พบผลลัพธ์ทั้งหมด 300 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาบุคคลภายนอกขอคืนของกลาง, กรรมสิทธิ์รถยนต์โอนเมื่อทำสัญญาซื้อขาย แม้ยังไม่ได้จดทะเบียน
กรณีบุคคลภายนอกขอคืนของกลางตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา36 ไม่มีกฎหมายจำกัดสิทธิในการอุทธรณ์ฎีกา แม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันมาให้ยกคำร้องของผู้ร้องผู้ร้องก็ยังฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ คดีไม่ตกอยู่ในบังคับมาตรา 220 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
การแจ้งโอนทะเบียนรถยนต์ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2473 มาตรา 13 นั้น เป็นเรื่องกฎหมายกำหนดให้มีขึ้นเพื่อประโยชน์แก่การควบคุมของเจ้าพนักงานเท่านั้นไม่ใช่แบบ ที่กำหนดไว้เพื่อความสมบูรณ์แห่งนิติกรรมซื้อขายรถยนต์ รถยนต์เป็นสังหาริมทรัพย์อย่างหนึ่งซึ่งกรรมสิทธิ์ย่อมโอนไปยังผู้ซื้อตั้งแต่ขณะเมื่อได้ทำสัญญาซื้อขายกัน
การแจ้งโอนทะเบียนรถยนต์ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2473 มาตรา 13 นั้น เป็นเรื่องกฎหมายกำหนดให้มีขึ้นเพื่อประโยชน์แก่การควบคุมของเจ้าพนักงานเท่านั้นไม่ใช่แบบ ที่กำหนดไว้เพื่อความสมบูรณ์แห่งนิติกรรมซื้อขายรถยนต์ รถยนต์เป็นสังหาริมทรัพย์อย่างหนึ่งซึ่งกรรมสิทธิ์ย่อมโอนไปยังผู้ซื้อตั้งแต่ขณะเมื่อได้ทำสัญญาซื้อขายกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์ต้องมีคำขอ ศาลไม่สามารถริบของกลางเกินคำขอได้
การริบทรัพย์เป็นโทษอย่างหนึ่ง การจะริบทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33 เป็นเรื่องอยู่ในดุลพินิจของศาล
เมื่อโจทก์มิได้มีคำขอให้ริบธนบัตรของกลาง ศาลริบธนบัตรนั้นไม่ได้ เพราะเป็นการพิพากษาเกินคำขอ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคแรก
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์และธนบัตรฉบับละ 10 บาท 2 ฉบับที่เป็นธนบัตรของเจ้าพนักงานตำรวจมอบให้ผู้มีชื่อไปซื้อจากจำเลย และขอให้คืนธนบัตรดังกล่าวแก่เจ้าพนักงานตำรวจ ในชั้นอุทธรณ์โจทก์ก็ยืนยันเช่นนั้น การที่โจทก์ฎีกาว่าธนบัตรของกลางเป็นทรัพย์ของจำเลยได้มาจากการกระทำผิดจึงนอกฟ้อง และโจทก์เพิ่มเติมคำขอให้ริบของกลางเข้ามาในชั้นฎีกาไม่ได้
เมื่อโจทก์มิได้มีคำขอให้ริบธนบัตรของกลาง ศาลริบธนบัตรนั้นไม่ได้ เพราะเป็นการพิพากษาเกินคำขอ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคแรก
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์และธนบัตรฉบับละ 10 บาท 2 ฉบับที่เป็นธนบัตรของเจ้าพนักงานตำรวจมอบให้ผู้มีชื่อไปซื้อจากจำเลย และขอให้คืนธนบัตรดังกล่าวแก่เจ้าพนักงานตำรวจ ในชั้นอุทธรณ์โจทก์ก็ยืนยันเช่นนั้น การที่โจทก์ฎีกาว่าธนบัตรของกลางเป็นทรัพย์ของจำเลยได้มาจากการกระทำผิดจึงนอกฟ้อง และโจทก์เพิ่มเติมคำขอให้ริบของกลางเข้ามาในชั้นฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2221/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แม้พิพากษายกฟ้อง แต่ของกลางผิดกฎหมาย ศาลยังสามารถริบได้
เฮโรอีนเป็นของที่มีไว้เป็นความผิด แม้ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะจำเลยมิใช่ผู้มีเฮโรอีนนั้น ศาลก็ริบเฮโรอีนของกลาง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2082/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอคืนของกลางที่ศาลวินิจฉัยแล้วว่าผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของ ถือเป็นการฟ้องซ้ำที่ต้องห้ามตามกฎหมาย
ผู้ร้องร้องขอให้คืนของกลางที่ศาลพิพากษาให้ริบ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วสั่งว่าพยานหลักฐานของผู้ร้องยังรับฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของของกลาง ให้ยกคำร้องดังนี้เท่ากับฟังว่าผู้ร้องไม่ได้เป็นเจ้าของของกลางอันแท้จริงนั่นเอง ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอคืนของกลางอีก จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลนั้นอันเกี่ยวกับคดีหรือประเด็นที่ได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้ว ต้องห้ามตามประมวลพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 จะอ้างว่าคำสั่งตามคำร้องฉบับก่อนนั้นยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดว่าผู้ร้องไม่ได้เป็นเจ้าของแท้จริงหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2082/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอคืนของกลางที่ศาลสั่งริบแล้ว หากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ศาลไม่รับคำร้องใหม่ตามมาตรา 144
