คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เช็ค

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,865 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นผู้เสียหายในความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค กรณีเช็คขีดคร่อมและการมอบหมายให้ผู้อื่นเรียกเก็บเงิน
ช. มายืมเงินจากโจทก์แล้วมอบเช็คสองฉบับซึ่งมีจำหน่ายเป็นผู้สั่งจ่ายให้โจทก์ไว้เพื่อชำระหนี้ แต่เช็คทั้งสองฉบับเป็นเช็คขีดคร่อมสั่งจ่ายแก่ผู้ซื้อ โจทก์ไม่มีเงินฝากในธนาคาร จึงนำเช็คดังกล่าวไปให้ ก. เพื่อเข้าบัญชีของ ก. เพื่อเรียกเก็บเงิน ถือได้ว่าโจทก์เป็นเจ้าของเช็คพิพาทสองฉบับนั้น หากเช็คดังกล่าวเรียกเก็บเงินไม่ได้ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ได้ความว่า จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น คดีของโจทก์ย่อมมีมูล (วรรคแรก วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2519)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นผู้เสียหายในความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค: เช็คสั่งจ่ายแก่ผู้ถือ และความเสียหายจากการปฏิเสธการจ่ายเงิน
ช. มายืมเงินจากโจทก์แล้วมอบเช็คสองฉบับซึ่งมีจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายให้โจทก์ไว้เพื่อชำระหนี้แต่เช็คทั้งสองฉบับเป็นเช็คขีดคร่อมสั่งจ่ายแก่ผู้ถือโจทก์ไม่มีเงินฝากในธนาคาร จึงนำเช็คดังกล่าวไปให้ ก. เพื่อเข้าบัญชีของก. เพื่อเรียกเก็บเงิน ถือได้ว่าโจทก์เป็นเจ้าของเช็คพิพาทสองฉบับนั้น หากเช็คดังกล่าวเรียกเก็บเงินไม่ได้ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา2(4)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3 ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ได้ความว่า จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นคดีของโจทก์ย่อมมีมูล (วรรคแรก วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่10/2519)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1229/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานที่เกิดความผิดฐานเช็คเด้ง คือ สถานที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ไม่ใช่สถานที่ออกหรือนำเช็คเข้า
จำเลยสั่งจ่ายเช็คธนาคารไทยพัฒนาจำกัด สาขากาญจนบุรีให้โจทก์ที่กรุงเทพมหานคร โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีโจทก์ที่ธนาคารไทยพัฒนาจำกัด สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อให้ธนาคารดังกล่าวเรียกเก็บเงินจากธนาคารไทยพัฒนาจำกัด สาขากาญจนบุรี ธนาคารไทยพัฒนาจำกัด สาขากาญจนบุรี ปฏิเสธการจ่ายเงิน ดังนี้ ความผิดเกิดขึ้นเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค สถานที่ตั้งของธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินจึงเป็นสถานที่ที่ความผิดเกิดขึ้น เมื่อธนาคารซึ่งปฏิเสธการจ่ายเงินตั้งอยู่จังหวัดกาญจนบุรีต้องถือว่า เหตุเกิดในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี หาใช่เกิดขึ้น ณ สถานที่เขียนเช็คและสถานที่ตั้งธนาคารที่นำเช็คเข้าบัญชีและสถานที่ตั้งธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงิน เกี่ยวเนื่องกันหลายท้องที่ไม่ แม้ธนาคารที่นำเช็คเข้าบัญชีและธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงิน เกี่ยวเนื่องกันหลายท้องที่ไม่ แม้ธนาคารที่นำเช็คเข้าบัญชีและธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินเป็นของเจ้าของเดียวกันก็ตาม ธนาคารที่นำเช็คเข้าบัญชีหาได้เป็นผู้จ่ายเงินตามเช็คไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนเรียกเก็บเงินตามเช็คให้เท่านั้น เมื่อธนาคารซึ่งปฏิเสธการจ่ายเงินอยู่จังหวัดกาญจนบุรี เหตุจึงเกิดในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี ถือไม่ได้ว่าความผิดเกิดขึ้นที่กรุงเทพมหานครด้วย
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 12/2519)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1229/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานที่เกิดความผิดเช็ค: ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเป็นหลัก
ความผิดตาม พระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้นเกิดขึ้นเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค สถานที่ตั้งของธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินจึงเป็นสถานที่ที่ความผิดเกิดขึ้น จำเลยสั่งจ่ายเช็คธนาคาร ท. สาขากาญจนบุรีให้โจทก์ที่กรุงเทพมหานคร โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีโจทก์ที่ธนาคาร ท. สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพมหานครเพื่อเรียกเก็บเงิน ธนาคาร ท. สาขากาญจนบุรีปฏิเสธการจ่ายเงิน ดังนี้ ต้องถือว่าเหตุเกิดขึ้นในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี หาใช่ความผิดเกิดขึ้น ณสถานที่ที่เขียนเช็ค และสถานที่ตั้งธนาคารที่โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีและสถานที่ตั้งธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินเกี่ยวเนื่องกันหลายท้องที่ไม่แม้ธนาคาร ท. สำนักงานใหญ่และสาขากาญจนบุรีเป็นของเจ้าของเดียวกัน ธนาคาร ท. สำนักงานใหญ่ก็หาได้เป็นผู้จ่ายเงินตามเช็คให้โจทก์ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนโจทก์เรียกเก็บเงินตามเช็คให้เท่านั้นจึงถือไม่ได้ว่าความผิดเกิดขึ้นที่กรุงเทพมหานครด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1225/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานที่เกิดเหตุความผิดฐานใช้เช็ค - ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
ผู้เสียหายขี่รถจักรยานสามล้อผ่านหน้าบ้านจำเลย จำเลยซึ่งกำลังถือมีดเหน็บเตรียมจะผ่ามะพร้าวอยู่ที่ชานบ้านได้กระโดดเข้าแทงผู้เสียหายถูกที่สีข้างด้านซ้าย ลึกประมาณครึ่งเซนติเมตร ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ผู้เสียหายกับจำเลยไม่เคยโกรธเคืองกันมาก่อนเพียงแต่น้องของผู้เสียหายเคยทะเลาะกับบุตรของจำเลย เป็นเหตุให้ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายเฉยเมยต่อกันเท่านั้น และเป็นเรื่องตั้งแต่ก่อนที่ผู้เสียหายจะมาอยู่ มีดที่จำเลยใช้ทำร้ายก็เป็นมีดที่จำเลยจะใช้ผ่ามะพร้าว และบาดแผลของผู้เสียหายไม่ฉกรรจ์ แม้ว่าจำเลยจะฟันผู้เสียหายซ้ำอีกแต่ผู้เสียหายหลบทันและยังวิ่งไล่ตามเมื่อผู้เสียหายวิ่งหนีก็เป็นเหตุเกิดโดยกระทันหัน ไม่เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 967/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องร้องเช็ค: ศาลไม่จำเป็นต้องกะประเด็นใหม่หากศาลล่างวินิจฉัยแล้วว่าไม่ขาดอายุความ
แม้ศาลชั้นต้นจะไม่ได้กะประเด็นเรื่องอายุความไว้ตามที่จำเลยให้การต่อสู้คดี แต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็ได้วินิจฉัยในประเด็นนี้แล้วว่า คดีไม่ขาดอายุความ จึงไม่มีเหตุสมควรที่ศาลฎีกาจะต้องให้ศาลชั้นต้นกะประเด็นแล้วพิจารณาพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 967/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยอายุความของเช็ค แม้ศาลชั้นต้นไม่ได้กะประเด็นไว้โดยชัดแจ้ง แต่หากศาลได้วินิจฉัยแล้ว ศาลฎีกาไม่จำเป็นต้องย้อนสำนวน
แม้ศาลชั้นต้นจะไม่ได้กะประเด็นเรื่องอายุความไว้ตามที่จำเลยให้การต่อสู้คดีแต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็ได้วินิจฉัยในประเด็นนี้แล้วว่า คดีไม่ขาดอายุความ จึงไม่มีเหตุสมควรที่ศาลฎีกาจะต้องให้ศาลชั้นต้นกะประเด็นแล้วพิจารณาพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 865/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้ยืมเงินเกิน 50 บาท ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจึงฟ้องร้องได้ เช็คและหนังสือมอบอำนาจไม่ถือเป็นหลักฐานการกู้ยืม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 ที่ว่าการกู้เงินเกินกว่า 50 บาท ถ้าไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ยืมฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้นั้น หมายความรวมถึงยกขึ้นต่อสู้คดีด้วย จำเลยที่ 2 มีเช็คซึ่งจำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายแก่ผู้ถือ หนังสือมอบอำนาจซึ่งโจทก์มอบให้จำเลยที่ 2 ทำการขายฝากที่ดิน กับโฉนดที่ดินของโจทก์ไม่เป็นหลักฐานที่แสดงว่าจำเลยที่ 1 และบิดาโจทก์เป็นผู้กู้เงินจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 จึงอ้างว่ามีการกู้เงินไม่ได้ จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 กับบิดาโจทก์ตกลงกับจำเลยที่ 2 ว่าถ้าไม่ชำระเงินกู้ให้จำเลยที่ 2 นำโฉนดของโจทก์ไปจดทะเบียนขายฝากได้ โจทก์เรียกโฉนดคืนจากจำเลยที่ 2 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเสียหายจากการคืนเช็คให้บุคคลอื่น ความรับผิดของธนาคาร และขอบเขตค่าเสียหายที่บังคับใช้ได้
