พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,887 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเฉลี่ยทรัพย์: เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นต้องไม่สามารถชำระหนี้ได้จากทรัพย์สินอื่น จึงจะขอเฉลี่ยได้
ในกรณีที่ร้องขอเข้าเฉลี่ยทรัพย์ตาม มาตรา 290 วรรค 1,2นี้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นจะเข้าเฉลี่ยในทรัพย์สินไม่ได้ก็แต่ในกรณีที่ยังมีทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาอยู่และเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นนั้นยังอาจเอาชำระได้จากทรัพย์สินอื่นๆ นั้น
คำว่า " สามารถชำระได้จากทรพย์สินอื่นๆ ของลูกหนี้ " นั้นหมายความว่าเอาชำระได้โดยสิ้นเชิง การได้ชำระหนี้แต่เพียงบางส่วนหาใช่เป็นการสามารถเอาชำระหนี้ได้ตาม มาตรา 290 วรรคสองไม่
มาตรา 290 วรรคสองบัญญัติไว้สำหรับห้ามเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นมิให้เข้ามาขอเฉลี่ยในกรณีที่ยังมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่อีก และเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นนั้นสามารถเอาชำระจากทรัพย์สินนั้นได้เท่านั้น
คำว่า " สามารถชำระได้จากทรพย์สินอื่นๆ ของลูกหนี้ " นั้นหมายความว่าเอาชำระได้โดยสิ้นเชิง การได้ชำระหนี้แต่เพียงบางส่วนหาใช่เป็นการสามารถเอาชำระหนี้ได้ตาม มาตรา 290 วรรคสองไม่
มาตรา 290 วรรคสองบัญญัติไว้สำหรับห้ามเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นมิให้เข้ามาขอเฉลี่ยในกรณีที่ยังมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่อีก และเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นนั้นสามารถเอาชำระจากทรัพย์สินนั้นได้เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1571/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำหลังมีคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมเรื่องแบ่งที่ดิน ศาลฎีกาตัดสินว่าเป็นการฟ้องซ้ำ
คดีมีคำพิพากษาถึงที่สุดตามสัญญาประนีประนอมให้แบ่งที่ดินกันระหว่างคู่ความเป็นส่วนๆ แต่ชั้นบังคับคดีเกิดมีปัญหาในเรื่องเนื้อที่ของที่ดินที่จะแบ่ง และศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งชี้ขาดไปแล้ว หากคู่ความเห็นว่าศาลชั้นต้นสั่งไม่ถูกต้องประการใด ก็ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อไป จะฟ้องเป็นคดีใหม่ไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1571/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำหลังมีคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอม การบังคับคดีต้องเป็นไปตามคำพิพากษาเดิม
คดีมีคำพิพากษาถึงที่สุดตามสัญญาประนีประนอมให้แบ่งที่ดินกันระหว่างคู่ความเป็นส่วนๆ แต่ชั้นบังคับคดีเกิดมีปัญหาในเรื่องเนื้อที่ของที่ดินที่จะแบ่ง และศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งชี้ขาดไปแล้ว หากคู่ความเห็นว่าศาลชั้นต้นสั่งไม่ถูกต้องประการใด ก็ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อไป จะฟ้องเป็นคดีใหม่ไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1440/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่แจ้งสำเนาคำอุทธรณ์แก่จำเลย ส่งผลให้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่สมบูรณ์
เมื่อโจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น ๆ ส่งสำเนาให้จำเลยบางคนไม่ได้ หากศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยทุกคนนั้นย่อมเป็นการไม่ถูกต้องตามกระบวนพิจารณา ศาลฎีกาต้องย้อนสำนวนไปให้พิจารณาพิพากษาใหม่
