พบผลลัพธ์ทั้งหมด 351 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานทำสุราฯ เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน แม้กระทำผิดต่อเนื่อง
ความผิดฐานทำสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดฐานมีภาชนะหรือเครื่องกลั่นสำหรับทำสุราโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ความผิดฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งสุราที่รู้ว่าทำขึ้นโดยฝ่าฝืนกฎหมายและความผิดฐานขายหรือนำออกแสดงเพื่อขายซึ่งสุราดังกล่าว ทั้งสี่ฐานนี้แม้จะเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2493 ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับเดียวกัน แต่ก็เห็นได้ว่าความผิดในแต่ละฐานต่างมีสภาพและลักษณะของการกระทำความผิดที่แตกต่างกัน และสามารถแยกเป็นคนละส่วนต่างหากจากกันได้ แสดงว่ากฎหมายมุ่งประสงค์จะลงโทษผู้กระทำผิดในแต่ละกรณีเป็นตอน ๆ ไป แม้จำเลยจะกระทำความผิดทั้งสี่ฐานในคราวเดียวกันและต่อเนื่องกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานทำสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นกรรมต่างกัน แม้ทำต่อเนื่องกัน
ความผิดฐานทำสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดฐานมีภาชนะหรือเครื่องกลั่น สำหรับทำสุราโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ความผิดฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งสุราที่รู้ว่าทำขึ้นโดยฝ่าฝืนกฎหมายและความผิดฐานขายหรือนำออกแสดงเพื่อขายซึ่งสุราดังกล่าว ทั้งสี่ฐานนี้แม้จะเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับเดียวกัน แต่ก็เห็นได้ว่าความผิดในแต่ละฐานต่างมีสภาพและลักษณะของการกระทำความผิดที่แตกต่างกัน และสามารถแยกเป็นคนละส่วนต่างหากจากกันได้ แสดงว่ากฎหมายมุ่งประสงค์จะลงโทษผู้กระทำผิดในแต่ละกรณีเป็นตอน ๆ ไป แม้จำเลยจะกระทำความผิดทั้งสี่ฐานในคราวเดียวกันและต่อเนื่องกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6309/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา: พฤติการณ์ 'บันดาลโทสะ' ต้องเกิดขึ้นต่อเนื่องและกระชั้นชิดกับเหตุ
วันเกิดเหตุตอนใกล้เที่ยงวันจำเลยทราบเรื่องจากภริยาว่าผู้ตายข่มขืนกระทำชำเราภริยา แล้วจำเลยออกจากบ้านไปจับปลา การที่จำเลยพบผู้ตายในตอนเย็นระหว่างนำปลาที่จับได้ไปให้บิดาแล้วจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายทันที ดังนี้ จำเลยหาได้กระทำต่อผู้ตายในขณะมีโทสะหรือระยะเวลาที่ต่อเนื่องกระชั้นชิดกับที่มีโทสะไม่ เมื่อไม่ปรากฏว่าผู้ตายกระทำการข่มเหงจำเลยอย่างใดอีก จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยยิงผู้ตายเพราะเหตุบันดาลโทสะ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6309/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุบันดาลโทสะต้องเกิดขึ้นต่อเนื่องกระชั้นชิด การเว้นวรระห่างหลายชั่วโมงไม่ถือเป็นเหตุบันดาลโทสะ
วันเกิดเหตุตอนใกล้เที่ยงวันจำเลยทราบเรื่องจากภริยาว่าผู้ตายข่มขืนกระทำชำเราภริยา แล้วจำเลยออกจากบ้านไปจับปลา การที่จำเลยพบผู้ตายในตอนเย็นระหว่างนำปลาที่จับได้ไปให้บิดาแล้วจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายทันที ดังนี้ จำเลยหาได้กระทำต่อผู้ตายในขณะมีโทสะหรือระยะเวลาที่ต่อเนื่องกระชั้นชิดกับที่มีโทสะไม่ เมื่อไม่ปรากฏว่าผู้ตายกระทำการข่มเหงจำเลยอย่างใดอีก จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยยิงผู้ตายเพราะเหตุบันดาลโทสะ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5100/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนกระทำชำเราต่อเนื่อง – การปรับบทลงโทษ – ข้อจำกัดการฎีกาข้อเท็จจริง – ทำร้ายร่างกาย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำเลยข้อหาทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 จำคุก 20 วันเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลล่างให้ลงโทษจำคุกไม่เกินห้าปี ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218บัญญัติห้ามมิให้คู่ความฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง จำเลยฎีกาว่าไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้องเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว จำเลยข่มขืนกระทำชำเราโจทก์ร่วมสองครั้งในเวลาใกล้เคียงกันและสถานที่เกิดเหตุครั้งแรกกับครั้งหลังห่างกันเพียงประมาณ 300 เมตรเจตนาในการข่มขืนกระทำชำเราทั้งสองครั้งยังต่อเนื่องกันอยู่หาได้ขาดตอนไม่ จึงเป็นความผิดกรรมเดียว แม้จำเลยไม่ฎีกาในปัญหาข้อนี้แต่การปรับบทลงโทษจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2115/2533 เวอร์ชัน 5 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความต่อเนื่องแห่งการกระทำอนาจารและพยายามข่มขืน: การพิจารณาเป็นกรรมเดียว