โจทก์นำเช็คของธนาคาร ท.จำนวนเงิน 84,000 บาท ซึ่ง ซ.เป็นผู้สั่งจ่ายฝากเข้าบัญชีของโจทก์ที่ธนาคารจำเลย จำเลยส่งเช็คฉบับนั้นไปเรียกเก็บเงินจากธนาคาร ท. แต่ธนาคาร ท.ปฏิเสธการจ่ายเงินและส่งเช็คฉบับนั้นคืน ต่อมาพนักงานของจำเลยได้คืนเช็คฉบับนั้นให้แก่ผู้ที่พนักงานของจำเลยไม่เคยรู้จักมาก่อนซึ่งมาอ้างว่าเป็นลูกจ้าง ของโจทก์ไป โดยไม่ตรวจสอบดูหลักฐาน ย่อมเป็นการกระทำที่ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้น จำเลยก็ต้องรับผิดในการกระทำของพนักงานของตน แต่การที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยเท่ากับจำนวนเงินที่ปรากฏในเช็คฉบับนั้น นอกจากการที่เช็คพิพาทถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งแสดงอยู่ในตัวว่ายังห่างไกลต่อการที่คาดหมายได้ว่า โจทก์จะสามารถฟ้องเรียกเงินจาก ซ.ได้เต็มตามจำนวนเงินในเช็คนั้นแล้ว ตามฟ้องโจทก์ได้อ้างแต่เพียงว่าโจทก์ต้องเสียหายเพราะโจทก์ต้องสูญเสียเช็คฉบับนั้นสำหรับที่จะใช้เป็นหลักฐาน ในการฟ้อง ซ.ไปเท่านั้น กรณีจึงยังเป็นความเสียหายที่ห่างไกลต่อเหตุ ทั้งธนาคารจำเลยนำสืบฟังได้ว่า เมื่อโจทก์นำเช็คไปเข้าบัญชีแล้วเพียง 6 วัน โจทก์ก็ทราบว่าเช็คฉบับนั้นถูกปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงยังมีทางที่โจทก์จะขอนำสืบพยานบุคคลแทนเช็คที่สูญหายไปได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93 ฉะนั้น ที่โจทก์อ้างว่าโจทก์เสียหายไปแล้วเป็นเงิน 84,000 บาท เท่าจำนวนเงินในเช็คเนื่องจากการที่โจทก์ต้องสูญเสียเช็คพิพาทไปนั้น จึงยังห่างไกลต่อความเป็นจริงมาก ศาลไม่อาจบังคับให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ได้ ดังที่โจทก์กล่าวอ้างค่าเสียหายประการอื่น ๆ ถ้าหากจะมีโจทก์ก็มิได้ฟ้องเรียกร้องมาศาลจึงต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของธนาคารต่อการคืนเช็คให้บุคคลอื่น การประเมินความเสียหายที่ห่างไกลต่อเหตุ
โจทก์นำเช็คของธนาคาร ท. จำนวนเงิน84,000บาทซึ่ง ซ. เป็นผู้สั่งจ่ายฝากเข้าบัญชีของโจทก์ที่ธนาคารจำเลยจำเลยส่งเช็คฉบับนั้นไปเรียกเก็บเงินจากธนาคาร ท. แต่ธนาคาร ท. ปฏิเสธการจ่ายเงินและส่งเช็คฉบับนั้นคืน ต่อมาพนักงานของจำเลยได้คืนเช็คฉบับนั้นให้แก่ผู้ที่พนักงานของจำเลยไม่เคยรู้จักมาก่อนซึ่งมาอ้างว่าเป็นลูกจ้างของโจทก์ไปโดยไม่ตรวจสอบดูหลักฐาน ย่อมเป็นการกระทำที่ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้น จำเลยก็ต้องรับผิดในการกระทำของพนักงานของตนแต่การที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยเท่ากับจำนวนเงินที่ปรากฏในเช็คฉบับนั้น นอกจากการที่เช็คพิพาทถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งแสดงอยู่ในตัวว่ายังห่างไกลต่อการที่คาดหมายได้ว่า โจทก์จะสามารถฟ้องเรียกเงินจาก ซ. ได้เต็มตามจำนวนเงินในเช็คนั้นแล้ว ตามฟ้องโจทก์ได้อ้างแต่เพียงว่าโจทก์ต้องเสียหายเพราะโจทก์ต้องสูญเสียเช็คฉบับนั้นสำหรับที่จะใช้เป็นหลักฐานในการฟ้อง ซ. ไปเท่านั้น กรณีจึงยังเป็นความเสียหายที่ห่างไกลต่อเหตุทั้งธนาคารจำเลยนำสืบฟังได้ว่า เมื่อโจทก์นำเช็คไปเข้าบัญชีแล้วเพียง 6 วัน โจทก์ก็ทราบว่าเช็คฉบับนั้นถูกปฏิเสธการจ่ายเงินจึงยังมีทางที่โจทก์จะขอนำสืบพยานบุคคลแทนเช็คที่สูญหายไปได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93 ฉะนั้น ที่โจทก์อ้างว่าโจทก์เสียหายไปแล้วเป็นเงิน 84,000 บาท เท่าจำนวนเงินในเช็คเนื่องจากการที่โจทก์ต้องสูญเสียเช็คพิพาทไปนั้น จึงยังห่วงไกลต่อความเป็นจริงมาก ศาลไม่อาจบังคับให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ได้ดังที่โจทก์กล่าวอ้าง ค่าเสียหายประการอื่นๆ ถ้าหากจะมีโจทก์ก็มิได้ฟ้องเรียกร้องมาศาลจึงต้องยกฟ้อง
of 187