พบผลลัพธ์ทั้งหมด 439 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 840/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานในคดีอาญา: พยานที่เบิกความนอกศาลและคำรับสารภาพที่ถูกโต้แย้ง
พยานโจทก์เข้าเบิกความในคดีอีกสำนวนหนึ่งก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งรวมพิจารณาพิพากษากับคดีนี้โดยที่โจทก์ไม่สามารถนำตัวพยานปากนี้มาเบิกความอีกได้จนศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งตัดพยานปากนี้การเบิกความของพยานปากนี้จึงมิได้กระทำต่อหน้าจำเลยในคดีนี้ไม่อาจรับฟังเพื่อวินิจฉัยคดีในทางเป็นโทษสำหรับจำเลยในคดีนี้ได้ คำเบิกความของพยานในชั้นพิจารณาย่อมเป็นพยานชั้นหนึ่งชอบที่ศาลจะรับฟังคำเบิกความในชั้นพิจารณาเป็นสำคัญ คำให้การชั้นสอบสวนของพยานปากนั้นซึ่งเป็นพยานชั้นสอง จึงมีน้ำหนักน้อย จำเลยให้การในชั้นสอบสวนว่า จำเลยเดินตามหลังผู้ตายกับกลุ่มพวกจำเลยไปห่าง ๆ ต่อมากลุ่มผู้ตายกับกลุ่มพวกจำเลยเข้าทำร้ายซึ่งกันและกัน ผู้ตายจะเข้าทำร้ายน้องชายจำเลย จำเลยจึงเข้าไปช่วยและได้ชกทำร้ายผู้ตายไป 1 ครั้ง และพวกในกลุ่มพวกจำเลยจึงเข้ามาช่วยไล่ชกไล่ตีกลุ่มผู้ตาย จำเลยไม่ได้ติดตามไปด้วยหากแต่เดินเข้าบ้านไป คำให้การของจำเลยเช่นนี้ยังไม่พอฟังว่าจำเลยให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันฆ่าผู้ตายดังที่โจทก์นำสืบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่ไม่น่าเชื่อถือ และพยานหลักฐานที่ไม่สอดคล้องกัน ทำให้ศาลยกฟ้องคดีอาญา
ตามคำของ พ. ได้ความว่า เห็นจำเลยเดินวนเวียนอยู่ในที่เกิดเหตุ และตามคำของ ส.ก็คงได้ความว่าเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเห็นผู้ตายกับผู้เสียหายถูกทำร้ายนอนอยู่ มีจำเลยถือไม้เดินอยู่บริเวณนั้น แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำร้ายด้วยสาเหตุอะไร ส่วน ณ.แม้จะเบิกความว่าเห็นจำเลยใช้ไม้เข้าร่วมชุลมุนตีกันด้วย แต่ก็ตอบคำซักค้านของทนายจำเลยว่าไม่ทราบว่าใครจะเป็นผู้ตีทำร้ายผู้เสียหายเพราะตีกันยุ่งไปหมดทั้งตามคำของพนักงานสอบสวนประกอบรายงานการชันสูตรพลิกศพก็ได้ความว่าคนร้ายที่ร่วมกันทำร้ายผู้ตายกับผู้เสียหายคือ อ.กับพวก ไม่มีจำเลยร่วมทำร้ายด้วย คำของ ณ.ไม่แน่นอนขัดแย้งกับคำของพนักงานสอบสวน ไม่น่าเชื่อว่า ณ.รู้เห็นว่าจำเลยเป็นคนร้ายจริงโจทก์จึงมีเพียงคำรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยเท่านั้น ซึ่งจำเลยโต้เถียงอยู่ว่าถูกบังคับขู่เข็ญให้รับสารภาพ คดีฟังลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 758/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานบอกเล่าที่ไม่มีหลักฐานสนับสนุน คำรับสารภาพที่ถูกโต้แย้ง และหลักฐานทางกายภาพที่ไม่ชัดเจน ไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ความผิด
โจทก์มี ส. เป็นพยานเพียงคนเดียวที่อ้างว่ารู้เห็นการกระทำของจำเลย แต่โจทก์ไม่ได้ตัว ส. มาเบิกความมีแต่บันทึกคำให้การชั้นสอบสวน แต่จากคำให้การชั้นสอบสวนปรากฏว่า หลังจาก ส.เห็นเหตุการณ์แล้วก็มิได้เล่าให้ใครฟังจนวันที่ 9 เดือนเดียวกันทราบว่ามีผู้พบศพผู้ตาย จึงไปเล่าให้ พ.ผู้ใหญ่บ้านฟังพ.พาไปให้การต่อพนักงานสอบสวนในวันรุ่งขึ้น โจทก์ก็มิได้ถาม พ.ให้ปรากฏว่า พ.รับฟังมาจากส.