คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัญญาเช่า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,266 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่จดทะเบียน, สิทธิผู้รับโอน, สัญญาต่างตอบแทน, การฟ้องขับไล่, การคุ้มครองผู้เช่า
แม้สัญญาเช่าห้องพิพาทจะเป็นสัญญาต่างตอบแทนสัญญานั้นก็ก่อให้เกิดเพียงบุคคลสิทธิ มีผลผูกพันเฉพาะคู่กรณีเท่านั้น ไม่ผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับโอนและเมื่อไม่ใช่สัญญาเช่าธรรมดา จำเลยจะอ้างประโยชน์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 569 ไม่ได้
เงินกินเปล่าเป็นส่วนหนึ่งของค่าเช่า ฉะนั้น ข้อตกลงระหว่างเจ้าของเดิมกับจำเลยจึงเป็นสัญญาเช่าธรรมดาเมื่อไม่ได้จดทะเบียนการเช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่การเช่านั้นก็ใช้ได้เพียง 3 ปีเมื่อครบ 3 ปีและได้บอกเลิกการเช่าแล้ว โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของห้องพิพาทย่อมฟ้องขับไล่จำเลยได้
เมื่อจำเลยเช่าห้องพิพาทเพื่อทำการค้าขายเป็นส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดินฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อนุญาตยื่นคำให้การหลังขาดนัด และผลกระทบต่อการฟ้องค่าเช่าหลังบอกเลิกสัญญา
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลสั่งขาดนัดยื่นคำให้การแล้ว จำเลยยื่นคำร้องขอยื่นคำให้การศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาต ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณายกอุทธรณ์ จำเลยไม่ฎีกา ปัญหาเรื่องขอยื่นคำให้การจึงยุติแล้ว จำเลยจะกลับยกขึ้นฎีกาอีกเมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีนั้นแล้วไม่ได้
โจทก์นำสืบหลักฐานได้น้อยไปกว่าที่ฟ้องไว้ ไม่ถึงกับทำให้อำนาจฟ้องของโจทก์ไม่เกิดขึ้น จนถึงกับจะต้องยกฟ้องโจทก์เพราะเหตุมูลคดีที่ฟ้องไม่มี
โจทก์บอกเลิกการเช่ากับจำเลยแล้วจำเลยนำเงินค่าเช่าที่ค้างกับค่าเสียหายเท่าจำนวนค่าเช่าสำหรับเดือนต่อ ๆ มาหลังจากบอกเลิกการเช่าแล้วไปชำระเจ้าหน้าที่ผู้รับเงินของโจทก์ด้วยความผิดพลาดได้ออกใบรับให้แก่จำเลยโดยรวมเรียกค่าเสียหายเป็นค่าเช่าด้วย ดังนี้ ไม่ถือว่าสัญญาเช่ายังคงผูกพันอยู่ เพราะสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับจำเลยระงับไปตั้งแต่โจทก์บอกเลิกการเช่าแล้ว แม้จำเลยจะอยู่ต่อมาก็ได้ชื่อว่าอยู่โดยละเมิดสิทธิโจทก์ นิติสัมพันธ์ทางสัญญาเช่าย่อมไม่เกิดขึ้นใหม่อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดยื่นคำให้การ-ใบเสร็จรับเงินหลังบอกเลิกสัญญาเช่า: ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาเดิม
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลสั่งขาดนัดยื่นคำให้การแล้วจำเลยยื่นคำร้องขอยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตจำเลยมิได้โต้แย้งคำสั่งนั้นกลับอุทธรณ์คำสั่งศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณายกอุทธรณ์จำเลยไม่ฎีกา ปัญหาเรื่องขอยื่นคำให้การจึงยุติแล้วจำเลยจะกลับยกขึ้นฎีกาอีกเมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีนั้นแล้วไม่ได้
