พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,111 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องในคดีเบิกความเท็จ: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงจากเหตุการณ์
เจ้ามรดกทำพินัยกรรมตั้งผู้จัดการมรดกในรูปคณะกรรมการจัดการมรดกโดยระบุชื่อบุคคลพวกหนึ่ง และระบุตำแหน่งอีกพวกหนึ่งรวมทั้งหมด 11 ท่าน โดยมีตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสงครามรวมอยู่ด้วย และมีข้อกำหนดไว้ว่าให้คณะกรรมการตั้งแต่ 5 ท่านขึ้นไปเป็นองค์ประชุมจัดการทรัพย์มรดกได้ พินัยกรรมมิได้ระบุชื่อโจทก์หรือตั้งโจทก์ให้เป็นคณะกรรมการจัดการมรดก
โจทก์ในฐานะส่วนตัวจึงไม่ใช่เป็นผู้จัดการมรดก ตามคำฟ้องของโจทก์อ่านเข้าใจได้ว่าโจทก์ในฐานะส่วนตัวได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม มิได้อ้างว่าโจทก์เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสงคราม หรือฟ้องในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสงคราม โจทก์ในฐานะส่วนตัวไม่ได้รับความเสียหาย จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยได้
โจทก์ในฐานะส่วนตัวจึงไม่ใช่เป็นผู้จัดการมรดก ตามคำฟ้องของโจทก์อ่านเข้าใจได้ว่าโจทก์ในฐานะส่วนตัวได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม มิได้อ้างว่าโจทก์เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสงคราม หรือฟ้องในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสงคราม โจทก์ในฐานะส่วนตัวไม่ได้รับความเสียหาย จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3314/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาเกินกำหนดเวลาตามกฎหมายศาลแขวงและการขาดอำนาจฟ้อง
จำเลยถูกจับ 2 ข้อหา ฐานดูดทรายในแม่น้ำเจ้าพระยา กับควบคุมเรือยนต์และเครื่องจักรเรือยนต์โดยไม่มีประกาศนียบัตร นำส่งอัยการอัยการไม่ฟ้องฐานดูดทรายซึ่งอยู่ในอำนาจศาลจังหวัด พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาฐานควบคุมเรือยนต์ฯอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งแรกอัยการมิได้ขอผัดฟ้อง และมิได้รับอนุญาตให้ฟ้องเกินกำหนดจากอธิบดีกรมอัยการ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3259/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพิพากษาคดีอาญาไม่ผูกพันจำเลยในคดีแพ่ง กรณีจำเลยมิได้ถูกฟ้องในคดีอาญา
คดีอาญาศาลพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 ขับรถโดยประมาทลงโทษจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 2,3 นายจ้างจำเลยที่ 1มิได้ถูกฟ้องคดีอาญาด้วย คำพิพากษานั้นไม่ผูกพันจำเลยที่ 2,3 ในคดีแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3213/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตฎีกาในคดีอาญา: เหตุผลความสำคัญของปัญหาข้อเท็จจริงต้องชัดเจน
ผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นสั่งฎีกาของจำเลยว่า "คดีนี้ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แต่เมื่อได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ขณะเจ้าพนักงานขอตรวจใบอนุญาตขับขี่ จำเลยก็ควักให้เจ้าพนักงานตรวจโดยดี หาได้มีการส่อพิรุธอย่างใดไม่ ใบอนุญาตของกลางตามเอกสารหมาย จ. 1 ก็ปรากฏว่า แม้บุคคลธรรมดาก็หาได้รู้ไม่ว่าจะเป็นของปลอมกรณีจำเลยอาจไม่รู้ว่าเป็นของปลอมก็เป็นได้ เห็นสมควรอนุญาตให้ฎีกาได้เพื่อศาลฎีกาจะได้วินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานต่อไป สำเนาให้โจทก์แก้" ตามคำสั่งดังกล่าวไม่มีข้อความตอนใดแสดงหรืออนุมานได้ว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญาหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด ที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกา จึงไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ชอบที่ศาลฎีกาจะรับไว้พิจารณาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3200/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีแทนโจทก์ตามใบมอบอำนาจ: ใบมอบอำนาจเฉพาะเจาะจงให้ฟ้องคดีได้ ถือเป็นอำนาจฟ้องคดีอาญาได้
ใบมอบอำนาจมีข้อความว่า ข้าพเจ้านาย ม.ขอมอบอำนาจให้นาย อ. เป็นผู้มีอำนาจทำการแทนนาย ม. และมีอำนาจมอบหมายแต่งตั้ง ถอดถอนทนายความหรือตัวแทนช่วงเพื่อที่จะเรียกร้องทวงถาม ฟ้องร้องดำเนินคดีใดๆ แก่บุคคลและหรือนิติบุคคลซึ่งได้กระทำความเสียหายแก่นาย ม. มิใช่เป็นใบมอบอำนาจทั่วไป แต่เป็นใบมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทนผู้รับมอบอำนาจได้
ใบมอบอำนาจที่ระบุให้ผู้รับมอบอำนาจฟ้องร้องดำเนินคดีใดๆ แก่บุคคลผู้ได้กระทำความเสียหายแก่ผู้มอบอำนาจนั้น ผู้รับมอบอำนาจย่อมมีอำนาจฟ้องคดีอาญาได้ โดยไม่จำต้องระบุตัวผู้ต้องถูกดำเนินคดีอาญาหรือฐานความผิดไว้ด้วย
ใบมอบอำนาจที่ระบุให้ผู้รับมอบอำนาจฟ้องร้องดำเนินคดีใดๆ แก่บุคคลผู้ได้กระทำความเสียหายแก่ผู้มอบอำนาจนั้น ผู้รับมอบอำนาจย่อมมีอำนาจฟ้องคดีอาญาได้ โดยไม่จำต้องระบุตัวผู้ต้องถูกดำเนินคดีอาญาหรือฐานความผิดไว้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3200/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาตามใบมอบอำนาจ: ใบมอบอำนาจเฉพาะเจาะจงให้ฟ้องคดีได้ ถือเป็นอำนาจฟ้องคดีอาญาได้
ใบมอบอำนาจมีข้อความว่า ข้าพเจ้านาย ม. ขอมอบอำนาจให้นาย อ. เป็นผู้มีอำนาจทำการแทนนาย ม. และมีอำนาจมอบหมายแต่งตั้ง ถอดถอนทนายความหรือตัวแทนช่วงเพื่อที่จะเรียกร้องทวงถาม ฟ้องร้องดำเนินคดีใด ๆ แก่บุคคลและหรือนิติบุคคลซึ่งได้กระทำความเสียหายแก่นาย ม. มิใช่เป็นใบมอบอำนาจทั่วไป แต่เป็นใบมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทนผู้มอบอำนาจได้
ใบมอบอำนาจที่ระบุให้ผู้รับมอบอำนาจฟ้องร้องดำเนินคดีใด ๆแก่บุคคลผู้ได้กระทำความเสียหายแก่ผู้มอบอำนาจนั้นผู้รับมอบอำนาจย่อมมีอำนาจฟ้องคดีอาญาได้ โดยไม่จำต้องระบุตัวผู้ต้องถูกดำเนินคดีอาญาหรือฐานความผิดไว้ด้วย
ใบมอบอำนาจที่ระบุให้ผู้รับมอบอำนาจฟ้องร้องดำเนินคดีใด ๆแก่บุคคลผู้ได้กระทำความเสียหายแก่ผู้มอบอำนาจนั้นผู้รับมอบอำนาจย่อมมีอำนาจฟ้องคดีอาญาได้ โดยไม่จำต้องระบุตัวผู้ต้องถูกดำเนินคดีอาญาหรือฐานความผิดไว้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3057/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์รวมคดีอาญา - ศาลอุทธรณ์มีอำนาจยกฟ้องทั้งคดี แม้ไม่อุทธรณ์บางข้อหา หากข้อเท็จจริงเชื่อมโยงกัน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีสุรากลั่นและสุราแช่กรรมหนึ่ง และฐานจำหน่ายสุราอีกกรรมหนึ่ง