พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,822 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากการยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนพิพากษาเป็นคดีต่างหากได้
โจทก์ฟ้องจำเลยกล่าวหาว่าจำเลยผิดสัญญาจะซื้อจะขาย ขอเงินมัดจำและเงินค่างวดที่โจทก์จ่ายไปแล้วคืนพร้อมดอกเบี้ย พร้อมกับฟ้องโจทก์ได้ยื่นคำร้องในเหตุฉุกเฉินขอให้ศาลชั้นต้นยึดหรืออายัดที่ดินของจำเลยที่ 1 ไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาซึ่งศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วสั่งอนุญาตในวันถัดไป จำเลยให้การต่อสู้คดีว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญากับฟ้องแย้งว่า การที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งยึดที่ดินของจำเลยที่ 1 ก็โดยการอ้างเท็จเป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อ ขอเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ที่เกิดจากการที่ศาลชั้นต้นสั่งยึดที่ดินของจำเลยที่ 1 ไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาตามคำขอของโจทก์ ดังนี้ มูลหนี้ตามฟ้องแย้งของจำเลยดังกล่าวเกิดจากกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นที่เรียกว่าวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาเกิดขึ้นตามบทบัญญัติของกฎหมาย คือประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งต่างหากไปจากคำฟ้องเดิม ฟ้องแย้งของจำเลยที่ 1 จึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ชอบที่จำเลยที่ 1 จักฟ้องโจทก์เป็นคดีต่างหาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนพิพากษา เป็นคดีต่างหากจากฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องจำเลยกล่าวหาว่าจำเลยผิดสัญญาจะซื้อจะขายขอเงินมัดจำและเงินค่างวดที่โจทก์จ่ายไปแล้วคืนพร้อมดอกเบี้ยพร้อมกับฟ้องโจทก์ได้ยื่นคำร้องในเหตุฉุกเฉินขอให้ศาลชั้นต้นยึดหรืออายัดที่ดินของจำเลยที่1ไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาซึ่งศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วสั่งอนุญาตในวันถัดไปจำเลยให้การต่อสู้คดีว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญากับฟ้องแย้งว่าการที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งยึดที่ดินของจำเลยที่1ก็โดยการอ้างเท็จเป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อขอเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ที่เกิดจากการที่ศาลชั้นต้นสั่งยึดที่ดินของจำเลยที่1ไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาตามคำขอของโจทก์ดังนี้มูลหนี้ตามฟ้องแย้งของจำเลยดังกล่าวเกิดจากกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นที่เรียกว่าวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาเกิดขึ้นตามบทบัญญัติของกฎหมายคือป.วิ.พ.ซึ่งเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งต่างหากไปจากคำฟ้องเดิมฟ้องแย้งของจำเลยที่1จึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมชอบที่จำเลยที่1จักฟ้องโจทก์เป็นคดีต่างหาก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากการยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนพิพากษาเป็นคดีต่างหากได้
โจทก์ฟ้องจำเลยกล่าวหาว่าจำเลยผิดสัญญาจะซื้อจะขายขอเงินมัดจำและเงินค่างวดที่โจทก์จ่ายไปแล้วคืนพร้อมดอกเบี้ยพร้อมกับฟ้องโจทก์ได้ยื่นคำร้องในเหตุฉุกเฉินขอให้ศาลชั้นต้นยึดหรืออายัดที่ดินของจำเลยที่1ไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาซึ่งศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วสั่งอนุญาตในวันถัดไปจำเลยให้การต่อสู้คดีว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญากับฟ้องแย้งว่าการที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งยึดที่ดินของจำเลยที่1ก็โดยการอ้างเท็จเป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อขอเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ที่เกิดจากการที่ศาลชั้นต้นสั่งยึดที่ดินของจำเลยที่1ไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาตามคำขอของโจทก์ดังนี้มูลหนี้ตามฟ้องแย้งของจำเลยดังกล่าวเกิดจากกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นที่เรียกว่าวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาเกิดขึ้นตามบทบัญญัติของกฎหมายคือประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งต่างหากไปจากคำฟ้องเดิมฟ้องแย้งของจำเลยที่1จึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมชอบที่จำเลยที่1จักฟ้องโจทก์เป็นคดีต่างหาก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4919/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงชดใช้ค่าเสียหายที่ไม่ระบุจำนวน ไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ
