พบผลลัพธ์ทั้งหมด 284 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 501-503/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท ปลอมเอกสารหลอกลวงประกันชีวิต ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษตามกฎหมายที่หนักที่สุด
จำเลยปลอมใบสมัครสมาชิกประเภทสวัสดิการสงเคราะห์หนังสือรับรองวันมรณะ สำเนาใบมรณะ สำเนาทะเบียนบ้านและใช้เอกสารปลอมเหล่านั้น ก็โดยมีเจตนาที่จะใช้เป็นหลักฐานในการหลอกลวงบริษัทประกันชีวิต เป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกันตั้งแต่จำเลยปลอมไปจนถึงวันที่ใช้เอกสารปลอมฉบับสุดท้ายเพื่อรับเงินจากบริษัท ไม่ว่าจะใช้เอกสารปลอมพร้อมกันครั้งเดียวหรือใช้คนละครั้ง จึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3732/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีปลอมเอกสารและการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ต้องเชื่อมโยงกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้มีสิทธิโดยตรง
ความเสียหายที่เกิดขึ้นสำหรับความผิดฐานปลอมเอกสารจะต้องเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะข้อความแห่งเอกสารนั้น เมื่อข้อความในเอกสารที่โจทก์อ้างว่าจำเลยปลอมไม่มีข้อความเกี่ยวถึงตัวโจทก์ การที่โจทก์ต้องเสียที่ดินไปเป็นเรื่องของการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยผู้นำชี้นำชี้ทับที่ดินของโจทก์ ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการปลอมใบมอบอำนาจ โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม
เมื่อข้อเท็จจริงตามคำบรรยายฟ้องไม่มีข้อที่แสดงว่าจำเลยกระทำไป เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น หรือเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นแล้วคำฟ้องดังกล่าวจึงขาดองค์ประกอบความผิดในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นคำฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)
เมื่อข้อเท็จจริงตามคำบรรยายฟ้องไม่มีข้อที่แสดงว่าจำเลยกระทำไป เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น หรือเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นแล้วคำฟ้องดังกล่าวจึงขาดองค์ประกอบความผิดในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นคำฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3732/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีปลอมเอกสารและเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ต้องเสียหายโดยตรงจากเอกสารหรือการปฏิบัติหน้าที่นั้น
ความเสียหายที่เกิดขึ้นสำหรับความผิดฐานปลอมเอกสารจะต้องเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะข้อความแห่งเอกสารนั้นเมื่อข้อความในเอกสารที่โจทก์อ้างว่าจำเลยปลอมไม่มีข้อความเกี่ยวถึงตัวโจทก์ การที่โจทก์ต้องเสียที่ดินไปเป็นเรื่องของการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยผู้นำชี้นำชี้ทับที่ดินของโจทก์ ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการปลอมใบมอบอำนาจ โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม
เมื่อข้อเท็จจริงตามคำบรรยายฟ้องไม่มีข้อที่แสดงว่าจำเลยกระทำไปเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่นหรือเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นแล้วคำฟ้องดังกล่าวจึงขาดองค์ประกอบความผิดในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นคำฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
เมื่อข้อเท็จจริงตามคำบรรยายฟ้องไม่มีข้อที่แสดงว่าจำเลยกระทำไปเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่นหรือเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นแล้วคำฟ้องดังกล่าวจึงขาดองค์ประกอบความผิดในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นคำฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2297/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมเอกสารโยนความรับผิดโดยตัวแทนจำหน่ายสินค้าเชื่อ ก่อความเสียหายแก่ผู้อื่นและสังคม
จำเลยเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าเชื่อแก่ประชาชนปลอมเอกสารเพื่อเป็นหลักฐานโยนความรับผิดแก่บุคคลอื่นที่มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องก่อให้เกิดความเสียหายเป็นที่เดือดร้อนแก่สุจริตชนเป็นอย่างมากเช่นโจทก์คดีนี้ที่ต้องถูกฟ้องได้รับความเสียหายนับเป็นภัยแก่ประชาชนและสังคม จึงไม่มีเหตุอันควรที่จะรอการลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1526/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงลายมือชื่อแทนกัน แม้มีเจตนาดีก็เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร หากไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นแก่ผู้อื่น