ผู้ร้องร้องขอให้คืนของกลางที่ศาลพิพากษาให้ริบ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว สั่งว่า พยานหลักฐานของผู้ร้องยังรับฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของของกลาง ให้ยกคำร้อง ดังนี้เท่ากับฟังว่าผู้ร้องไม่ได้เป็นเจ้าของของกลางอันแท้จริงนั้นเอง ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอคืนของกลางอีกจึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลนั้นอันเกี่ยวกับคดีหรือประเด็นที่ได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้ว ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 จะอ้างว่าคำสั่งตามคำร้องฉบับก่อนนั้นยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาด ว่าผู้ร้องไม่ได้เป็นเจ้าของแท้จริงหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1063/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอคืนทรัพย์ของกลาง: 'วันคำพิพากษาถึงที่สุด' หมายถึงคำพิพากษาคดีริบทรัพย์เดิม แม้มีการฟ้องคดีใหม่
การขอคืนทรัพย์ของกลางตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 36 ซึ่งเจ้าของทรัพย์ที่มิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด ย่อมมีสิทธิขอคืนต่อศาลได้ภายใน 1 ปี นับแต่วันคำพิพากษาถึงที่สุดนั้น คำว่า"วันคำพิพากษาถึงที่สุด" ย่อมหมายถึงคำพิพากษาในคดีที่ศาลมีคำสั่งให้ริบทรัพย์
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ในข้อหาฐานความผิดเดียวกันและมีคำขอให้ริบของกลางมาด้วย จำเลยที่ 1 ที่ 2 ให้การรับสารภาพส่วนจำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้แยกฟ้องจำเลยที่ 3 เป็นคดีใหม่ และพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 คนละ 9 เดือน ปรับคนละ 4,000 บาท ริบของกลางทั้งหมดคดีถึงที่สุด ต่อมาโจทก์มาฟ้องจำเลยที่ 3 เป็นคดีใหม่ ตามคำสั่งศาลชั้นต้นแม้โจทก์จะได้บรรยายฟ้องกล่าวถึงทรัพย์สินอันเป็นของกลางในคดีก่อนมาด้วยอีก ก็เพื่อให้ฟ้องสมบูรณ์เท่านั้นหาได้นำมาอยู่ในอำนาจศาลในคดีหลังแต่ประการใดไม่ ของกลางดังกล่าวจึงมิใช่ของกลางในคดีหลัง เมื่อผู้ร้องมาร้องขอคืนของกลางภายหลังวันที่คำพิพากษาคดีแรกถึงที่สุดแล้วเกิน 1 ปี จึงเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ในข้อหาฐานความผิดเดียวกันและมีคำขอให้ริบของกลางมาด้วย จำเลยที่ 1 ที่ 2 ให้การรับสารภาพส่วนจำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้แยกฟ้องจำเลยที่ 3 เป็นคดีใหม่ และพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 คนละ 9 เดือน ปรับคนละ 4,000 บาท ริบของกลางทั้งหมดคดีถึงที่สุด ต่อมาโจทก์มาฟ้องจำเลยที่ 3 เป็นคดีใหม่ ตามคำสั่งศาลชั้นต้นแม้โจทก์จะได้บรรยายฟ้องกล่าวถึงทรัพย์สินอันเป็นของกลางในคดีก่อนมาด้วยอีก ก็เพื่อให้ฟ้องสมบูรณ์เท่านั้นหาได้นำมาอยู่ในอำนาจศาลในคดีหลังแต่ประการใดไม่ ของกลางดังกล่าวจึงมิใช่ของกลางในคดีหลัง เมื่อผู้ร้องมาร้องขอคืนของกลางภายหลังวันที่คำพิพากษาคดีแรกถึงที่สุดแล้วเกิน 1 ปี จึงเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1883/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยึดเฮโรอีนที่เหลือจากการใช้ไม่หมด ถือเป็นของกลางที่ต้องริบ
มีและฉีดเฮโรอีนเข้าในร่างกายยังไม่หมด จำนวนที่เหลือถูกยึดเป็นของกลาง ต้องริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1493/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองสายชนวนปะทุตามกฎหมาย: เหตุยกฟ้องและการริบของกลาง
สายชนวนปะทุซึ่งจำเลยมีไว้ แต่มีกฎหมายให้นำไปมอบแก่เจ้าพนักงานได้ใน 90 วัน ไม่ต้องรับโทษ ศาลยกฟ้อง จึงริบสายชนวนนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 384/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์สินจากการปล้น: เงินจากการขายของกลาง ไม่ใช่ทรัพย์สินของผู้เสียหาย ศาลไม่คืนได้
เงินที่จำเลยได้มาจากการนำทองรูปพรรณของผู้เสียหายซึ่งปล้นมาได้ไปขาย มิใช่ทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ถูกปล้นเอาไป ศาลจะสั่งคืนให้ผู้เสียหายไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 384/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์ที่ได้จากการขายของกลางปล้น ไม่ใช่ทรัพย์สินผู้เสียหาย ศาลไม่คืนได้
เงินที่จำเลยได้มาจากการนำทองรูปพรรณของผู้เสียหายซึ่งปล้นมาได้ไปขายมิใช่ทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ถูกปล้นเอาไป ศาลจะสั่งคืนให้ผู้เสียหายไม่ได้