โจทก์นำสืบหลักฐานได้น้อยไปกว่าที่ฟ้องไว้ ไม่ถึงกับทำให้อำนาจฟ้องของโจทก์ไม่เกิดขึ้น จนถึงกับจะต้องยกฟ้องโจทก์เพราะเหตุมูลคดีที่ฟ้องไม่มี
โจทก์บอกเลิกการเช่ากับจำเลยแล้ว จำเลยนำเงินค่าเช่าที่ค้างกับค่าเสียหายเท่าจำนวนค่าเช่าสำหรับเดือนต่อๆ มาหลังจากบอกเลิกการเช่าแล้วไปชำระเจ้าหน้าที่ผู้รับเงินของโจทก์ด้วยความผิดพลาดได้ออกใบรับให้แก่จำเลยโดยรวมเรียกค่าเสียหายเป็นค่าเช่าด้วยดังนี้ไม่ถือว่าสัญญาเช่ายังคงผูกพันอยู่ เพราะสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับจำเลยระงับไปตั้งแต่โจทก์บอกเลิกการเช่าแล้ว แม้จำเลยจะอยู่ต่อมาก็ได้ชื่อว่าอยู่โดยละเมิดสิทธิโจทก์ นิติสัมพันธ์ทางสัญญาเช่าย่อมไม่เกิดขึ้นใหม่อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 708/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าและการฟ้องขับไล่ เมื่อจำเลยไม่ชำระค่าเช่า และประเด็นการพิจารณาตามกฎหมายเช่าทรัพย์
เมื่อจำเลยมิได้ยกประเด็นขึ้นสู้ว่า จำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ก็ต้องพิจารณาตามบทกฎหมายว่าด้วยการเช่าทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
โจทก์มิได้ตั้งประเด็นฟ้องว่าสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยไม่มีกำหนดเวลา คดีจึงไม่มีประเด็นในเรื่องเลิกการเช่าซึ่งไม่มีกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา566
โจทก์ฟ้องตั้งประเด็นว่า เมื่อโจทก์รับโอนที่พิพาทมาเป็นของโจทก์โจทก์ได้แจ้งให้จำเลยทราบ ให้จำเลยปฏิบัติการชำระค่าเช่าให้โจทก์อย่างเคยแต่จำเลยไม่ชำระโจทก์จึงบอกเลิกสัญญาเช่า จำเลยสู้ว่าจำเลยเช่าที่พิพาทปลูกอาคารเพื่ออยู่อาศัย จำเลยมิได้ผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าจึงมีข้อเท็จจริงที่จะต้องพิจารณาต่อไปว่า จำเลยได้ผิดสัญญาดังโจทก์ฟ้องหรือไม่ ถ้าจำเลยผิดสัญญา โจทก์จะมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยและมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 695/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผิดนัดชำระค่าเช่าและการรับโอนสิทธิหน้าที่จากสัญญาเช่าเดิม ผู้เช่ามีหน้าที่ชำระค่าเช่า ณ ภูมิลำเนาผู้ให้เช่า
เมื่อไม่ปรากฏว่าได้มีการตกลงกันให้ฝ่ายผู้ให้เช่าไปเก็บค่าเช่าจากผู้เช่าผู้เช่าจึงมีหน้าที่ไปชำระค่าเช่า ณ ภูมิลำเนาของผู้ให้เช่าฉะนั้น การที่ผู้ให้เช่าไม่ไปเก็บค่าเช่าจึงไม่เป็นข้อแก้ตัวให้ผู้เช่าพ้นความรับผิดในการผิดนัดไม่ชำระค่าเช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของผู้เช่า: การซ่อมแซมทรัพย์สินที่เช่า และความรับผิดตามสัญญา
ข้อความในสัญญาเช่าที่ว่า ผู้เช่ารับรองจะระวังรักษาทรัพย์ที่เช่าและซ่อมแซมทรัพย์ที่เช่าด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าเอง ให้อยู่ในสภาพที่ดีใช้การได้เสมอนั้น ไม่มีความหมายจะให้ผู้เช่าต้องรับผิดนอกเหนือไปจากที่กฎหมายได้กำหนดไว้ เพราะในสัญญามิได้มีข้อความชัดเจนว่า ให้ผู้เช่าต้องรับผิดในทุกกรณีไป ฉะนั้นผู้เช่าจะต้องรับผิดก็แต่ในกรณีที่เป็นความผิดของตนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เท่านั้น
