คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความเสียหาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,842 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1188/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันในละเมิดจากการสมคบกันหลอกลวงและนำรถของผู้อื่นไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
จำเลยทั้งสามสมคบกันหลอกลวงโจทก์ นำรถของโจทก์จากจังหวัดลำพูนมาถึงกรุงเทพฯ โดยโจทก์มิได้ยินยอม แม้จำเลยที่ 1 จะเป็นผู้ขับรถนั้นไปชนโคกกลางทางจนรถของโจทก์เสียหาย ในขณะนั้น รถของโจทก์อยู่ในความครอบครองของจำเลยทั้งสามด้วยกัน เช่นนี้ถือได้ว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันทำละเมิดต่อโจทก์ ต้องรับผิดร่วมกันต่อโจทก์ตลอดจนถึงความเสียหายของรถที่ได้รับจากการที่จำเลยที่ 1 ขับไปชนโคนั้นด้วย เพราะเป็นผลเสียหายสืบเนื่องโดยตรงจากการกระทำของจำเลยทั้งสาม กล่าวคือ ถ้าจำเลยไม่ร่วมกันเอารถไปใช้โดยละเมิดแก่โจทก์แล้ว ความเสียหายนั้น ก็จะไม่บังเกิดขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1188/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันในละเมิดจากการหลอกลวงเช่ารถและนำไปใช้โดยมิชอบ การกระทำละเมิดเชื่อมโยงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น
จำเลยทั้งสามสมคบกันหลอกลวงโจทก์นำรถของโจทก์จากจังหวัดลำพูนมาถึงกรุงเทพฯ โดยโจทก์มิได้ยินยอม แม้จำเลยที่ 1จะเป็นผู้ขับรถนั้นไปชนโคกลางทางจนรถของโจทก์เสียหาย ในขณะนั้น รถของโจทก์อยู่ในความครอบครองของจำเลยทั้งสามด้วยกัน เช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยทั้งสามร่วมกันทำละเมิดต่อโจทก์ ต้องรับผิดร่วมกันต่อโจทก์ตลอดจนถึงความเสียหายของรถที่ได้รับจากการที่จำเลยที่ 1ขับไปชนโคนั้นด้วย เพราะเป็นผลเสียหายสืบเนื่องโดยตรงจากการกระทำของจำเลยทั้งสาม กล่าวคือถ้าจำเลยไม่ร่วมกันเอารถไปใช้โดยละเมิดแก่โจทก์แล้ว ความเสียหายนั้น ก็จะไม่บังเกิดขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมการบริษัทมีหน้าที่ใช้ความระมัดระวัง ปกปิดข้อมูลทำให้บริษัทเสียหาย ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายไม่ได้
โจทก์เป็นประธานกรรมการบริษัทจำเลยและเป็นเจ้าของที่ดินและตึกซึ่งบริษัทจำเลยเช่าอยู่ โจทก์ได้ทำสัญญาจะขายที่ดินและตึกให้แก่ผู้ซื้อ โดยมีเงื่อนไขเป็นสาระสำคัญว่า โจทก์รับรองจะให้บริษัทจำเลยออกจากตึกและให้ผู้ซื้อเข้าครอบครองที่ดินและตึกภายใน 3 เดือน นับแต่วันทำสัญญา ถ้าโจทก์ไม่สามารถปฏิบัติได้ โจทก์ยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นเงิน 160,000 บาท โจทก์ได้แจ้งให้บริษัทจำเลยออกจากที่ดินและตึกภายใน 3 เดือน ก่อนครบกำหนด 3 เดือน เพียง 1 วัน โจทก์จึงได้แจ้งให้บริษัทจำเลยทราบว่า ถ้าโจทก์ส่งมอบที่ดินและตึกให้แก่ผู้ซื้อไม่ได้ตามกำหนด โจทก์จะถูกผู้ซื้อเรียกค่าเสียหาย ดังนี้ถือว่าโจทก์เป็นประธานกรรมการบริษัทจำเลยมีหน้าที่จะต้องใช้ความเอื้อเฟื้อสอดส่องอย่างบุคคลค้าขายผู้ประกอบด้วยความระมัดระวัง ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1167 โจทก์กลับปกปิดความจริงเรื่องที่จะต้องถูกผู้ซื้อที่ดินและตึกเรียกค่าเสียหาย เพิ่งแจ้งให้บริษัททราบต่อเมื่ออีก 1 วันจะต้องถูกผู้ซื้อปรับ การกระทำของโจทก์เป็นการจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ผิดวิสัยบุคคลค้าขายผู้ประกอบด้วยความระมัดระวังจะพึงปฏิบัติ ทำให้บริษัทจำเลยและผู้ถือหุ้นทั้งหลายต้องเสียหาย
โจทก์จะนำผลแห่งความละเมิดของตนมาฟ้องร้องเรียกเบี้ยปรับที่โจทก์ต้องเสียแก่ผู้ซื้อไปและค่าเสียหายอื่น ๆ จากบริษัทจำเลยหาได้ไม่
ค่าสินไหมทดแทนในการที่ผู้เช่าออกจากสถานที่เช่าเนิ่นช้า นั้น ตามธรรมดาควรจะเป็นจำนวนเท่ากับค่าเช่าเป็นรายวัน ส่วนค่าเสียหายอื่นนอกจากนี้ นับว่าเป็นค่าเสียหายในพฤติการณ์พิเศษ ซึ่งผู้เช่าจะต้องรู้ถึงความเสียหายพิเศษนี้ในระยะเวลาอันสมควรก่อนที่ตกลงไว้ว่าจะออกจากสถานที่เช่า ผู้ให้เช่าจึงเรียกร้องค่าเสียหายในพฤติการณ์พิเศษนี้จากผู้เช่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมการบริษัทละเลยหน้าที่ ปกปิดความเสียหาย ทำให้บริษัทต้องเสียค่าปรับ ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทไม่ได้
โจทก์เป็นประธานกรรมการบริษัทจำเลยและเป็นเจ้าของที่ดินและตึกซึ่งบริษัทจำเลยเช่าอยู่ โจทก์ได้ทำสัญญาจะขายที่ดินและตึกให้แก่ผู้ซื้อ โดยมีเงื่อนไขเป็นสาระสำคัญว่า โจทก์รับรองจะให้บริษัทจำเลยออกจากตึกและให้ผู้ซื้อเข้าครอบครองที่ดินและตึกภายใน 3 เดือน นับแต่วันทำสัญญา ถ้าโจทก์ไม่สามารถปฏิบัติได้ โจทก์ยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นเงิน 160,000 บาท โจทก์ได้แจ้งให้บริษัทจำเลยออกจากที่ดินและตึกภายใน 3 เดือน ก่อนครบกำหนด 3 เดือนเพียง 1 วันโจทก์จึงได้แจ้งให้บริษัทจำเลยทราบว่า ถ้าโจทก์ส่งมอบที่ดินและตึกให้แก่ผู้ซื้อไม่ได้ตามกำหนด โจทก์จะถูกผู้ซื้อเรียกค่าเสียหายดังนี้ถือว่าโจทก์เป็นประธานกรรมการบริษัทจำเลยมีหน้าที่จะต้องใช้ความเอื้อเฟื้อสอดส่องอย่างบุคคลค้าขายผู้ประกอบด้วยความระมัดระวังตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1167 โจทก์กลับปกปิดความจริงเรื่องที่จะต้องถูกผู้ซื้อที่ดินและตึกเรียกค่าเสียหาย เพิ่งแจ้งให้บริษัททราบต่อเมื่ออีก 1 วัน จะต้องถูกผู้ซื้อปรับการกระทำของโจทก์เป็นการจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ผิดวิสัยบุคคลค้าขายผู้ประกอบด้วยความระมัดระวังจะพึงปฏิบัติ ทำให้บริษัทจำเลยและผู้ถือหุ้นทั้งหลายต้องเสียหาย โจทก์จะนำผลแห่งความละเมิดของตนมาฟ้องร้องเรียกเบี้ยปรับที่โจทก์ต้องเสียแก่ผู้ซื้อไปและค่าเสียหายอื่นๆ จากบริษัทจำเลยหาได้ไม่
ค่าสินไหมทดแทนในการที่ผู้เช่าออกจากสถานที่เช่าเนิ่นช้า นั้น ตามธรรมดาควรจะเป็นจำนวนเงินเท่ากับค่าเช่าเป็นรายวัน ส่วนค่าเสียหายอื่นนอกจากนี้นับว่าเป็นค่าเสียหายในพฤติการณ์พิเศษ ซึ่งผู้เช่าจะต้องรู้ถึงความเสียหายพิเศษนี้ในระยะเวลาอันสมควรก่อนที่ตกลงไว้ว่าจะออกจากสถานที่เช่า ผู้ให้เช่าจึงจะเรียกร้องค่าเสียหายในพฤติการณ์พิเศษนี้จากผู้เช่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ว่าจ้างต่อความเสียหายจากการก่อสร้าง แม้จ้างเหมาแล้วก็ตาม
