พบผลลัพธ์ทั้งหมด 194 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 790/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อจากคดีอื่น จำเลยต้องแสดงตนเป็นบุคคลเดียวกันในคดีเดิม
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีหนึ่ง ซึ่งศาลได้พิพากษาแล้ว ศาลได้ส่งสำเนาให้จำเลยรับไปแล้ว เมื่อไม่ปรากฏในสำนวนเลยว่า จำเลยเป็นคนเดียวกับคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ดังนี้ จึงนับโทษต่อให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 790/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อจากคดีอื่น: จำเลยต้องแสดงตนเป็นบุคคลเดียวกันในคดีเดิม
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีหนึ่ง ซึ่งศาลได้พิพากษาแล้ว ศาลได้ส่งสำเนาให้จำเลยรับไปแล้ว เมื่อไม่ปรากฏในสำนวนเลยว่า จำเลยเป็นคนเดียวกับคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ดังนี้ จึงนับโทษต่อให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดิน: คำพิพากษาในคดีเดิมใช้ยันผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมได้
เดิมผู้มีชื่อในโฉนดคนหนึ่งฟ้องขับไล่ผู้เข้ามาบุกรุกปลูกเรือนโรงในที่พิพาทเป็นจำเลยจำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของตนในทางครอบครองดังนั้น ไม่จำเป็นที่จำเลยในคดีนั้นจะต้องเรียกผู้มีชื่อในโฉนดคนอื่นๆ ผู้ถือกรรมสิทธิร่วมเข้ามาเป็นคู่ความผู้มีชื่อในโฉนดเหล่านั้นรู้เรื่องที่พิพาทกันดีแล้ว แต่มิได้เข้ามาร่วมเป็นคู่ความด้วยเมื่อโจทก์ในคดีนั้นแพ้คดีคำพิพากษาในคดีนั้น ใช้ยันผู้มีชื่อในโฉนดคนอื่นๆ ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อจากสำนวนคดีอาญา ต้องมีคำพิพากษาลงโทษในคดีเดิมก่อน จึงจะนับโทษต่อได้
การขอนับโทษต่อ
หลักในเรื่องการนับโทษต่อจากสำนวนคดีเรื่องใด จะต้องปรากฏว่าคดีเรื่องนั้นศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยไว้ก่อนแล้ว เมื่อศาลพิพากษาคดีเรื่องหลังจึงจะนับโทษต่อจากกำหนดโทษในสำนวนเรื่องก่อนได้ เมื่อสำนวนคดีเรื่องก่อนยังไม่ปรากฏว่าได้พิพากษา(ยังเป็นคดีดำอยู่)จึงไม่มีโทษอันใดที่ศาลจะไปนับต่อให้ได้ แม้จะเป็นความจริงตามข้อฎีกาของโจทก์ที่ว่าคดีเรื่องก่อนนั้นในเวลาต่อมา ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยแล้ว แต่ในสำนวนคดีเรื่องหลังก็ไม่ปรากฏว่าสำนวนคดีเรื่องก่อนได้พิพากษาลงโทษไปแล้วก่อนคดีเรื่องหลัง จึงนับโทษคดีเรื่องหลังต่อจากโทษในคดีเรื่องก่อนนั้นไม่ได้
หลักในเรื่องการนับโทษต่อจากสำนวนคดีเรื่องใด จะต้องปรากฏว่าคดีเรื่องนั้นศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยไว้ก่อนแล้ว เมื่อศาลพิพากษาคดีเรื่องหลังจึงจะนับโทษต่อจากกำหนดโทษในสำนวนเรื่องก่อนได้ เมื่อสำนวนคดีเรื่องก่อนยังไม่ปรากฏว่าได้พิพากษา(ยังเป็นคดีดำอยู่)จึงไม่มีโทษอันใดที่ศาลจะไปนับต่อให้ได้ แม้จะเป็นความจริงตามข้อฎีกาของโจทก์ที่ว่าคดีเรื่องก่อนนั้นในเวลาต่อมา ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยแล้ว แต่ในสำนวนคดีเรื่องหลังก็ไม่ปรากฏว่าสำนวนคดีเรื่องก่อนได้พิพากษาลงโทษไปแล้วก่อนคดีเรื่องหลัง จึงนับโทษคดีเรื่องหลังต่อจากโทษในคดีเรื่องก่อนนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการถอนผู้ปกครองเด็ก: คดีเดิมยังดำเนินการได้ ไม่ต้องฟ้องใหม่
เมื่อผู้ใดร้องขอให้ศาลตั้งเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ ไม่มีผู้ใดคัดค้านศาลได้ไต่สวนและสั่งตั้งผู้นั้นเป็นผู้ปกครองดังนี้จะเรียกว่าคดีถึงที่สุด อุทธรณ์ฎีกาต่อไปไม่ได้ก็เฉพาะเรื่องการตั้งผู้ปกครอง
ส่วนเรื่องการร้องขอให้ถอนผู้ปกครองนั้นเป็นอำนาจของศาลเองหรือสั่งเมื่อบุคคลผู้มีสิทธิร้องขอขึ้นมาตาม ม.1552, 1574, 1575 และการร้องขอตามมาตราดังกล่าวไม่จำเป็นต้องทำเป็นคดีเรื่องใหม่ขึ้นมาอีกต่างหากจากสำนวนเดิม.
ส่วนเรื่องการร้องขอให้ถอนผู้ปกครองนั้นเป็นอำนาจของศาลเองหรือสั่งเมื่อบุคคลผู้มีสิทธิร้องขอขึ้นมาตาม ม.1552, 1574, 1575 และการร้องขอตามมาตราดังกล่าวไม่จำเป็นต้องทำเป็นคดีเรื่องใหม่ขึ้นมาอีกต่างหากจากสำนวนเดิม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อในคดีอาญา: จำเป็นต้องระบุชัดเจนว่าจำเลยได้รับโทษในคดีเดิมแล้ว
ในคำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ไม่ได้บรรยายความว่าจำเลยได้รับโทษในคดีดำที่ 61/2498 แล้ว คงกล่าวเพียงว่า "ขอให้นับโทษจำเลยตามคดีดำที่ 61/2498 ซึ่งบัดนี้คดีดำที่ 61/2498 ของศาลอาญาให้ติดต่อกันด้วย" ความจริงไม่ปรากฏชัดว่าจำเลยต้องรับโทษในคดีนั้นหรือไม่ จึงไม่นับโทษต่อให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อในคดีอาญา: จำเป็นต้องแสดงว่าจำเลยได้รับโทษในคดีเดิมแล้ว
ในคำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ไม่ได้บรรยายความว่าจำเลยได้รับโทษในคดีดำที่ 61/2498 แล้วคงกล่าวเพียงว่า 'ขอให้นับโทษจำเลยตามคดีดำที่ 61/2498 ซึ่งบัดนี้คดีดำที่ 61/2498 ดังกล่าวเป็นคดีแดงที่483/2498 ของศาลอาญาให้ติดต่อกันด้วย' ความจริงไม่ปรากฏชัดว่าจำเลยต้องรับโทษในคดีนั้นหรือไม่ จึงไม่นับโทษต่อให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1708/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ ป.วิ.แพ่ง ม.148: ประเด็นต่างกันระหว่างคดีเดิมและคดีใหม่ แม้เกี่ยวพันกับสัญญากู้ยืม
โจทก์ฟ้องว่าได้ส่งข้าวเปลือชำระแทนต้นเงินกู้และดอกเบี้ยให้แก่จำเลยซึ่งเป็นผู้ให้กู้ตามที่ได้ตกลงกับจำเลยแล้ว บัดนี้จำเลยกลับทำผิดสัญญาไม่คิดราคาข้าวเปลือกชำระเงินกู้รายนั้นให้ จึงขอให้ศาลหักราคาข้าวเปลือกชำระหนี้หรือคืนข้าวเปลือกให้โจทก์ ดังนี้ถือว่าประเด็นกับคดีที่จำเลยฟ้องโจทก์อีกคดีหนึ่งหาว่าโจทก์ผิดสัญญากู้เงินไม่ชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ซึ่งมีประเด็นว่าโจทก์ได้ชำระหนี้ให้จำเลยด้วยเงินตราแล้วหรือยังฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ จึงไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.148.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1415/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอายัดทรัพย์ซ้ำซ้อนในคดีหนี้สินเดิม: ศาลไม่อนุมัติการอายัดซ้ำหากมีคดีเดิมที่อายัดทรัพย์ไว้แล้ว
เมื่อปรากฏว่าหนี้สินที่ฟ้องและขออายัดทรัพย์ของจำเลยคดีนี้เคยคิดบัญชีกันแล้วจำเลยยังเป็นหนี้เงินโจทก์อยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งเป็นหนี้สินเรื่องเดียวกันกับที่โจทก์ได้เคยฟ้องเรียกเงินจากจำเลยไว้ในคดีก่อนทั้งได้ขออายัดทรัพย์ของจำเลยไว้แล้วด้วย ดังนี้ย่อมไม่มีเหตุสมควรที่จะนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนคำพิพากษามาใช้บังคับในคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 887/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีซ้อนเกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สิน ศาลต้องรอฟังผลคดีเดิมก่อนเพื่อความชัดเจนในอำนาจฟ้อง
อัยการเป็นโจทก์ฟ้องนางจีนร่วมกับจำเลยแทนผู้เยาว์ ในคดีดำที่ 99/2494 แล้ว ต่อมานายสมจิตบิดาผู้เยาว์เป็นโจทก์ฟ้องฉะเพาะจำเลยแทนผู้เยาว์อีกคดีหนึ่งทั้งทรัพย์พิพาทและพยานหลักฐานก็อย่างเดียวกัน แต่อ้างว่าอัยการไม่มีอำนาจฟ้องแทนผู้เยาว์ ในคดีดำที่ 99/2494 มีอำนาจฟ้องเฉพาะนางจีนผู้บุพการีของผู้เยาว์เท่านั้น ดังนี้การชี้ขาดตัดสินคดีเรื่องนี้จำต้องรอฟัง คำชี้ขาดตัดสินในคดีดำที่ 99/2494 นั้นก่อนตาม ป.วิ.แพ่ง ม.39