(อ้างฎีกาที่ 565/2497)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของผู้เช่า: ข้อตกลงในสัญญาเช่าต้องสอดคล้องกับบทบัญญัติกฎหมาย
ข้อความในสัญญาเช่าที่ว่าผู้เช่ารับรองจะระวังรักษาทรัพย์ที่เช่าและซ่อมแซมทรัพย์ที่เช่าด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าเอง ให้อยู่ในสภาพที่ดีใช้การได้เสมอนั้นไม่มีความหมายจะให้ผู้เช่าต้องรับผิดนอกเหนือไปจากที่กฎหมายได้กำหนดไว้ เพราะในสัญญามิได้มีข้อความชัดเจนว่าให้ผู้เช่าต้องรับผิดในทุกกรณีไปฉะนั้น ผู้เช่าจะต้องรับผิดก็แต่ในกรณีที่เป็นความผิดของตนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เท่านั้น
(อ้างฎีกาที่ 565/2497)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าและสัญญาซื้อขาย การนำสำเนาเอกสารมาใช้เป็นพยาน และการสืบพยาน
โจทก์ระบุพยานว่า สัญญาก่อนสมรสหรือสำเนาสัญญาก่อนสมรสอยู่ที่โจกท์ เมื่อโจทก์นำต้นฉบับมาส่งศาลไม่ได้ เนื่องจากโจทก์ส่งไว้ที่ศาลอื่นในคดีอีกเรื่องหนึ่ง โจทก์ก็นำสำเนาสัญญาก่อนสมรสซึ่งอยู่ที่โจทก์ส่งศาลตามที่ระบุไว้ในบัญญชีระบุพยานได้ ไม่เป็นเรื่องสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร
โจทก์อ้างสำเนาหนังสือสัญญาก่อนสมรสเป็นพยาน และโจทก์กับสามีโจทก์ได้เบิกความรับรองว่าได้ทำกันโดยถูกต้องก่อนทำการสมรสจริง ย่อมรับฟังได้
สำเนาเอกสารไม่มีผู้เซ็นรับรอง แต่เมื่อตัวผู้กระทำได้มาเบิกความรับรองว่าได้กระทำโดยถูกต้องตามสำเนานั้น ย่อมถือว่ารับฟังได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาก่อนสมรสและสัญญาเช่า: การรับฟังพยานหลักฐาน, การพิสูจน์ข้อเท็จจริง, และข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์
โจทก์ระบุพยานว่า สัญญาก่อนสมรสหรือสำเนาสัญญาก่อนสมรสอยู่ที่โจทก์ เมื่อโจทก์นำต้นฉบับมาส่งศาลไม่ได้เนื่องจากโจทก์ส่งไว้ที่ศาลอื่นในคดีอีกเรื่องหนึ่งโจทก์ก็นำสำเนาสัญญาก่อนสมรสซึ่งอยู่ที่โจทก์ส่งศาลตามที่ระบุไว้ในบัญชีระบุพยานได้ ไม่เป็นเรื่องสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร
โจทก์อ้างสำเนาหนังสือก่อนสมรสเป็นพยาน และโจทก์กับสามีโจทก์ได้เบิกความรับรองว่าได้ทำกันโดยถูกต้องก่อนทำการสมรสจริงย่อมรับฟังได้
สำเนาเอกสารไม่มีผู้เซ็นรับรอง แต่เมื่อตัวผู้กระทำได้มาเบิกความรับรองว่าได้กระทำโดยถูกต้องตามสำเนานั้น ย่อมถือว่ารับฟังได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าเกิน 3 ปี ไม่จดทะเบียน, การพิสูจน์การใช้ประโยชน์ที่ดิน, และการนำสืบพยานเพิ่มเติม
การที่โจทก์ขอให้ศาลบังคับจำเลยในคดีนี้ให้ออกจากตึกพิพาทในฐานะบริวารจำเลยในคดีอื่นศาลสั่งว่าจำเลยไม่ใช่บริวาร โจทก์จึงฟ้องขับไล่จำเลยในคดีนี้ตามสัญญาเช่านั้น ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
จำเลยให้การว่า เช่าตึกพิพาทเพื่ออยู่อาศัยได้รับความคุ้มครองกฎหมาย โจทก์ย่อมนำสืบหักล้างข้อต่อสู้ของจำเลยได้ว่า จำเลยมิได้ใช้ตึกพิพาทเป็นที่อยู่อาศัย หากแต่ทำเป็นโรงโสเภณีจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504
เมื่อจำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนและยังสืบไม่เสร็จ โจทก์ย่อมอ้างพยานเพิ่มเติมได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรค 2
of 227