พบผลลัพธ์ทั้งหมด 309 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4367/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การช่วยเหลือค่าทำศพไม่ใช่การยอมรับผิด ค่าเสียหายทางแพ่ง
เงินจำนวน 3,000 บาทที่จำเลยที่ 3 ช่วยค่าทำศพในขณะที่จำเลยที่ 3 มิได้ยอมรับผิดว่าการตายเกิดจากการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 ผู้เป็นลูกจ้างของตน และมิได้มอบให้ในฐานะเป็นค่าเสียหายส่วนหนึ่ง แต่เป็นการให้ในลักษณะร่วมทำบุญอันเป็นสำนึกในด้านศีลธรรมและเรื่องการบุญการกุศลของจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 4 ผู้รับประกันภัยจะนำมาหักกับจำนวนเงินค่าทำศพที่โจทก์ฟ้องเรียกร้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4130/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานชิงทรัพย์และการร่วมกระทำความผิด โดยมีเจตนาช่วยเหลือการชิงทรัพย์ของผู้อื่น
จำเลยที่ 1 เอาเหล็กขูดชาฟท์มาวางบนตักให้ผู้เสียหายเห็นในขณะนั่งติดกันอยู่ในรถยนต์โดยสารประจำทาง แล้วพูดขอแว่นตาจากผู้เสียหาย แล้วจำเลยที่ 1 หยิบเอาแว่นตาของผู้เสียหายจากกระเป๋าเสื้อ และดึงสเกลจากในสมุดผู้เสียหายไป ย่อมเป็นการลักทรัพย์โดยขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย อันเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ตามมาตรา 339 ขณะเดียวกันนั้นจำเลยที่ 2 ที่ 3 ซึ่งขึ้นรถยนต์โดยสารประจำทางไปพร้อมกับจำเลยที่ 1 และยืนอยู่ใกล้กับจำเลยที่ 1 ต่างเข้าไปหยิบทรัพย์จากกระเป๋าเสื้อและจากในมือผู้เสียหายไป แสดงว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ทราบถึงการกระทำของจำเลยที่ 1โดยตลอด ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3ร่วมชิงทรัพย์กับจำเลยที่ 1 ด้วย การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2897/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการเสพฝิ่น: ผู้ช่วยเตรียมอุปกรณ์ไม่ใช่ผู้เสพ แต่มีความผิดฐานสนับสนุน
ความผิดฐานเสพฝิ่นนั้น กฎหมายประสงค์ลงโทษผู้เสพรับเข้าร่างกายเท่านั้น ลักษณะความผิดไม่เปิดช่องให้ผู้อื่นมาร่วมกระทำความผิดด้วยกันได้การที่จำเลยช่วยเหลือ ก.โดยใช้เหล็กแหลมแยงรูกล้องสูบฝิ่นขณะ ก. กำลังเสพฝิ่นถือไม่ได้ว่าจำเลยร่วมเสพฝิ่นกับ ก. แต่การกระทำของจำเลย เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ ก. ในการเสพฝิ่น จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน ก. ในการกระทำความผิดฐานเสพฝิ่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 431/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมปล้นทรัพย์ด้วยการช่วยเหลือ แต่ไม่มีอาวุธ ไม่ผิดตาม ม.340 ตรี ศาลยืนตามอุทธรณ์
คนร้าย 2 คน มีปืนพกคนละกระบอกขึ้นไปบนบ้านผู้เสียหายใช้ปืนจี้ขู่บังคับเอาวิทยุเทปไป เมื่อคนร้ายลงไปถึงรั้วบ้านมีจำเลยเดินตามไปด้วย ดังนี้ จำเลยซึ่งมิได้มีอาวุธปืนไม่มีความผิดตามมาตรา 340 ตรี ซึ่งมุ่งหมายลงโทษเฉพาะตัวผู้มีอาวุธปืนเท่านั้นคงมีความผิดตามมาตรา 340 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 340/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยไม่มีความผิดฐานขับรถโดยประมาท และไม่มีหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุจากอุบัติเหตุที่ตนไม่ได้เป็นผู้ก่อ
ขณะเกิดเหตุ จำเลย (มีใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว) ใช้รถยนต์รับจ้างในกิจการส่วนตัวมิได้ใช้รับจ้างบรรทุกคนโดยสาร จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานไม่มีใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ
จำเลยมิได้เป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น จึงไม่มีหน้าที่จะต้องหยุดช่วยเหลือหรือแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
จำเลยมิได้เป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น จึงไม่มีหน้าที่จะต้องหยุดช่วยเหลือหรือแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1625/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต: ความรับผิดชอบหลังการช่วยเหลือผู้กระทำผิด