จำเลยกระทำอนาจารโดยอุ้มผู้เสียหายเข้าไปในป่าแล้ว กอดจูบ ผู้เสียหาย หลังจากนั้นได้อุ้มผู้เสียหายต่อ เข้าไปอีกแล้ว พยายามกระทำชำเรา ผู้เสียหาย แม้จะมีระยะทางห่างกันถึง ๒๐ เส้น แต่ก็เป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกันโดย ความมุ่งหมายที่จะกระทำชำเรา ผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อ กฎหมายหลายบท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2115/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำอนาจารและพยายามข่มขืนกระทำชำเราโดยต่อเนื่อง การพิพากษาความผิดและพิจารณาพยานหลักฐาน
จำเลยกระทำอนาจารโดยอุ้มผู้เสียหายเข้าไปในป่าแล้วกอดจูบผู้เสียหาย หลังจากนั้นได้อุ้มผู้เสียหายต่อไปอีกแล้วพยายามกระทำชำเราผู้เสียหาย แม้จะมีระยะทางห่างกันถึง 20 เส้นแต่ก็เป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกันโดยความมุ่งหมายที่จะกระทำชำเราผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2066/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การกระทำต่อเนื่องหลังพ้นอันตราย
ผู้ตายกับพวกรวม 3 คน ถีบประตูห้องพักของจำเลยจนกลอนประตูหลุดประตูเปิด แล้วเข้าไปทำร้ายจำเลยและจะทำร้ายภรรยาจำเลยซึ่งมีครรภ์ เป็นการกระทำที่อุกอาจและเป็นภยันตรายที่เกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย ทั้งเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง การที่จำเลยใช้มีดแทงคนทั้งสาม แม้จะแทงหลายทีก็เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ การกระทำของจำเลยในขณะนั้นจึงไม่มีความผิด หลังจากผู้ตายวิ่งออกมาจากห้องพักของจำเลยแล้ว จำเลยติดตามออกมาและใช้มีดแทงผู้ตายอีก 3 ที เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย แม้การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกระชั้นชิดกับการกระทำของจำเลยในตอนแรกซึ่งเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายแต่เมื่อจำเลยแทงผู้ตายในขณะที่หมดโอกาสทำร้ายจำเลยแล้ว การกระทำของจำเลยในตอนนี้จึงเป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 69
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดกรรมเดียว การปิดทับราคาควบคุมสินค้าและจำหน่ายราคาสูงกว่า มีเจตนาต่อเนื่องกัน
การที่จำเลยปิดราคา 55 บาท ลงบนกระป๋องน้ำมันหล่อลื่นซึ่งเป็นสินค้าควบคุมทับราคาควบคุม 52 บาท ให้ไม่ปรากฏ อันเป็นความผิดฐานปิดทับราคาที่พิมพ์ไว้ตามกฎหมายที่สินค้าควบคุมให้ไม่ปรากฏก็เพราะจำเลยมีจุดประสงค์ที่จะจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นดังกล่าวในราคากระป๋องละ 55 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาควบคุม อันเป็นความผิดฐานจำหน่ายสินค้าให้สูงกว่าราคาที่พิมพ์ไว้ตามกฎหมายที่สินค้าควบคุม ดังนั้นเมื่อจำเลยจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นกระป๋องนั้นในราคา 55 บาทก็เป็นการกระทำที่ทำให้จำเลยบรรลุจุดประสงค์ดังกล่าว จึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาและจุดมุ่งหมายอันเดียวกันและต่อเนื่องกันทั้งเป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด ฉบับที่ 88 พ.ศ. 2528 ฉบับเดียวกัน และมีบทลงโทษตามกฎหมายบทเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียวและผิดกฎหมายบทเดียว ความผิดของจำเลยอยู่ที่การฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด ฉบับที่ 88พ.ศ. 2528 น้ำมันหล่อลื่นที่จำเลยได้จำหน่ายไปมิใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33(1).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราต่อเนื่อง อายุความไม่ขาด
จำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ๒๕๓๐จนกระทั่งถึงวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๓๐ เป็นการกระทำผิดหลายคราวต่อเนื่องกันตลอดมา ผู้เสียหายร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๓๐ เป็นการร้องทุกข์ภายในกำหนด ๓ เดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ.