พบผลลัพธ์ทั้งหมด 148 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกกล่าวให้ชำระค่าเช่าและการยกข้อกฎหมายใหม่ในอุทธรณ์ฎีกา
การบอกกล่าวให้ผู้เช่าให้ชำระค่าเช่าที่ค้างก่อนตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 560 นั้นไม่ใช่เป็นกรณี เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ฉะนั้นเมื่อไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันในศาลชั้นต้นแล้ว จะมายกขึ้นอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกกล่าวค่าเช่าค้างชำระ: ไม่ใช่ประเด็นความสงบเรียบร้อย, อุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
การบอกกล่าวให้ผู้เช่าให้ชำระค่าเช่าที่ค้างก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 560 นั้น ไม่ใช่เป็นกรณีเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ฉะนั้นเมื่อไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันในศาลชั้นต้นแล้ว จะมายกขึ้นอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1679/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนลักษณะการครอบครองจากทำกินต่างดอกเบี้ยเป็นครอบครองปรปักษ์ต้องบอกกล่าวเจ้าของที่ดินก่อน
ผู้ครอบครองยึดถือที่ดินทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้นั้นถือว่าอยู่ในฐานะเป็นผู้แทนเจ้าของที่ดิน เมื่อจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการครอบครองเป็นการยึดถือเพือตน ก็จะต้องบอกกล่าวไปยังเจ้าของที่ดินก่อน
ผู้ครอบครองที่ดินทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าตนเป็นเจ้าของที่ดินนั้น โดยอ้างว่าภายหลังตนได้ปกครองที่ดินอย่างเปิดเผยโดยเจตนาเป็นเจ้าของมาเกิน 11 ปีแล้ว แต่ไม่ได้บรรยายในฟ้องว่าตนได้บอกกล่าวให้ฝ่ายเจ้าของที่ดินทราบถึงการเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือแล้วดังนี้ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องเสียได้
ผู้ครอบครองที่ดินทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าตนเป็นเจ้าของที่ดินนั้น โดยอ้างว่าภายหลังตนได้ปกครองที่ดินอย่างเปิดเผยโดยเจตนาเป็นเจ้าของมาเกิน 11 ปีแล้ว แต่ไม่ได้บรรยายในฟ้องว่าตนได้บอกกล่าวให้ฝ่ายเจ้าของที่ดินทราบถึงการเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือแล้วดังนี้ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1679/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนลักษณะการครอบครองจากทำกินต่างดอกเบี้ยเป็นครอบครองเพื่อตน ต้องบอกกล่าวเจ้าของที่ดิน
ผู้ครอบครองยึดถือที่ดินทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้นั้นถือว่าอยู่ในฐานะเป็นผู้แทนเจ้าของที่ดิน เมื่อจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการครอบครองเป็นการยึดถือเพื่อตน ก็จะต้องบอกกล่าวไปยังเจ้าของที่ดินก่อน
ผู้ครอบครองที่ดินทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าตนเป็นเจ้าของที่ดินนั้น โดยอ้างว่าภายหลังตนได้ปกครองที่ดินอย่างเปิดเผยโดยเจตนาเป็นเจ้าของมาเกิน11 ปีแล้ว แต่ไม่ได้บรรยายในฟ้องว่า ตนได้บอกกล่าวให้ฝ่ายเจ้าของที่ดินทราบถึงการเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือแล้ว ดังนี้ ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องเสียได้
ผู้ครอบครองที่ดินทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าตนเป็นเจ้าของที่ดินนั้น โดยอ้างว่าภายหลังตนได้ปกครองที่ดินอย่างเปิดเผยโดยเจตนาเป็นเจ้าของมาเกิน11 ปีแล้ว แต่ไม่ได้บรรยายในฟ้องว่า ตนได้บอกกล่าวให้ฝ่ายเจ้าของที่ดินทราบถึงการเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือแล้ว ดังนี้ ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1028/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าช่วงโดยไม่ได้รับอนุญาตและการฟ้องขับไล่ ผู้ให้เช่าไม่ต้องบอกกล่าว
ผู้เช่าออกจากบ้านเช่าไปอยู่ที่อื่นและโอนให้คนอื่นมาอยู่แทน โดยผู้ให้เช่าไม่ทราบและไม่ได้อนุญาตนั้น เป็นการฝ่าฝืน ป.พ.พ.ม. 544 ผู้ให้เช่าไม่จำต้องบอกกล่าวตาม ม.566 ก็ฟ้องขับไล่ได้ และกรณีเช่นนี้ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 690/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าไม่มีกำหนดเวลา สิ้นสุดลงได้ด้วยการบอกกล่าวล่วงหน้าตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยอาศัยและได้บอกกล่าวให้จำเลยออกไปแล้ว จำเลยไม่ออก จำเลยต่อสู้ว่า เป็นการเช่า ดังนี้แม้จะได้ความว่า จำเลยได้เช่าจากโจทก์ก็ดีเมื่อเป็นการเช่าที่ไม่มีกำหนดเวลา โจทก์ได้บอกกล่าวล่วงหน้าครบกำหนดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566แล้ว ศาลก็พิพากษาขับไล่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิในสัญญามีเงื่อนไขและการบอกกล่าวการโอนสิทธิเรียกร้องที่สมบูรณ์