กรณีเกี่ยวกับลายมือชื่อนั้นไม่มีกฎหมายให้อำนาจลงลายมือชื่อแทนกันได้ แม้เจ้าของลายมือชื่ออนุญาตหรือให้ความยินยอมก็ลงลายมือชื่อแทนกันไม่ได้ การที่จำเลยทำหนังสือถึงผู้จัดการสหกรณ์แจ้งให้ทราบว่า ศ. น้องสาวโจทก์เดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศและขอลาออกจากสมาชิกสหกรณ์ โดยใช้ชื่อโจทก์หรือลงลายมือชื่อโจทก์จึงเป็นการลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 แต่เมื่อปรากฏว่าจำเลยทำหนังสือดังกล่าวโดยความยินยอมของโจทก์ โจทก์จึงไม่อยู่ในฐานะที่จะได้รับความเสียหาย ศ.และสหกรณ์ก็ไม่ได้รับความเสียหาย จำเลยจึงไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1526/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงลายมือชื่อแทนกัน แม้มีเจตนาดีก็เป็นการปลอมเอกสาร แต่ไม่เป็นความผิดหากไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น
กรณีเกี่ยวกับลายมือชื่อนั้นไม่มีกฎหมายให้อำนาจลงลายมือชื่อแทนกันได้แม้เจ้าของลายมือชื่ออนุญาตหรือให้ความยินยอมก็ลงลายมือชื่อแทนกันไม่ได้ การที่จำเลยทำหนังสือถึงผู้จัดการสหกรณ์ แจ้งให้ทราบว่า ศ. น้องสาวโจทก์เดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศและขอลาออกจากสมาชิกสหกรณ์ โดยใช้ชื่อโจทก์หรือลงลายมือชื่อโจทก์ จึงเป็นการลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 แต่เมื่อปรากฏว่าจำเลยทำหนังสือดังกล่าวโดยความยินยอมของโจทก์ โจทก์จึงไม่อยู่ในฐานะที่จะได้รับความเสียหาย ศ.และสหกรณ์ก็ไม่ได้รับความเสียหาย จำเลยจึงไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3792/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวกัน ฟ้องซ้ำไม่ได้: ศาลยกฟ้องฐานปลอมเอกสาร หลังเคยตัดสินลงโทษฐานฉ้อโกงแล้ว
ความผิดในคดีก่อนกับความผิดในคดีนี้เป็นความผิดกรรมเดียวกันแต่ผิดต่อกฎหมายหลายบทเมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีก่อนเฉพาะความผิดฐานฉ้อโกงและโกงเจ้าหนี้และศาลพิพากษาลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงไปแล้ว ถือได้ว่าได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว โจทก์จะนำความผิดเดียวกันนั้นมาฟ้องให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2830/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพนักงานรัฐ ปลอมเอกสารสิทธิ และปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีสถานธนานุเคราะห์
จำเลยที่ 2 เป็นพนักงานในหน่วยงานของรัฐ โดยเป็นเสมียนสถานธนานุเคราะห์สังกัดกรมประชาสงเคราะห์ มีหน้าที่เขียนตั๋วรับจำนำ จำเลยที่ 2 พิมพ์ลายนิ้วมือของตนในตั๋วรับจำนำซึ่งมีชื่อผู้อื่นเป็นผู้จำนำ แสดงออกว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของผู้จำนำ มีความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิ
พฤติการณ์ซึ่งจำเลยที่ 2 ปลอมตั๋วรับจำนำ แสดงว่ามีเจตนาทุจริต การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่สำนักงานธนานุเคราะห์กรมประชาสงเคราะห์ จึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 อีกบทหนึ่งด้วย
คดีความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิและความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 พนักงานอัยการไม่มีสิทธิขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์แทนผู้เสียหาย
พฤติการณ์ซึ่งจำเลยที่ 2 ปลอมตั๋วรับจำนำ แสดงว่ามีเจตนาทุจริต การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่สำนักงานธนานุเคราะห์กรมประชาสงเคราะห์ จึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 อีกบทหนึ่งด้วย
คดีความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิและความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 พนักงานอัยการไม่มีสิทธิขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์แทนผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2830/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพนักงานรัฐ ปลอมเอกสารสิทธิ-ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ แม้ไม่มีหลักฐานยักยอกทรัพย์
จำเลยที่ 2 เป็นพนักงานในหน่วยงานของรัฐ โดยเป็นเสมียนสถานธนานุเคราะห์สังกัดกรมประชาสงเคราะห์ มีหน้าที่เขียนตั๋วรับจำนำ จำเลยที่ 2 พิมพ์ลายนิ้วมือของตนในตั๋วรับจำนำ ซึ่งมีชื่อผู้อื่นเป็นผู้จำนำ แสดงออกว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของผู้จำนำ มีความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิ
พฤติการณ์ซึ่งจำเลยที่ 2 ปลอมตั๋วรับจำนำ แสดงว่ามีเจตนาทุจริต การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่สำนักงานธนานุเคราะห์กรมประชาสงเคราะห์ จึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐพ.ศ.2502 อีกบทหนึ่งด้วย
คดีความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิและความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502มาตรา 11 พนักงานอัยการไม่มีสิทธิขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์แทนผู้เสียหาย
พฤติการณ์ซึ่งจำเลยที่ 2 ปลอมตั๋วรับจำนำ แสดงว่ามีเจตนาทุจริต การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่สำนักงานธนานุเคราะห์กรมประชาสงเคราะห์ จึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐพ.ศ.2502 อีกบทหนึ่งด้วย
คดีความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิและความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502มาตรา 11 พนักงานอัยการไม่มีสิทธิขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์แทนผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2178/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการฟ้องร้องคดีอาญาของบริษัท และความผิดฐานปลอมเอกสาร ยักยอกทรัพย์
เมื่อ อ. เป็นผู้จัดการของโจทก์ร่วมซึ่งเป็นนิติบุคคลย่อมเป็นผู้เสียหายตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา2(4),5(3) ในอันที่จะดำเนินการร้องทุกข์หรือฟ้องร้องคดีอาญาด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นกระทำแทนได้(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 890/2503)
สำเนาใบเบิกพัสดุที่เป็นเอกสารคู่ฉบับที่ผู้ขอเบิกพัสดุนำมาขอเบิกและรับพัสดุไปจากจำเลยตามรายการที่ขอเบิกและมอบให้จำเลยเก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานการที่จำเลยแก้ไขเปลี่ยนแปลงจำนวนรายการของเพิ่มขึ้นนอกเหนือก็เพื่อใช้เอกสารที่ทำปลอมขึ้นนี้เพื่อยักยอกเอาพัสดุของโจทก์ร่วมซึ่งอยู่ในความดูแลรักษารับผิดชอบของจำเลยไปเป็นประโยชน์ของตนหรือผู้อื่นเป็นเพียงแต่การใช้เพื่ออำพรางความผิดของตนหาใช่เป็นหลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับซึ่งสิทธิ ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา1(9) ไม่ สำเนาใบเบิกพัสดุจึงไม่ใช่เอกสารสิทธิ
ความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354 มีลักษณะของการกระทำความผิดโดยเฉพาะและหนักเป็นกรณีพิเศษเมื่อโจทก์มิได้ฟ้องขอให้ลงโทษตามมาตรา 354 แล้ว ศาลจะลงโทษตามบทมาตรานี้ไม่ได้
การที่จำเลยปลอมเอกสารและใช้เอกสารที่ทำปลอมขึ้นก็เพื่อใช้ในการยักยอกเอาทรัพย์ของโจทก์ร่วมไปในคราวเดียวกันย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวกันแต่มีความผิดต่อกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา90 แต่เมื่อจำเลยได้ทำปลอมเอกสารและใช้เอกสารที่ปลอมเพื่อใช้ยักยอกทรัพย์ของโจทก์ร่วม 22 ครั้ง มีจำนวนถึง 22 ฉบับการกระทำของจำเลยจึงถือได้ว่าเป็นการกระทำอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
สำเนาใบเบิกพัสดุที่เป็นเอกสารคู่ฉบับที่ผู้ขอเบิกพัสดุนำมาขอเบิกและรับพัสดุไปจากจำเลยตามรายการที่ขอเบิกและมอบให้จำเลยเก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานการที่จำเลยแก้ไขเปลี่ยนแปลงจำนวนรายการของเพิ่มขึ้นนอกเหนือก็เพื่อใช้เอกสารที่ทำปลอมขึ้นนี้เพื่อยักยอกเอาพัสดุของโจทก์ร่วมซึ่งอยู่ในความดูแลรักษารับผิดชอบของจำเลยไปเป็นประโยชน์ของตนหรือผู้อื่นเป็นเพียงแต่การใช้เพื่ออำพรางความผิดของตนหาใช่เป็นหลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับซึ่งสิทธิ ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา1(9) ไม่ สำเนาใบเบิกพัสดุจึงไม่ใช่เอกสารสิทธิ
ความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354 มีลักษณะของการกระทำความผิดโดยเฉพาะและหนักเป็นกรณีพิเศษเมื่อโจทก์มิได้ฟ้องขอให้ลงโทษตามมาตรา 354 แล้ว ศาลจะลงโทษตามบทมาตรานี้ไม่ได้
การที่จำเลยปลอมเอกสารและใช้เอกสารที่ทำปลอมขึ้นก็เพื่อใช้ในการยักยอกเอาทรัพย์ของโจทก์ร่วมไปในคราวเดียวกันย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวกันแต่มีความผิดต่อกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา90 แต่เมื่อจำเลยได้ทำปลอมเอกสารและใช้เอกสารที่ปลอมเพื่อใช้ยักยอกทรัพย์ของโจทก์ร่วม 22 ครั้ง มีจำนวนถึง 22 ฉบับการกระทำของจำเลยจึงถือได้ว่าเป็นการกระทำอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91