ฟ้องว่า รั้วสังกะสีเสียหายไปประมาณ 50 แผ่นรวมทั้งทรัพย์สินอื่นอีกด้วย คิดค่าเสียหายจำนวนหนึ่ง โดยมิได้ตีราคาเฉพาะสังกะสีว่าเสียหายเท่าใดก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
การที่ผู้ว่าจ้างสั่งคนไปควบคุมผู้รับจ้างเหมาทำงานให้เป็นไปตามสัญญา หากเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นขึ้น ผู้ว่าจ้างก็ต้องรับผิดเพื่อความเสียหายนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ว่าจ้างต่อความเสียหายจากงานเหมา แม้จะควบคุมการทำงาน
ฟ้องว่า รั้วสังกะสีเสียหายไปประมาณ 50 แผ่นรวมทั้งทรัพย์สินอื่นอีกด้วย คิดค่าเสียหายจำนวนหนึ่ง โดยมิได้ตีราคาเฉพาะสังกะสีว่าเสียหายเท่าใดก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
การที่ผู้ว่าจ้างสั่งคนไปควบคุมผู้รับจ้างเหมาทำงานให้เป็นไปตามสัญญา หากเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นขึ้นผู้ว่าจ้างก็ต้องรับผิดเพื่อความเสียหายนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 64/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ชื่อบริษัทที่คล้ายคลึงกันจนสร้างความเข้าใจผิดแก่สาธารณชน เป็นการละเมิดสิทธิและก่อให้เกิดความเสียหาย
จำเลยใช้นามเมืองทองเป็นชื่อบริษัทเลียนชื่อที่โจทก์ใช้มานานทำให้โจทก์เสียหาย เป็นละเมิดศาลให้ถอนชื่อและให้ค่าเสียหายตามความร้ายแรงแห่งละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 470/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของกระทรวงการคลัง กรณีความเสียหายจากหน้าที่ของผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ
โรงงานยาสูบ ซึ่งขึ้นอยู่ในกระทรวงการคลัง ไม่ใช่เป็นนิติบุคคล เมื่อกระทรวงการคลังได้มอบอำนาจการบริหารกิจการงานต่าง ๆ ให้ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบแล้ว กระทรวงการคลังก็ย่อมมีอำนาจฟ้องคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในทรัพย์สินของบุคคลภายนอกคดี: การบังคับคดีต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย และให้โอกาสพิสูจน์สิทธิ
คำพิพากษาที่ได้กล่าวไว้ว่าให้บุคคลภายนอกซึ่งมิได้เป็นคู่ความในคดีมีส่วนได้ในทรัพย์สินใด ๆ ด้วยนั้น ย่อมไม่ผูกพันบุคคลภายนอกที่อ้างว่าตนจะพิสูจน์ได้ว่ามีสิทธิดีกว่า
ในชั้นบังคับคดีหากมีบุคคลภายนอกคัดค้านว่า ตนมีสิทธิในทรัพย์ที่ยึดดีกว่า ตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 145 ศาลควรรอการขายทอดตลาดทรัพย์นั้นไว้ก่อน และให้บุคคลภายนอกนั้นไปดำเนินคดีกับผู้ชนะคดีที่นำยึดทรัพย์ภายในกำหนดเสียก่อน ถ้าพ้นกำหนดไม่จัดการจึงให้ขายทอดตลาดทรัพย์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1312/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผิดสัญญาซื้อขายหนังโคกระบือเค็ม ผู้ซื้อต้องรับผิดในความเสียหาย แต่ผู้ขายมีส่วนประมาทเลินเล่อในการดูแลรักษา
ผู้ซื้อผิดสัญญาไม่มารับหนังสัตว์ที่ซื้อ ผู้ขายปล่อยปละละเลยไม่จัดการตามควรเพื่อให้เสียหายแต่น้อย จึงมีส่วนทำผิด ผู้ขายควรได้ค่าเสียหายเพียงครึ่งหนึ่ง
การอ้างเอกสารเป็นพยาน ไม่จำต้องอ้างทั้งฉบับ จะอ้างแต่บางส่วนก็ได้
อ้างพยานไว้แล้ว จะไม่นำสืบก็ได้
of 185