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 20/2498)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 20/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1440/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยครบถ้วน ทำให้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่สมบูรณ์ ต้องย้อนสำนวน
เมื่อโจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นส่งสำเนาให้จำเลยบางคนไม่ได้ หากศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยทุกคนนั้นย่อมเป็นการไม่ถูกต้องตามกระบวนพิจารณา ศาลฎีกาต้องย้อนสำนวนไปให้พิจารณาพิพากษาใหม่ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 20/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129-130/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำพิพากษาศาลฎีกาที่ผิดพลาด เพื่อให้ถูกต้องตามคำพิพากษาศาลล่างในเรื่องการลดโทษ
คดีที่จำเลยฎีกาฝ่ายเดียวและศาลฎีกามีคำพิพากษาไปแล้วแต่ต่อมาปรากฏว่าจำเลยในคดีนั้น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่ามีความผิดและพิพากษายืนตามศาลล่างทั้งบทและกำหนดโทษไม่มีคำวินิจฉัยเปลี่ยนแปลงเรื่องการลดโทษ แต่ได้เขียนผิดพลาดตกข้อความที่ลดโทษให้จำเลยดังที่ศาลล่างพิพากษามาเสียศาลฎีกาย่อมมีคำพิพากษาเพิ่มเติมแก้ไขการเขียนผิดพลาดนั้นเสียให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: ค่าเสียหายจากการทำประโยชน์ในที่พิพาทหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
โจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องผิดสัญญาซื้อขาย คดีถึงที่สุดศาลบังคับให้จำเลยขายที่รายพิพาทให้แก่โจทก์ แล้วต่อมาโจทก์จะมาฟ้องว่าในระหว่างคดีก่อนนั้นจำเลยเข้าทำผลประโยชน์ในที่รายพิพาท ขอเรียกค่าเสียหายอีกไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: ค่าเสียหายจากการทำประโยชน์ในที่พิพาทหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
โจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องผิดสัญญาซื้อขาย คดีถึงที่สุดศาลบังคับให้จำเลยขายที่รายพิพาทให้แก่โจทก์ แล้วต่อมาโจทก์จะมาฟ้องว่าในระหว่างคดีก่อนนั้นจำเลยเข้าทำผลประโยชน์ในที่รายพิพาท ขอเรียกค่าเสียหายอีกไม่ได้เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 997/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นเดียวกันห้ามยกขึ้นต่อสู้ซ้ำ และคำพิพากษาเกี่ยวกับฐานะบุคคลย่อมมีผลผูกพัน
โจทก์กับจำเลยที่ 2 เคยพิพาทกันเรื่องแบ่งทรัพย์สิน ศาลได้วินิจฉัยถึงประเด็นเรื่องการหย่าระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 ในคดีนั้นแล้ว ครั้นต่อมาโจทก์ได้ฟ้องขอให้เพิกถอนการสมรสระหว่างจำเลยที่ 1 และ 2 ในคดีหลังนี้จำเลยที่ 2 จะยกประเด็นเรื่องหย่าขึ้นต่อสู้โจทก์อีกไม่ได้ เพราะเป็นประเด็นเดียวกันและโจทก์กับจำเลยก็เป็นคู่ความเดียวกัน ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
คำพิพากษาในคดีก่อนเรื่องแบ่งทรัพย์สินที่วินิจฉัยชี้ประเด็นเรื่องหย่าไว้ด้วยนั้นเป็นคำพิพากษาเกี่ยวกับฐานะของบุคคลย่อมใช้ยันจำเลยที่ 1 ด้วยได้ จำเลยที่ 1จะขอสืบพยานในประเด็นเรื่องหย่าในคดีนี้อีกไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2498)
คำพิพากษาในคดีก่อนเรื่องแบ่งทรัพย์สินที่วินิจฉัยชี้ประเด็นเรื่องหย่าไว้ด้วยนั้นเป็นคำพิพากษาเกี่ยวกับฐานะของบุคคลย่อมใช้ยันจำเลยที่ 1 ด้วยได้ จำเลยที่ 1จะขอสืบพยานในประเด็นเรื่องหย่าในคดีนี้อีกไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 740/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคืนของกลาง: ศาลมีอำนาจสั่งคืนของกลางให้เจ้าของที่แท้จริงได้ แม้มีคำพิพากษาให้ริบแล้ว ไม่ถือเป็นการแก้คำพิพากษา
ศาลมีคำพิพากษาให้ริบของกลาง ต่อมามีผู้มาร้องว่าของกลางนั้นเป็นของผู้ร้องเมื่อศาลเชื่อว่าของกลางเป็นของผู้ร้องจริงศาลก็อาจสั่งคืนให้ผู้ร้องได้ ไม่เป็นการแก้คำพิพากษา