นของจำเลยศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ที่ดิน 3 ใน 4 เป็นของโจทก์ทั้งสาม อีกส่วนหนึ่งเป็นของจำเลย ที่ดิน 3 ใน 4 นี้ราคา 1,050 บาท ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นเล็กน้อย ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 524/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาแม้ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ชนะคดี หากวินิจฉัยไม่ตรงประเด็นและกระทบสิทธิ
แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้จำเลยชนะคดี แต่ถ้าจำเลยเห็นว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ถูกต้องตรงตามประเด็น และผลของคำพิพากษาทำให้เสียสิทธิของจำเลย จำเลยก็มีสิทธิฎีกาได้
คดีมีประเด็นว่าโจทก์ฟ้องเรียกเงินที่โจทก์อ้างว่าเข้าหุ้นส่วนกับจำเลยคืนได้หรือไม่ ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์ไม่ได้เข้าหุ้นส่วนกับจำเลยจึงยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการนำสืบของโจทก์นอกฟ้องนอกประเด็นจึงพิพากษายืน ผลก็คือโจทก์ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำเลยไม่ได้ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาตรงตามประเด็นแล้ว
การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่ภายในอายุความนั้น เป็นดุลยพินิจของศาลที่จะวินิจฉัยสั่งได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 524/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นแต่ด้วยเหตุผลอื่น และผลคำพิพากษาไม่ตัดสิทธิโจทก์ในการฟ้องคดีใหม่
แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้จำเลยชนะคดี แต่ถ้าจำเลยเห็นว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ถูกต้องตรงตามประเด็นและผลของคำพิพากษาทำให้เสียสิทธิของจำเลย จำเลยก็มีสิทธิฎีกาได้
คดีมีประเด็นว่าโจทก์ฟ้องเรียกเงินที่โจทก์อ้างว่าเข้าหุ้นส่วนกับจำเลยคืนได้หรือไม่ ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์ไม่ได้เข้าหุ้นส่วนกับจำเลยจึงยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการนำสืบของโจทก์นอกฟ้องนอกประเด็น จึงพิพากษายืน ผลก็คือโจทก์ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำเลยไม่ได้ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาตรงตามประเด็นแล้ว
การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่ภายในอายุความนั้น เป็นดุลพินิจของศาลที่จะวินิจฉัยสั่งได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1757/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษปรับโดยศาลอุทธรณ์ไม่ถือเป็นการแก้บท ฎีกาโจทก์เกี่ยวกับดุลพินิจโทษจึงต้องห้าม
กรณีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้จำคุกจำเลย3 เดือน และปรับ และศาลอุทธรณ์เพียงแต่พิพากษาแก้ ไม่ลงโทษปรับนั้นถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฉะนั้น การที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้งจำทั้งปรับ จึงเป็นฎีกาเกี่ยวด้วยดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลซึ่งเป็นปัญหาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1757/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษปรับโดยศาลอุทธรณ์ ไม่ถือเป็นการแก้บท ฎีกาโจทก์ขอลงโทษทั้งจำและปรับ เป็นปัญหาดุลพินิจข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกา
กรณีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตให้จำคุกจำเลย 3 เดือน และปรับ และศาลอุทธรณ์เพียงแต่พิพากษาแก้ไม่ลงโทษปรับนั้นถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฉะนั้น การที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้งจำทั้งปรับ จึงเป็นฎีกาเกี่ยวด้วยดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลซึ่งเป็นปัญหาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
of 225