ข้อตกลงตามบันทึกประจำวันของพนักงานสอบสวนมีข้อความว่า'พ. ผู้ขับขี่ยินยอมรับผิดและยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับธ. แต่ในวันนี้ยังไม่สามารถทำการตกลงค่าเสียหายได้ได้นัดให้คู่กรณีมาตกลงค่าเสียหายกันใหม่ในวันต่อไปจึงบันทึกไว้ ฯลฯ' ตามบันทึกดังกล่าวที่คู่กรณีตกลงกันได้คือ พ. ยอมรับผิดและยอมชดใช้ค่าเสียหายให้เท่านั้น แต่จำนวนค่าเสียหายที่ยอมชดใช้ยังตกลงกันไม่ได้ จะต้องตกลงกันอีกครั้งหนึ่งในวันต่อไปตามที่พนักงานสอบสวนนัดไว้ดังนี้ข้อพิพาทเรื่องจำนวนค่าเสียหายยังไม่เสร็จสิ้นข้อตกลงตามบันทึกประจำวันดังกล่าว จึงไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4873/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้ให้เช่าซื้อเมื่อผู้เช่าซื้อผิดสัญญาและไม่คืนรถ รวมถึงการคิดค่าเสียหายและการคิดดอกเบี้ย
เมื่อผู้เช่าซื้อรถยนต์ผิดสัญญาและสัญญาเลิกกันแล้ว ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิริบค่าเช่าซื้อที่ผู้เช่าซื้อชำระไว้แล้ว และกลับเข้าครอบครองรถยนต์ที่เช่าซื้อ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 574 วรรคแรก หากผู้เช่าซื้อไม่ส่งมอบรถผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพราะการไม่ชำระหนี้ ซึ่งได้แก่ค่าใช้ทรัพย์ตลอดเวลาที่ผู้เช่าซื้อครอบครองอยู่ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรค 3
สัญญาเช่าซื้อข้อ 7 ระบุว่าถ้าผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ งวดหนึ่งงวดใดก็ดี หรือผู้เช่าซื้อจะต้องชำระเงินใด ๆ แก่เจ้าของ ตามสัญญาประการหนึ่งประการใดก็ดี หรือผู้เช่าซื้อจะต้องชดใช้ ค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาประการใดประการหนึ่งก็ดีผู้เช่าซื้อยอมเสียดอกเบี้ยสำหรับเงินที่ค้างชำระและหรือค่าเสียหาย นับแต่วันผิดนัดเป็นต้นไปในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี เงินค่าขาดประโยชน์ จากการใช้รถดังกล่าวไม่อยู่ในความหมายของเงินใด ๆ หรือค่าเสียหาย ตามข้อสัญญาดังกล่าว ผู้ให้เช่าซื้อคงมีสิทธิเรียกร้องให้ผู้เช่าซื้อใช้ดอกเบี้ย ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 เท่านั้น
สัญญาเช่าซื้อข้อ 7 ระบุว่าถ้าผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ งวดหนึ่งงวดใดก็ดี หรือผู้เช่าซื้อจะต้องชำระเงินใด ๆ แก่เจ้าของ ตามสัญญาประการหนึ่งประการใดก็ดี หรือผู้เช่าซื้อจะต้องชดใช้ ค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาประการใดประการหนึ่งก็ดีผู้เช่าซื้อยอมเสียดอกเบี้ยสำหรับเงินที่ค้างชำระและหรือค่าเสียหาย นับแต่วันผิดนัดเป็นต้นไปในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี เงินค่าขาดประโยชน์ จากการใช้รถดังกล่าวไม่อยู่ในความหมายของเงินใด ๆ หรือค่าเสียหาย ตามข้อสัญญาดังกล่าว ผู้ให้เช่าซื้อคงมีสิทธิเรียกร้องให้ผู้เช่าซื้อใช้ดอกเบี้ย ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4873/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้ให้เช่าซื้อในการริบค่าเช่าซื้อและเรียกค่าเสียหายจากการไม่ส่งมอบรถยนต์เมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกัน
เมื่อผู้เช่าซื้อรถยนต์ผิดสัญญาและสัญญาเลิกกันแล้วผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิ ริบค่าเช่าซื้อที่ผู้เช่าซื้อชำระไว้แล้ว และกลับเข้าครอบครองรถยนต์ที่เช่าซื้อ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 574 วรรคแรก หากผู้เช่าซื้อไม่ส่งมอบรถผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพราะการไม่ชำระหนี้ ซึ่งได้แก่ค่าใช้ทรัพย์ตลอดเวลาที่ผู้เช่าซื้อครอบครองอยู่ตามนัยแห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 391 วรรค 3 สัญญาเช่าซื้อข้อ 7 ระบุว่าถ้าผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ งวดหนึ่งงวดใดก็ดี หรือผู้เช่าซื้อจะต้องชำระเงินใด ๆ แก่เจ้าของ ตามสัญญาประการหนึ่งประการใดก็ดี หรือผู้เช่าซื้อจะต้องชดใช้ ค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาประการใดประการหนึ่งก็ดี ผู้เช่าซื้อยอมเสียดอกเบี้ยสำหรับเงินที่ค้างชำระและหรือค่าเสียหาย นับแต่วันผิดนัดเป็นต้นไปในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี เงินค่าขาดประโยชน์ จากการใช้รถดังกล่าวไม่อยู่ในความหมายของเงินใด ๆ หรือค่าเสียหาย ตาม ข้อสัญญาดังกล่าวผู้ให้เช่าซื้อคงมีสิทธิเรียกร้องให้ผู้เช่าซื้อใช้ดอกเบี้ย ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4795/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องค่าเสียหายจากการเป็นชู้ และการแก้ไขคำฟ้องหลังชี้สองสถาน
