คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
มรดก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,786 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 876/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องแบ่งมรดกขาดอายุความ เฉพาะโจทก์ที่ยังมีสิทธิเท่านั้นที่ได้รับการแบ่ง
โจทก์ฟ้องขอให้แบ่งที่ดินมรดกให้โจทก์ 4 คน คนละ 1 ใน 5ปรากฏว่าโจทก์ที่ 1 แต่ผู้เดียวยังคงปกครองร่วมกับจำเลย ศาลย่อมพิพากษาให้แบ่งที่พิพาทให้โจทก์ ที่ 1,1 ใน 5

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 858/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการสืบสิทธิในมรดก หากผู้ครอบครองแสดงตนเป็นเจ้าของและผู้สืบสิทธิไม่ฟ้องร้องเป็นเวลาเกิน 10 ปี
โจทก์อ้างว่า ป.ครอบครองที่ดินไว้แทนโจทก์ แต่ ป.ได้ตายมา 10 ปีกว่าแล้ว ข้อที่ว่า ป.ปกครองแทนหรือไม่ ต่างนำสืบโต้เถียงกัน และจำเลยนำสืบว่า จำเลยปกครองเป็นของจำเลยตลอดมา ดังนี้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 858/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการขาดอายุความทางมรดก กรณีผู้ครอบครองอ้างสิทธิในฐานะเจ้าของ
โจทก์อ้างว่า ป. ครอบครองที่ดินไว้แทนโจทก์แต่ ป. ได้ตายมา 10 ปีกว่าแล้ว ข้อที่ว่า ป. ปกครองแทนหรือไม่ ต่างนำสืบโต้เถียงกันและจำเลยนำสืบว่า จำเลยปกครองเป็นของจำเลยตลอดมา ดังนี้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 857/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกและสิทธิในที่ดินร่วมกัน: การไม่เข้าร่วมของผู้รับมรดก
โจทก์ 3 คนกับ ม. ได้รับมฤดกกึ่งหนึ่งของที่พิพาท อีกกึ่งหนึ่งเป็นของจำเลย เมื่อโจทก์ 3 คนฟ้องขอแบ่ง โดย ม. มิได้เข้ามาเป็นโจทก์ หรือร้องขอรับส่วนของตนในคดี ศาลก็พิพากษาแบ่งให้โจทก์ตามส่วนที่โจทก์ควรจะได้ คือ 3 ใน 8 ส่วน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 857/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการแบ่งมรดกของทายาทที่ไม่ได้ร่วมฟ้องคดี: ศาลไม่แบ่งส่วนให้ทายาทที่ไม่เข้ามาเป็นโจทก์
โจทก์ 3 คนกับ ม. ได้รับมรดกกึ่งหนึ่งของที่พิพาท อีกกึ่งหนึ่งเป็นของจำเลย เมื่อโจทก์ 3 คน ฟ้องขอแบ่ง โดย ม. มิได้เข้ามาเป็นโจทก์ หรือร้องขอรับส่วนของตนในคดี ศาลก็พิพากษาแบ่งให้โจทก์ตามส่วนที่โจทก์ควรจะได้ คือ 3 ใน 8 ส่วน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 826/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในทรัพย์มรดกของบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรอง และสิทธิของผู้เยาว์ที่ต้องได้รับการพิจารณา
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า ก. ไม่เป็นภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมายของ พ. เพราะไม่ได้จดทะเบียนสมรส จำเลยไม่ได้ต่อสู้ความข้อนี้ เป็นแต่กล่าวในคำให้การถึงเรื่องเกี่ยวกับทรัพย์ว่า ทรัพย์นั้นเป็นสินสมรสของ พ. และ ก. ซึ่งได้สร้างขึ้นเมื่อเป็นสามีภรรยากันมาโดยชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ ต้องถือว่าในข้อที่ว่า พ. กับ ก. เป็นผัวเมียกันโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น จำเลยไม่ได้ต่อสู้ไว้โดยชัดแจ้ง จึงต้องฟังตามคำโจทก์ว่า พ. กับ ก. ไม่ได้เป็นผัวเมียกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
การที่ศาลจะแบ่งทรัพย์ระหว่างชายหญิงซึ่งไม่ใช่ผัวเมียกันอย่างเป็นเจ้าของร่วมนั้น ต้องเป็นทรัพย์ที่ชายหญิงทำมาหาได้มาด้วยกัน โดยเห็นเจตนาได้ว่าการที่เขาปฏิบัติต่อกันฉันท์สามีภรรยา และช่วยกันหาทรัพย์มาเช่นนี้ มีความประสงค์จะหาร่วมกัน
ตามมาตรา 1627 ป.ม.แพ่งฯ บุตรนอกกฎหมายถ้าบิดาได้รับรองแล้ว แม้จะยังไม่ถึงกับเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย ก็ยังอาจมีสิทธิรับมฤดกของชายผู้ให้กำเนิดได้ ในฐานะเป็นผู้สืบสันดานตามมาตรา 1629 (1) ป.ม.แพ่ง ฯ
จำเลยเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตรนอกกฎหมายของ พ. โจทก์ฟ้องห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้องกับทรัพย์มฤดกของ พ. แต่ข้อเท็จจริงที่ว่า พ. ได้รับโองเด็กเป็นบุตร อันจะทำให้เด็กมีสิทธิได้รับมฤดกของ พ. หรือไม่ ยังไม่ปรากฎ ความข้อนี้คู่ความยกขึ้นโต้เถียงอย่างชัดแจ้งในศาลล่าง แต่เป็นปัญหาที่กระทบกระเทือนสิทธิของผู้เยาว์ ซึ่งไม่ได้เป็นคู่ความ เพราะถ้าห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องกับทรัพย์นี้ในฐานที่เป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กผู้เยาว์ ผู้เยาว์อาจเสียหายได้ ดังนี้ย่อมเป็นข้อกฎหมายซึ่งเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนซึ่ง ศาลฎีกามีอำนาจย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาในข้อนี้ แล้วพิพากษาใหม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 816/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประนีประนอมในคดีผู้จัดการมรดก ไม่ถือเป็นหลักฐานการแบ่งมรดก
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดก จำเลยต่อสู้ว่า ได้มีการตกลงแบ่งมรดกกันแล้ว โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือ ซึ่งได้ความว่า โจทก์เคยยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ จำเลยคัดค้านแล้วโจทก์ได้มีหนังสือถึงทนาย ขอให้ถอนคำร้องนั้นเสีย หนังสือที่โจทก์ทำให้ทนายความไว้มีความว่า ตามที่ได้ว่าจ้างให้ดำเนินคดีเป็นผู้จัดการมรดกนายจี๋ นางแดงบัดนี้ได้ตกลงประนีประนอมกันแล้ว จึงไม่ติดใจจะดำเนินคดีต่อไป ขอให้ไปแถลงต่อศาลขอเลิกคดีดังนี้ ย่อมหมายความว่า ประนีประนอมกับอีกฝ่ายหนึ่งในทางคดี ซึ่งอาจจะเป็นอะไรก็ได้ ไม่มีข้อความใดแสดงว่า ได้ประนีประนอมแบ่งมรดกแล้ว จึงไม่เป็นหลักฐานของการแบ่งมรดก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิโดยไม่สุจริตของผู้รับมรดก - เพิกถอนนิติกรรม - การครอบครองปรปักษ์
ภรรยาได้ประกาศรับมฤดกที่ดินของสามีแล้วโอนขายให้บุคคลอื่น แม้จะปรากฎว่าภรรยามิได้จดทะเบียนสมรสก็ดี แต่ได้มีการไหว้ผีตามประเพณี และอยู่ร่วมกันโดยเปิดเผยจนมีบุตรด้วยกัน 3 คน การที่โอนขายให้แก่บุคคลผู้นั้น ก็เนื่องจากสัญญาเดิมที่สามีได้ทำไว้ ซึ่งเป็นการชอบด้วยศีลธรรม เมื่อภรรยามาประกาศรับมฤดก โจทก์ก็ไม่มาคัดค้าน ปล่อยให้ภรรยารับมฤดกมาโอนขายแก่บุคคลผู้นั้น ๆ รับซื้อไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน โจทก์จึงขอให้เพิกถอนนิติกรรม ดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่าโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 5 จะมาขอให้เพิกถอนนิติกรรมนั้นไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตของผู้รับมรดกและการซื้อขายที่ดินโดยสุจริต
ภรรยาได้ประกาศรับมรดกที่ดินของสามีแล้วโอนขายให้บุคคลอื่นแม้จะปรากฏว่าภรรยามิได้จดทะเบียนสมรสก็ดี แต่ได้มีการไหว้ผีตามประเพณีและอยู่ร่วมกันโดยเปิดเผยจนมีบุตรด้วยกัน 3 คน การที่โอนขายให้แก่บุคคลผู้นั้นก็เนื่องจากสัญญาเดิมที่สามีได้ทำไว้ ซึ่งเป็นการชอบด้วยศีลธรรม เมื่อภรรยามาประกาศรับมรดก โจทก์ก็ไม่มาคัดค้านปล่อยให้ภรรยารับมรดกมาโอนขายแก่บุคคลผู้นั้น บุคคลผู้นั้นรับซื้อไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน โจทก์จึงขอให้เพิกถอนนิติกรรม ดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่าโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 5จะมาขอให้เพิกถอนนิติกรรมนั้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801-802/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเช่าตกทอดทางมรดก: สัญญาเช่าที่ดินเพื่อทำสวนเป็นสัญญาต่างตอบแทน สิทธิและหน้าที่ของผู้เช่าตกแก่ทายาท
ทำสัญญาเช่าที่ดิน โดยมีข้อสัญญาว่า ผู้เช่าต้องหาต้นผลไม้มาปลูกเอง ดังนี้ เป็นสัญญาต่างตอบแทนเมื่อผู้เช่าตาย สิทธิและหน้าที่ของผู้เช่าก็ตกไปยังทายาท ทายาทมีสิทธิที่จะได้เช่าต่อไปจนครบกำหนดตามสัญญาเช่าที่ทำไว้ต่อกัน
(อ้างฎีกา 172/2488)
of 179