และพาส. ไปให้การต่อพนักงานสอบสวนจริง คำให้การชั้นสอบสวนของ ส. เป็นพยานบอกเล่าจำเลยไม่มีโอกาสถามค้านทำให้มีน้ำหนักน้อยไม่น่าเชื่อถือโจทก์จึงเหลือแต่คำให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งสอง ซึ่งจำเลยทั้งสองโต้แย้งว่าเป็นคำให้การที่ได้มาโดยมิชอบ และไม้ของกลางที่พนักงานสอบสวนเบิกความว่าขณะนำชี้ที่เกิดเหตุจำเลยที่ 1นำมามอบให้และบอกว่าเป็นไม้ที่ใช้ตีผู้ตาย แต่ไม่ปรากฏว่าไม้ของกลามีร่องรอยที่ชี้ว่าใช้ตีผู้ตายมาแล้ว พยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่พอฟังว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 591/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรับบทลงโทษผิด พ.ร.บ.อาญา มาตรา 317 และการพิจารณาโทษจากคำรับสารภาพของผู้ต้องหา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยพรากเด็กหญิง พ. อายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดาโดยปราศจากเหตุอันสมควรและเพื่อการอนาจาร และจำเลยกระทำชำเราเด็กหญิง พ. ซึ่งมิใช่ภริยาของตน แสดงว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรกกระทงหนึ่งและมาตรา 317 วรรคสาม อีกกระทงหนึ่ง ซึ่งความผิดข้อหาพรากผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคสามมีอัตราโทษอย่างต่ำจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบพยานหลักฐานประกอบคำรับสารภาพของจำเลยและศาลจะต้องฟังพยานหลักฐานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่า จำเลยได้กระทำผิดจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176เมื่อโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยาน โจทก์จึงไม่มีพยานหลักฐานที่จะให้ศาลฟังลงโทษจำเลยในบทมาตราดังกล่าวได้ แต่ความผิดในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคแรก มีอัตราโทษจำคุกอย่างต่ำตั้งแต่ 3 ปี ขึ้นไป ไม่อยู่ในบังคับที่โจทก์จะต้องสืบพยานประกอบคำรับสารภาพของจำเลย หากศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยตามคำรับสารภาพศาลก็คงลงโทษจำเลยในบทมาตราดังกล่าวได้เฉพาะในวรรคแรกเท่านั้นดังนั้น แม้ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องและลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 โดยมิได้ระบุวรรคซึ่งเป็นการไม่ถูกต้องแต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โดยปรับบทลงโทษว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคสามทั้งวางโทษจำเลยโดยอาศัยบทมาตราดังกล่าว ก็เป็นการไม่ถูกต้องเช่นกัน ปัญหานี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้ และกำหนดโทษให้เบาลงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4903/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพและพยานหลักฐานแวดล้อมใช้พิสูจน์ความผิดฐานปล้นทรัพย์ได้ หากปรากฏข้อเท็จจริงสนับสนุนความสมัครใจและเป็นความจริง
การที่จำเลยที่ 3 ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนกับนำชี้สถานที่ต่าง ๆ ที่ระบุในคำให้การโดยความสมัครใจ ทั้งมีพยานพฤติเหตุแวดล้อม กรณีว่า จำเลยที่ 3นำเจ้าพนักงานตำรวจไปตรวจค้นยึดเหรียญหลวงปู่แหวนของผู้เสียหายที่ถูกจำเลยที่ 1 และที่ 2 กับพวกปล้นไปคืนได้จากบ้านจำเลยที่ 3 เช่นนี้ทำให้เชื่อได้ว่าจำเลยที่ 3ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 กระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ของผู้เสียหายตามฟ้อง แม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานมาเบิกความยืนยันว่าจำเลยที่ 3 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ปล้นทรัพย์ของผู้เสียหาย คงมีแต่คำให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 3 และพยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีแต่คำให้การรับสารภาพดังกล่าวของจำเลยที่ 3 ก็อาจใช้ยันจำเลยที่3 ในชั้นพิจารณาได้ หากมีพยานหลักฐานพอรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 3 ให้การรับสารภาพโดยสมัครใจและตามความสัตย์จริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4665/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ปล้นทรัพย์: หลักฐานจากคำรับสารภาพประกอบพยานหลักฐานอื่น, ยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำผิดต้องริบ
ถึงแม้โจทก์จะไม่มีพยานเห็นตัวคนร้ายที่เป็นคนยิง ไม่ได้อาวุธปืนจากจำเลย ไม่พบปลอกกระสุนและร่องรอยการยิงปืนของคนร้ายในที่เกิดเหตุ โจทก์ก็มี ป. ผู้เสียหาย กับ ข. ผู้ใหญ่บ้านที่เกิดเหตุเป็นพยานเบิกความยืนยันว่า คนร้ายยิงปืนขึ้นก่อนผู้เสียหายจึงได้ยิงปืนสวนไป กับมีบันทึกคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลย-ทั้งสาม ซึ่งจำเลยทั้งสามให้การไว้ใจความตรงกันในเบื้องต้นว่า มีเสียงปืนดังขึ้นที่รถยนต์ของจำเลยก่อน จากนั้นมีเสียงปืนทางอื่นยิงมาที่รถยนต์ของจำเลย ซึ่งจำเลยที่ 1 และที่ 2 เข้าใจว่า น. ผู้ตาย ซึ่งเป็นพวกของจำเลยทั้งสามเป็นคนยิงปืน ส่วนจำเลยที่ 3 เห็นและรู้ว่า น. มีปืนมาก่อนเกิดเหตุ ที่จำเลยทั้งสามอ้างว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายบังคับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้รับสารภาพก็ดี ให้จำเลยที่ 3 ลงชื่อในบันทึกคำให้การโดยไม่ได้อ่านข้อความให้ฟังก็ดี จำเลยทั้งสามมีแต่ตนเองเบิกความลอย ๆ ภายหลัง เมื่อโจทก์มีพนักงานสอบสวนมาเบิกความประกอบคำรับสารภาพของจำเลยทั้งสามชั้นสอบสวน จำเลยทั้งสามมิได้ถามค้านถึงความข้อนี้ไว้ เชื่อว่าชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจและตามความสัตย์จริง คำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งสามจึงเป็นหลักฐานประกอบถ้อยคำของ ป. และ ข. พยานโจทก์ ฟังได้ว่าขณะเมื่อจะยกเครื่องยนต์รถไถนาของผู้เสียหายขึ้นบรรทุกรถยนต์ของจำเลยที่ 1 เพื่อจะขนเอาไป ซึ่งเป็นเวลาที่การลักทรัพย์ยังไม่ขาดตอนลงนั้น จำเลยทั้งสามกับพวกได้กระทำการประทุษร้ายขู่เข็ญผู้เสียหายกับพวกด้วยการยิงปืนขึ้นหนึ่งนัด การกระทำของจำเลยทั้งสามกับพวกจึงเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์
รถยนต์กระบะของกลางเป็นยานพาหนะที่ใช้ในการปล้นทรัพย์เป็นทรัพย์ที่พึงต้องริบ
รถยนต์กระบะของกลางเป็นยานพาหนะที่ใช้ในการปล้นทรัพย์เป็นทรัพย์ที่พึงต้องริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3578/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพประกอบการนำชี้ที่เกิดเหตุใช้ยันจำเลยได้ แม้ผู้เสียหายไม่เบิกความ
ผู้เสียหายเป็นประจักษ์พยานอยู่ในที่เกิดเหตุเพียงคนเดียวแม้โจทก์ไม่สามารถนำผู้เสียหายมาเบิกความต่อศาลได้ คงมีแต่คำให้การชั้นสอบสวนซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ นำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพซึ่งสอดคล้องกับคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายและพยานบุคคล สามารถรับฟังใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 345/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานที่ไม่เพียงพอต่อการลงโทษผู้ต้องหาจากคำรับสารภาพและการซัดทอดที่ไม่สอดคล้องกัน
โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานใดที่แสดงว่าจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 คงมีแต่คำให้การรับสารภาพของจำเลยที่ 1และที่ 2 ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ซึ่งเป็นเพียงพยานบอกเล่ามีน้ำหนักน้อย และจำเลยที่ 2 ยังนำสืบปฏิเสธว่าคำรับดังกล่าวเกิดจากการถูกบังคับขู่เข็ญ จึงไม่อาจนำมาฟังลงโทษจำเลยที่ 2ได้ ส่วนคำให้การของจำเลยที่ 1 ในชั้นสอบสวนว่าจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยนั้น เป็นคำให้การซัดทอดของผู้ต้องหาด้วยกัน และไม่สอดคล้องกับคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 3ซึ่งมิได้ให้การพาดพิงถึงจำเลยที่ 2 โจทก์จึงจะอาศัยคำให้การซัดทอดดังกล่าวมาใช้ยันเพื่อลงโทษจำเลยที่ 2 หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานจากการติดตามทรัพย์ของกลางและการเชื่อมโยงจากคำรับสารภาพของผู้ต้องหาเพื่อพิสูจน์ความผิดฐานลักทรัพย์และรับของโจร
จสต.สัมพันธ์ พยานโจทก์ แม้จะไม่ได้รู้เห็นในขณะเกิดเหตุแต่ก็ได้มีการสืบสวนและติดตามทรัพย์ของกลางตลอดมา เบื้องต้นเมื่อทราบว่าจำเลยที่ 2 ลักรถจักรยานยนต์ก็ได้ติดตามตัวจำเลยที่ 2 และทราบว่าจำเลยที่ 2 ได้ลักรถจักรยานยนต์แล้วไปขายให้แก่จำเลยที่ 3จึงติดตามไปพบจำเลยที่ 3 ได้ทราบว่าได้ขายให้จำเลยที่ 1 จึงได้ติดตามไปที่ร้านจำเลยที่ 1 ได้พบรถจักรยานยนต์ที่จำเลยที่ 2ลักมาโดยจำเลยที่ 1 ได้เปลี่ยนแปลงสภาพให้ผิดไปจากเดิมแล้วการติดตามทรัพย์ของกลางรายนี้ของ จ.ส.ต.สัมพันธ์มาจากเหตุคำรับของจำเลยแต่ละคน แต่ผลสุดท้ายก็สามารถติดตามทรัพย์ของกลางได้แสดงให้เห็นว่าจำเลยแต่ละคนได้เกี่ยวข้องกับทรัพย์ของกลาง จนเจ้าพนักงานตำรวจติดตามยึดคืนมาได้ พฤติการณ์ดังกล่าวแม้จะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นขณะเกิดเหตุ ก็ยังถือไม่ได้ว่าพยานโจทก์มีแต่คำรับสารภาพชั้นจับกุมหรือชั้นสอบสวนแต่อย่างเดียว เพราะยังมีคำเบิกความของ จ.ส.ต.สัมพันธ์มาประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแต่ละคนอีกด้วย จึงเป็นพยานหลักฐานเพียงพอให้รับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1และที่ 3 รับของโจร จำเลยที่ 2 ลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานเพียงพอสนับสนุนคำเบิกความของประจักษ์พยานและคำรับสารภาพของผู้ร่วมกระทำความผิด ทำให้ฟังได้ว่าจำเลยร่วมฆ่าผู้ตาย
เหตุเกิดเวลากลางวัน แม้โจทก์มีประจักษ์พยานเพียงปากเดียวแต่ขณะเกิดเหตุพยานอยู่ห่างคนร้ายประมาณ 1 วา และน่าเชื่อว่าพยานไม่ตกใจถึงกับจะไม่รับรู้เหตุการณ์ คนร้ายปฏิบัติการอยู่นานมีการยิงซ้ำผู้ตาย พยานวิ่งไปประมาณ 10 เมตร แล้วได้หันกลับมามองเห็นจำเลยยิงผู้ตายซ้ำ ในชั้นสอบสวนพยานให้การยืนยันว่าจำคนร้ายได้ และให้การถึงรูปพรรณคนร้ายในคดีที่ จ. ถูกฟ้องว่าเป็นคนร้ายคนหนึ่ง พยานก็ได้เบิกความยืนยัน เมื่อจับตัวจำเลยได้แล้วพยานก็ชี้ตัวจำเลยได้ถูกต้องไม่ลังเลใจ และได้ลงชื่อรับรองความถูกต้องของบันทึกการชี้ตัวไว้ในชั้นจับกุมจำเลยให้การรับสารภาพโดยสมัครใจ นอกจากนี้ในคดีที่ จ. ถูกฟ้อง จ. รับสารภาพว่าร่วมกับจำเลยและ พ. กระทำผิด แม้ตามปกติคำซัดทอดระหว่างผู้ต้องหาด้วยกันจะไม่มีน้ำหนักที่จะรับฟัง แต่เมื่อฟังประกอบกับคำประจักษ์พยานโจทก์แล้ว ย่อมสนับสนุนคำของประจักษ์พยานให้มีน้ำหนักยิ่งขึ้น ดังนี้พยานหลักฐานของโจทก์ดังกล่าวแล้ว จึงมีน้ำหนักเพียงพอฟังได้โดยมั่นคงว่าจำเลยร่วมกับ จ. และพวกเป็นคนร้ายฆ่าผู้ตาย.