ฟ้องโจทก์บรรยายชัดแจ้งว่าโจทก์ได้ทราบว่าจำเลยมีความสัมพันธ์ ทำนองชู้สาวกับภริยาโจทก์ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2525 และคิดดอกเบี้ย จากเงินค่าสินไหมทดแทนร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 29 มกราคม 2525 จำเลยให้การด้วยว่าคดีโจทก์ขาดอายุความเพราะโจทก์ได้รู้ถึงเรื่องที่อ้างว่าจำเลยล่วงเกินภริยาโจทก์ในทำนองชู้สาวเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2525 แต่โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2526 จึงเป็นการฟ้องเมื่อพ้นกำหนด หนึ่งปีนับแต่วันที่โจทก์รู้ความจริงที่ยกขึ้นอ้าง ศาลชั้นต้นชี้สองสถานและกำหนดประเด็นข้อพิพาทแล้วนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไข คำฟ้องในวันนัดสืบพยานโจทก์ ดังนี้ ศาลชอบที่จะสั่งให้ยกคำร้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180 เพราะโจทก์ขอแก้ไข ก่อนวันชี้สองสถานได้ และคดีไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4795/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายจากชู้ และการแก้ไขคำฟ้องหลังวันชี้สองสถาน
ฟ้องโจทก์บรรยายชัดแจ้งว่าโจทก์ได้ทราบว่าจำเลยมีความสัมพันธ์ ทำนองชู้สาวกับภริยาโจทก์ เมื่อวันที่ 28มกราคม 2525 และคิดดอกเบี้ย จากเงินค่าสินไหมทดแทนร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 29 มกราคม 2525 จำเลยให้การด้วยว่าคดีโจทก์ขาดอายุความเพราะโจทก์ได้รู้ถึงเรื่องที่อ้างว่าจำเลยล่วงเกินภริยาโจทก์ในทำนองชู้สาวเมื่อวันที่28 มกราคม 2525 แต่โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 31 มกราคม2526 จึงเป็นการฟ้องเมื่อพ้นกำหนด หนึ่งปีนับแต่วันที่โจทก์รู้ความจริงที่ยกขึ้นอ้าง ศาลชั้นต้นชี้สองสถานและกำหนดประเด็นข้อพิพาทแล้วนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไข คำฟ้องในวันนัดสืบพยานโจทก์ ดังนี้ ศาลชอบที่จะสั่งให้ยกคำร้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180เพราะโจทก์ขอแก้ไข ก่อนวันชี้สองสถานได้ และคดีไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4445/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงซ่อมรถเองหลังชน ไม่ตัดสิทธิประกันภัย ผู้รับประกันภัยมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ทำละเมิด
การที่เจ้าของรถยนต์ตกลงกันในรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีหลังเกิดเหตุรถยนต์ชนกันว่า " เจ้าของรถต่างไม่ติดใจค่าเสียหายจะนำไปซ่อมเอง เพราะมีประกันภัยไว้" แสดงว่าเจ้าของรถยังมีความประสงค์ที่จะได้รับชดใช้ค่าสินไหมทดแทนโดยให้ผู้รับประกันภัยเป็นผู้รับผิดชอบ ข้อตกลงดังกล่าวไม่ทำให้การชดใช้ค่าสินไหมทดแทนสิ้นสุดลง จึงไม่เป็นข้อตกลงในการระงับข้อพิพาทให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันตามลักษณะของสัญญาประนีประนอมยอมความ เมื่อผู้รับประกันภัยรถยนต์คันที่เสียหายได้รถยนต์คันดังกล่าวอันเป็นการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยแล้ว ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิผู้เสียหายในอันที่จะเรียกร้องให้ฝ่ายผู้ทำละเมิดชดใช้ค่าเสียหายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4367/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การช่วยเหลือค่าทำศพไม่ใช่การยอมรับผิด ค่าเสียหายทางแพ่ง
เงินจำนวน 3,000 บาทที่จำเลยที่ 3 ช่วยค่าทำศพในขณะที่จำเลยที่ 3 มิได้ยอมรับผิดว่าการตายเกิดจากการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 ผู้เป็นลูกจ้างของตน และมิได้มอบให้ในฐานะเป็นค่าเสียหายส่วนหนึ่ง แต่เป็นการให้ในลักษณะร่วมทำบุญอันเป็นสำนึกในด้านศีลธรรมและเรื่องการบุญการกุศลของจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 4 ผู้รับประกันภัยจะนำมาหักกับจำนวนเงินค่าทำศพที่โจทก์ฟ้องเรียกร้องไม่ได้