คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บริวาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 147 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าช่วง-บริวาร: สิทธิในการอ้าง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ผู้ร้องได้เช่าเคหะซึ่งจำเลยปลูกในที่ดินซึ่งจำเลยเช่ามาจากโจทก์ โดยไม่ปรากฎว่าโจทก์ยินยอมด้วย ต้องถือว่า ผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลย ผู้ร้องไม่ได้เป็นผู้เช่าจากโจทก์ จะอ้าง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันยันโจทก์ไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าช่วงและสิทธิในการอ้าง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: ผู้เช่าช่วงไม่มีสิทธิอ้าง พ.ร.บ. กับเจ้าของที่ดินโดยตรง
ผู้ร้องได้เช่าเคหะซึ่งจำเลยปลูกในที่ดินซึ่งจำเลยเช่ามาจากโจทก์โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ยินยอมด้วยต้องถือว่าผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลยผู้ร้องไม่ได้เป็นผู้เช่าจากโจทก์ จะอ้างพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันยันโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1028/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาล: คำร้องขอประกันตัวไม่ใช่คำคัดค้านคำสั่ง
ผู้ร้องถูกศาลสั่งขังในฐานเป็นบริวารของจำเลยไม่ยอมปฏิบัติตามคำบังคับของศาล สามีผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องไม่ใช่บริวารของจำเลยและยื่นคำร้องขอประกันตัวผู้ร้อง ศาลมีคำสั่งว่า ผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลย ให้ยกคำร้องดังนี้ ผู้ร้องไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลนั้น เพราะเป็นคำสั่งระหว่างศาลกับสามีผู้ร้องและคำร้องของสามีผู้ร้องก็เป็นเรื่องยื่นขอประกันตัวผู้ร้อง ไม่ใช่เป็นคำร้องคัดค้านคำสั่งศาลหรือเป็นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาในข้อที่ว่า ผู้ร้องมิใช่บริวาร ศาลจะสั่งขับไล่ผู้ร้องไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 620/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีขับไล่บริวารผู้เช่า: จำเลยอ้างเป็นผู้เช่าเอง ถือเป็นคดีมโนสาเร่
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยซึ่งเป็นบริวารของผู้เช่าออกจากห้องเช่าอันมีราคาค่าเช่าเดือนละ 6 บาท จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยเป็นผู้เช่าเอง หาได้ต่อสู้กรรมสิทธิ์หรือเถียงในเรื่องแปลความหมายแห่งข้อความในสัญญาเช่าไม่ จึงเป็นคดีมโนสาเร่ อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าช่วงโดยไม่ได้รับความยินยอมทำให้ผู้เช่าช่วงมีฐานะเป็นบริวารของผู้เช่าเดิม ศาลสามารถบังคับขับไล่ได้
ผู้เช่าช่วงโดยเจ้าของไม่ยินยอมให้เช่าช่วงนั้น ได้ชื่อว่าเป็นบริวารของผู้เช่าตามความในวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 142 เมื่อศาลพิพากษาขับไล่ผู้เช่าแล้วก็สั่งบังคับขับไล่ผู้เช่าช่วงเช่นนี้ได้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภริยาจำเลยในฐานะบริวารสามี ไม่มีสิทธิอ้างเหตุต่อสู้กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่เช่า
ภริยานับเป็นบริวารของสามีฉนั้นในการที่ฟ้องขับไล่จะอ้างว่าไม่ได้เป็นคู่สัญญากับเจ้าของที่ดินเพื่อต่อสู้กรรมสิทธิ์ไม่ได้ กฏหมายปิดปาก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6219/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้จะซื้อที่ดินที่ถูกบังคับคดี: ผู้จะซื้อไม่ใช่บริวารเจ้าหนี้
ผู้ร้องเป็นผู้จะซื้อที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างในที่ดินจากจำเลยโดยผู้ร้องได้ชำระราคาบางส่วนและได้เข้าครอบครองทรัพย์สินตามสัญญาจะซื้อขายแล้ว ผู้ร้องเป็นผู้จะซื้อมีสิทธิเพียงเรียกให้จำเลยซึ่งเป็นผู้จะขายโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตามสัญญาจะซื้อขายให้แก่ผู้ร้องโดยผู้ร้องต้องชำระราคาที่เหลือ การเข้าครอบครองก่อนการโอนกรรมสิทธิ์เป็นการเข้าครอบครองโดยอาศัยสิทธิของจำเลย กรณีถือไม่ได้ว่าผู้ร้องเป็นผู้มีอำนาจพิเศษตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 จัตวา (3) ผู้ร้องจึงเป็นบริวารของจำเลยและไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13240/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสันนิษฐานว่าเป็นบริวารในคดีบังคับคดี: หลักฐานการทำประโยชน์ที่ดิน และผลกระทบต่อการอ้างสิทธิพิเศษ
ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 จัตวา (3) ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 4 และ พ.ร.บ.ให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ.2520 มาตรา 3 นั้น เมื่อเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาแจ้งต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารยังไม่ออกไปตามคำบังคับ ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีปิดประกาศกำหนดเวลาให้ผู้ที่อ้างว่าไม่ใช่บริวารของลูกหนี้ตามคำพิพากษายื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษต่อศาลภายในกำหนดเวลาแปดวันนับแต่วันปิดประกาศ ถ้าไม่ยื่นภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบริวารของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ฉะนั้น ผู้ที่อ้างอำนาจพิเศษดังกล่าวจะต้องมีหลักฐานเบื้องต้นมาแสดงต่อศาลมิใช่กล่าวอ้างขึ้นลอย ๆ ผู้ร้องยื่นคำร้องและฎีกาว่า ผู้ร้องเช่าที่ดินจากจำเลยเพื่อปลูกต้นยางพารา มีกำหนดเวลา 30 ปี โดยที่ดินพิพาทไม่ได้อยู่ในที่ดินที่ผู้ร้องเช่า เมื่อผู้ร้องไม่มีหลักฐานเบื้องต้นมาแสดงว่า ผู้ร้องเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทได้อย่างไร จึงรับฟังได้ว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิเข้าไปทำประโยชน์ที่ดินพิพาท การที่ผู้ร้องเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทจึงถือว่าเป็นการเข้าไปทำประโยชน์โดยอาศัยสิทธิของจำเลย ผู้ร้องจึงเป็นบริวารของจำเลย กรณีถือไม่ได้ว่าผู้ร้องเป็นผู้มีอำนาจพิเศษ ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 4 และ พ.ร.บ.ให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ.2520 มาตรา 3

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10879-10880/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่และการไม่เป็นฟ้องซ้อน กรณีจำเลยเป็นบริวารและบุคคลอื่น
จำเลยทั้งสองและบริวารอาศัยอยู่ในที่ดินพิพาทของโจทก์โดยไม่มีสิทธิ ย่อมเป็นการทำละเมิดโจทก์ด้วยกันทุกคน โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองและบริวารทั้งหมดให้ออกไปจากที่ดินได้ ไม่ว่าจะฟ้องรวมมาในคดีเดียวกันหรือแยกฟ้องเป็นรายบุคคล โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 สำนวนหลัง ซึ่งเป็นจำเลยคนละคนกับสำนวนแรกจึงไม่เป็นฟ้องซ้อนตาม ป.วิ.พ. มาตรา 173 วรรคสอง (1)
ประเด็นในคดีก่อนตามคำพิพากษาศาลฎีกามีว่า ที่ดินพิพาทอยู่ในเขตที่ดินของโจทก์หรือไม่ ซึ่งศาลฎีกาพิพากษาว่าที่ดินพิพาทอยู่ในเขตที่ดินของโจทก์ ส่วนคดีนี้ โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองเป็นคำฟ้องเกี่ยวกับเรื่องละเมิด ซึ่งมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสองกระทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ ประเด็นแห่งคดีจึงแตกต่างกัน ถือไม่ได้ว่าเป็นเรื่องเดียวกันไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 144

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13288/2556

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ หากไม่มีหลักฐาน ผู้เช่าช่วงถือเป็นบริวารลูกหนี้ตามคำพิพากษา
การเช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์ต้องตกอยู่ภายใต้บังคับของ ป.พ.พ. มาตรา 538 ซึ่งจะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญ แต่ผู้ร้องเช่าช่วงบ้านพิพาทจากจำเลยโดยไม่มีสัญญาเช่าต่อโจทก์หรือจำเลย ผู้ร้องจึงไม่อาจยกการเช่าช่วงขึ้นใช้ยันโจทก์ได้ ไม่ว่าโจทก์จะรู้เห็นยินยอมด้วยหรือไม่ การเช่าช่วงดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องถือว่าผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลย การต่อเติมห้องครัวและห้องน้ำที่อ้างเป็นไปเพื่อความสะดวกในการใช้ทรัพย์สินของผู้ร้อง ไม่ใช่การปลูกสร้างใหม่ จึงไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าการเช่าธรรมดาอันไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ จึงถือไม่ได้ว่าผู้ร้องเป็นผู้มีอำนาจพิเศษตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 จัตวา (3) จึงไม่มีเหตุที่จะต้องไต่สวนคำร้องของผู้ร้อง
of 15