สัญญาที่มีเงื่อนไขนั้นในขณะที่เงื่อนไขยังไม่สำเร็จก็โอนกันได้ เมื่อการโอนสิทธิเรียกร้องได้ทำเป็นหนังสือแล้ว และผู้รับโอนได้ทำหนังสือบอกกล่าวให้ลูกหนี้ทราบการโอนนั้นแล้วก็เป็นอันสมบูรณ์ และใช้ยันลูกหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 201/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกหนี้จำนองโดยไม่บอกกล่าวบังคับจำนอง ถือเป็นการหลีกเลี่ยงกฎหมาย
เจ้าหนี้ฟ้องเรียกเงินในสัญญาจำนองซึ่งจำเลยเป็นลูกหนี้และเป็นผู้จำนองเองโดยมิได้บอกกล่าวการบังคับจำนองก่อนนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้เงิน, การโอนหนี้, และน้ำหนักพยาน: การส่งมอบเงินไม่จำเป็นต้องทันที การบอกกล่าวการโอนมีผลผูกพัน
การกู้เงินกันนั้นหาจำต้องส่งมอบกันในขณะกู้ไม่ จะส่งมอบกันเมื่อใดก็ได้ การโอนหนี้นั้น แม้ผู้รับโอนจะยังมิได้บอกกล่าวการโอนไปยังลูกหนี้ก็ไม่ทำให้การโอนไม่สมบูรณ์ วิธีพิจารณาแพ่ง ประเด็น ตัดสิน ตัดสินนอกประเด็น ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.98 คำของผู้เชี่ยวชาญไม่มีน้ำหนักดีกว่าประจักษ์พะยาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10808/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนองที่ดิน-การบอกกล่าวบังคับจำนอง: การส่งทางไปรษณีย์ถือว่ามีผลเมื่อถึงภูมิลำเนา แม้ผู้รับไม่ได้รับ
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 10933 และ 11652 ไว้แก่โจทก์เพื่อเป็นประกันหนี้เงินกู้ ครบกำหนดแล้วจำเลยไม่ชำระหนี้ จึงฟ้องขอให้บังคับจำนอง จำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้จำนองที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าวไว้แก่โจทก์ เพียงแต่ต่อสู้ว่า โจทก์นำค่านายหน้าและดอกเบี้ยล่วงหน้ารวมเป็นต้นเงินเป็นการไม่ชอบ ถือว่าจำเลยรับแล้วว่าจำนองที่ดินทั้งสองแปลงไว้แก่โจทก์ โจทก์จึงไม่ต้องนำสืบหรือส่งพยานหลักฐานเกี่ยวกับการจำนองที่ดินทั้งสองแปลงต่อศาล การที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะโจทก์ไม่ได้ส่งโฉนดที่ดิน 11652 ต่อศาลเพื่อประกอบการพิจารณา และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามนั้น เป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติว่าด้วยคำพิพากษาและคำสั่งอันเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีคู่ความฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5) ประกอบมาตรา 246, 247
การบอกกล่าวบังคับจำนองเป็นการแสดงเจตนาอย่างหนึ่งตาม ป.พ.พ. มาตรา 169 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติว่า "การแสดงเจตนาที่กระทำต่อบุคคลซึ่งมิได้อยู่เฉพาะหน้าให้ถือว่ามีผลนับแต่เวลาที่การแสดงเจตนานั้นไปถึงผู้รับการแสดงเจตนา..." ถ้อยคำว่า "ไปถึง" นั้น หมายความว่า ได้มีการแสดงเจตนาโดยมีจดหมายบอกกล่าวบังคับจำนองไปยังลูกหนี้ ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานของลูกหนี้ แม้ขณะจดหมายบอกกล่าวไปถึงภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานของลูกหนี้จะไม่พบลูกหนี้หรือไม่มีผู้ใดรับไว้ ก็ถือว่าผู้รับจำนองมีจดหมายบอกกล่าวบังคับจำนองไปถึงลูกหนี้โดยชอบแล้ว ตาม ป.พ.พ. มาตรา 728 และมาตรา 169 วรรคหนึ่ง
การบอกกล่าวบังคับจำนองเป็นการแสดงเจตนาอย่างหนึ่งตาม ป.พ.พ. มาตรา 169 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติว่า "การแสดงเจตนาที่กระทำต่อบุคคลซึ่งมิได้อยู่เฉพาะหน้าให้ถือว่ามีผลนับแต่เวลาที่การแสดงเจตนานั้นไปถึงผู้รับการแสดงเจตนา..." ถ้อยคำว่า "ไปถึง" นั้น หมายความว่า ได้มีการแสดงเจตนาโดยมีจดหมายบอกกล่าวบังคับจำนองไปยังลูกหนี้ ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานของลูกหนี้ แม้ขณะจดหมายบอกกล่าวไปถึงภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานของลูกหนี้จะไม่พบลูกหนี้หรือไม่มีผู้ใดรับไว้ ก็ถือว่าผู้รับจำนองมีจดหมายบอกกล่าวบังคับจำนองไปถึงลูกหนี้โดยชอบแล้ว ตาม ป.พ.พ. มาตรา 728 และมาตรา 169 วรรคหนึ่ง