ศาลชั้นต้น(ศาลแขวง) ยกฟ้องโจทก์สำหรับข้อหาจำหน่ายสุราส่วนข้อหามีสุรากลั่นและสุราแช่แยกลงโทษเป็น 2 กรรม กรรมแรกปรับ 200 บาท ส่วนกรรมหลังปรับ 600 บาท และสั่งรับอุทธรณ์ข้อเท็จจริงของจำเลยเฉพาะกรรมหลังซึ่งปรับ 600 บาทส่วนกรรมแรกไม่รับ เพราะเห็นว่าปรับไม่เกิน 500 บาท ต้องห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง แม้ศาลชั้นต้นจะไม่รับอุทธรณ์ข้อหามีสุรากลั่น ก็ต้องถือว่าข้อหามีสุรากลั่นนั้นยังไม่ถึงที่สุด เพราะข้อหามีสุรากลั่นและมีสุราแช่รวมเป็นความผิดอยู่ในกรรมเดียวกัน เมื่อศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด ย่อมจะยกฟ้องโจทก์ไปถึงข้อหามีสุรากลั่นได้ด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ประกอบด้วย มาตรา 215
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2918/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการพิจารณาคดีอาญา: ศาลฎีกาไม่อาจวินิจฉัยนอกเหนือจากประเด็นที่โจทก์ฟ้องและศาลอุทธรณ์ได้พิจารณา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยนำใบสำคัญทหารกองเกินอันเป็นเอกสารราชการปลอมไปใช้เป็นเอกสารประกอบคำร้องขอรับหนังสือเดินทาง ขอให้ลงโทษ มิได้ฟ้องว่าจำเลยนำสำเนาทะเบียนบ้านปลอมไปใช้แต่อย่างใด การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยยื่นคำร้องเพื่อทำหนังสือเดินทางโดยได้แนบเอกสารต่าง ๆมีเอกสารหมาย จ.13(สำเนาทะเบียนบ้าน) ซึ่งเป็นเอกสารปลอมรวมอยู่ด้วย จำเลยจึงมีความผิดฐานใช้เอกสารปลอม ดังนี้เป็นการพิพากษาลงโทษจำเลยนอกเหนือข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 และเมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานใช้เอกสารใบสำคัญทหารกองเกินปลอม การที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานใช้เอกสารดังกล่าวนี้ปลอมศาลฎีกาก็รับวินิจฉัยให้ไม่ได้เพราะไม่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วแต่ในชั้นศาลอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2807/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลคำพิพากษาคดีอาญาผูกพันคดีแพ่ง: ที่ดินพิพาทเป็นของผู้เสียหายตามคำพิพากษาอาญา
พนักงานอัยการฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาในข้อหาบุกรุก โจทก์ในฐานะผู้เสียหายได้ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม และยังเป็นโจทก์ในคดีแพ่งคดีนี้อีกโดยขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทรายเดียวกัน ต่อมาศาลได้มีคำพิพากษาในคดีส่วนอาญาถึงที่สุดแล้วว่า ที่พิพาทเป็นของผู้เสียหาย ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา โดยต้องฟังว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2768/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 170: ผู้เสียหายโดยตรง
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 170 มุ่งหมายเอาโทษแก่ผู้ที่ขัดขืนคำสั่งของศาลที่ให้ส่งเอกสารในการพิจารณาคดี อันเป็นบทบัญญัติถึงการกระทำความผิดต่อศาลซึ่งเป็นเจ้าพนักงานในการยุติธรรมโดยตรงเฉพาะ โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงจากการกระทำของจำเลย จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรานี้