พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,024 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาข้อเท็จจริงยุติ – การยกประเด็นใหม่ในฎีกาที่ไม่เคยว่ากล่าวในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยร่วมกันกระทำผิดฐานชิงทรัพย์และฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายและลงโทษจำเลย โจทก์เพียงฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นตามฟ้องโดยจำเลยมิได้อุทธรณ์หรือแก้อุทธรณ์ว่าตนมิได้กระทำผิดศาลอุทธรณ์พิพากษายืน การที่จำเลยฎีกาว่าตนไม่ได้ฆ่าผู้ตายขอให้ลงโทษสถานเบาจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงที่ยุติแล้ว และเป็นปัญหาที่มิได้ว่ากล่าวกันมาในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาในรับวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2716/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาที่ไม่คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และการยกฎีกาที่ไม่แสดงเหตุผลโต้แย้ง
ฎีกาของโจทก์มิได้กล่าวอ้างว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ถูกต้องอย่างไร คงคัดลอกข้อความในอุทธรณ์มาไว้ในฎีกาเท่านั้น จึงเป็นฎีกาที่มิได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2716/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัย เหตุไม่ได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เพียงแต่คัดลอกเนื้อหาจากอุทธรณ์
ฎีกาของโจทก์มิได้กล่าวอ้างว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ถูกต้องอย่างไร คงคัดลอกข้อความในอุทธรณ์มาไว้ในฎีกาเท่านั้น จึงเป็นฎีกาที่มิได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2683/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริงเมื่อศาลอุทธรณ์แก้โทษจำคุกและเรื่องสินบนนำจับตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกในความผิดฐานมีไม้ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยลงโทษจำคุกจำเลยแต่ละกระทงไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษจำคุกสถานเดียวโดยไม่ปรับและไม่รอการลงโทษ ก็เป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำเลยให้จำคุกแต่ละกระทงไม่เกินหนึ่งปีจึงเป็นคดีที่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้าม ในกรณีที่มีคำขอให้จ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับตามพระราชบัญญัติ ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 74 จัตวา ศาลจะพิพากษาให้จ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับได้ก็ต่อเมื่อมีการลงโทษปรับจำเลยด้วย เพราะจำนวนเงินค่าปรับจะต้องนำมาเป็นเกณฑ์ในการคำนวณว่าจะต้องจ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับเป็นจำนวนเท่าใด เมื่อความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกแต่อย่างเดียวโดยไม่ลงโทษปรับก็ต้องยกคำขอที่ให้จ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2681/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำพิพากษาเรื่องการริบของกลาง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากเป็นการโต้เถียงดุลพินิจและเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องห้ามฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจำเลย 1,000 บาท และไม่ริบของกลางศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะของกลางเป็นให้ริบ เป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จำเลยฎีกาขอให้ไม่ริบของกลาง เป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาล เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2489/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม เนื่องจากเป็นการโต้แย้งดุลพินิจศาลอุทธรณ์ในการกำหนดโทษคดีเกี่ยวกับยาเสพติด
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยรวม 2 กระทง โดยเรียงกระทงลงโทษจำคุกกระทงละ 1 ปี และปรับกระทงละ 10,000 บาท รอการลงโทษไว้กระทงละ 2 ปี และให้คุมความประพฤติจำเลยมีกำหนด 1 ปี โดยให้จำเลยไปรายงานตัวทุก 3 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าไม่รอการลงโทษ ไม่ปรับ และไม่คุมความประพฤติจำเลย ดังนี้ เท่ากับศาลอุทธรณ์ยังคงพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินกระทงละ 1 ปีหรือปรับไม่เกินกระทงละ 10,000 บาท ที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ และคุมความประพฤติจำเลย ซึ่งเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลอุทธรณ์ อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2435/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกข้อต่อสู้เรื่องการกู้ยืมในชั้นฎีกาที่ไม่ชอบ เพราะควรยกขึ้นในคำให้การตั้งแต่ชั้นต้น
โจทก์ฟ้องบังคับจำเลยให้ใช้เงินทดรองที่โจทก์ออกแทนจำเลยไป หากจำเลยเห็นว่าข้ออ้างตามฟ้องโจทก์เป็นเรื่องการฟ้องบังคับตามสัญญากู้ยืมเงินจำเลยก็สามารถยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคำให้การตั้งแต่ศาลชั้นต้น จำเลยให้การเพียงว่าโจทก์มิได้ออกเงินทดรองแทนจำเลย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ กรณีจึงมิใช่เป็นเรื่องที่จำเลยไม่สามารถแยกปัญหานี้ขึ้นอ้างในศาลชั้นต้น เนื่องจากพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2027/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ศาลชั้นต้นไม่ลงโทษ แต่ศาลฎีกาสั่งลงโทษได้หากโจทก์ฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับใบอนุญาต แต่ไม่ลงโทษฐานนี้เพราะได้ลงโทษประหารชีวิตจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว โจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้ยกฟ้องเฉพาะความผิดฐานพาอาวุธปืนเมื่อโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ถ้าศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยมีความผิดก็มีอำนาจกำหนดโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ได้ โดยเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงประหารชีวิตจำเลยสถานเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1650/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อหาจากทำร้ายร่างกายเป็นอันตรายสาหัส และข้อจำกัดในการฎีกาข้อเท็จจริงเดิม
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายตามมาตรา295 จำคุก 8 เดือนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้เกิดอันตรายสาหัสตามมาตรา 297 จำคุก 2 ปี ดังนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ข้อหาพยายามฆ่าโดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 มิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงฐานพยายามฆ่า.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาจำเลยถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานร่วมกันฆ่า แต่ฎีกาข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนไม่ได้ เพราะเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289, 288, 83 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 288 จึงมีผลเท่ากับศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) โดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์จึงฎีกาข้อหานี้ในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220