อาวุธปืนของกลางเป็นอาวุธประจำตัวของพลตำรวจ ธ. ที่จะนำติดตัวไปได้โดยชอบ การที่จำเลยสะพายปืนดังกล่าวซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่พลตำรวจ ธ. เป็นผู้ขับไปด้วยกัน น่าจะเป็นไปเพื่อความสะดวกต่อการขับขี่รถจักรยานยนต์ จำเลยเป็นเพียงถือไว้แทนเท่านั้น การครอบครองอาวุธปืน ยังคงอยู่กับพลตำรวจ ธ. ถือไม่ได้ว่าจำเลยมีส่วนร่วมกับการมีอาวุธปืนอันจะเป็นความผิดในช่วงนี้ แต่มีข้อเท็จจริงต่อมาว่า หลังจากเกิดเหตุไปกรรโชกผู้เสียหาย แล้ว ระหว่างจำเลยและพลตำรวจ ธ. หลบหนีจำเลยได้รับฝากอาวุธปืนของกลางซุกซ่อนไว้ในบ้านของตนจนเจ้าพนักงานติดตามยึดคืนมาได้ พฤติการณ์แห่งการกระทำของจำเลยในตอนหลัง ถือได้ว่าจำเลยมามีส่วนกับการครอบครองอาวุธปืนดังกล่าว โดยไม่ชอบ อันเป็นความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1220/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การช่วยเหลือผู้เสียหายเรียกค่าไถ่โดยสุจริต ไม่ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 315
จำเลยที่ 2 ติดต่อคนร้ายเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายซึ่งถูกจับไปเรียกค่าไถ่โดยสุจริต ไม่มีพฤติการณ์ใดส่อไปในทำนองว่ามีส่วนได้เสียหรือร่วมรู้เห็นเป็นใจกับคนร้าย ผู้เสียหายกับจำเลยอยู่คนละจังหวัด การเดินทางไปติดต่อคนร้ายก็ดี ติดต่อผู้เสียหายก็ดี ย่อมต้องเสียค่าใช้จ่าย การที่ผู้เสียหายมอบเงินจำนวนหนึ่งให้จำเลยเป็นค่าใช้จ่าย เงินดังกล่าวจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่มิควรได้ตามความหมายของมาตรา 315 แห่งประมวลกฎหมายอาญา การกระทำของจำเลยที่ 2 ไม่เป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1109/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แม้ไม่ร่วมลักทรัพย์ แต่ช่วยซ่อนเร้นรับของโจร ศาลลงโทษฐานรับของโจรได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยร่วมกับพวกเข้าไปลักทรัพย์ในบริเวณบ้าน ของผู้เสียหายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกาดังนี้หากศาลฎีกา เห็นว่าข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง แต่ฟังได้ว่าตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้องมีคนร้าย ลักเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปและต่อมายึดทรัพย์นั้นได้ใน บริเวณบ้านของจำเลยโดยจำเลยช่วยซ่อนเร้นและรับเอาไว้ซึ่ง ทรัพย์ของผู้เสียหายโดยรู้อยู่ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิด ฐานลักทรัพย์อันเป็นความผิดฐานรับของโจรแล้ว ศาลฎีกาลงโทษ จำเลย ฐานรับของโจรได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสาม ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2522
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3266/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการร่วม พยายามฆ่า: การกระทำต่อเนื่องเพื่อขัดขวางการช่วยเหลือบ่งชี้เจตนา
จำเลยทั้งสองกับพวกมีเจตนาจะร่วมกันทำร้าย พ. เมื่อจำเลยที่ 1 ชกต่อยและใช้มีดพกปลายแหลมแทง พ.โดยเจตนาฆ่าแล้ว ป.จะเข้าช่วยเหลือ พ. จำเลยที่ 2 ซึ่งตามจำเลยที่ 1 เข้าไปอย่างใกล้ชิดได้ใช้เก้าอี้ไม้ตี ป.เพื่อมิให้เข้าช่วย พ.ทันที แล้วจำเลยทั้งสองกับพวกพากันหลบหนีไป ย่อมเล็งเห็นเจตนาของจำเลยที่ 2 ได้ว่าร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำความผิด จำเลยที่ 2 จึงเป็นตัวการในการที่จำเลยที่ 1 พยายามฆ่า พ.ด้วยแต่จำเลยที่2มิได้เป็นคนแทงพ. จึงสมควรลงโทษลดหลั่นจากโทษที่ลงแก่จำเลยที่ 1
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1473/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกระทำผิดทางอาญา: พฤติการณ์ยืนใกล้ไม่ถือเป็นความร่วมมือ หากไม่มีเจตนาช่วยเหลือ
ขณะ จ. แทงผู้เสียหาย จำเลยยืนห่าง จ. 2 เมตร ยืนอยู่เฉย ๆ ไม่ได้เข้าช่วยเหลือหรือยุ่งเกี่ยว แต่วิ่งหนีไปพร้อม จ. ซึ่งอาจเป็นเพราะความตกใจหรือถูกไล่ทำร้ายเพราะเข้าใจว่าเป็นพวก จ. ก็ได้ ดังนี้จำเลยไม่ได้ร่วมกระทำผิดกับ จ.