พบผลลัพธ์ทั้งหมด 263 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1720/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นแพทย์และปลอมแปลงเอกสารราชการ ผู้เสียหายหลงเชื่อมอบเงิน
จำเลยแสดงตนว่าเป็นแพทย์ และพ่อตาจำเลยเป็นแพทย์ใหญ่แม้ความจริงจำเลยและพ่อตาไม่ได้เป็นแพทย์ แต่ผู้เสียหายหลงเชื่อให้เงินจำเลยไปเพื่อวิ่งเต้นช่วยเหลือบุตรผู้เสียหาย จำเลยย่อมมีผิดตาม มาตรา 123
ปลอมสำเนาหนังสือราชการซึ่งทำให้เห็นว่าเป็นสำเนาหนังสือที่เจ้าหน้าที่เรียบเรียงและรับรองว่าเป็นสำเนาอันแท้จริงแม้ความจริงจะไม่มีแบบหนังสือที่แท้จริงนั้นก่อนก็ตามก็ยังคงเป็นผิดตาม มาตรา 224
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแสดงตนว่าเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงาน ผู้เสียหายหลงเชื่อให้เงินจำเลยไปเหตุเกิดที่ตำบล ก. แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยพูดแสดงตนเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานที่ตำบล ข. แต่ได้รับเงินจากผู้เสียหายที่ตำบล ก. เช่นนี้ฟ้องของโจทก์หาผิดตำบลที่เกิดเหตุไม่
ปลอมสำเนาหนังสือราชการซึ่งทำให้เห็นว่าเป็นสำเนาหนังสือที่เจ้าหน้าที่เรียบเรียงและรับรองว่าเป็นสำเนาอันแท้จริงแม้ความจริงจะไม่มีแบบหนังสือที่แท้จริงนั้นก่อนก็ตามก็ยังคงเป็นผิดตาม มาตรา 224
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแสดงตนว่าเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงาน ผู้เสียหายหลงเชื่อให้เงินจำเลยไปเหตุเกิดที่ตำบล ก. แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยพูดแสดงตนเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานที่ตำบล ข. แต่ได้รับเงินจากผู้เสียหายที่ตำบล ก. เช่นนี้ฟ้องของโจทก์หาผิดตำบลที่เกิดเหตุไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1720/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นแพทย์และปลอมแปลงเอกสารราชการ ผู้เสียหายหลงเชื่อมอบเงิน
จำเลยแสดงตนว่าเป็นแพทย์ และพ่อตาจำเลยเป็นแพทย์ใหญ่แม้ความจริงจำเลยและพ่อตาไม่ได้เป็นแพทย์ แต่ผู้เสียหายหลงเชื่อให้เงินจำเลยไปเพื่อวิ่งเต้นช่วยเหลือบุตรผู้เสียหาย จำเลยย่อมมีผิดตาม มาตรา 123
ปลอมสำเนาหนังสือราชการซึ่งทำให้เห็นว่าเป็นสำเนาหนังสือที่เจ้าหน้าที่เรียบเรียงและรับรองว่าเป็นสำเนาอันแท้จริงแม้ความจริงจะไม่มีแบบหนังสือที่แท้จริงนั้นก่อนก็ตามก็ยังคงเป็นผิดตาม มาตรา 224
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแสดงตนว่าเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงาน ผู้เสียหายหลงเชื่อให้เงินจำเลยไปเหตุเกิดที่ตำบล ก. แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยพูดแสดงตนเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานที่ตำบล ข. แต่ได้รับเงินจากผู้เสียหายที่ตำบล ก. เช่นนี้ฟ้องของโจทก์หาผิดตำบลที่เกิดเหตุไม่
ปลอมสำเนาหนังสือราชการซึ่งทำให้เห็นว่าเป็นสำเนาหนังสือที่เจ้าหน้าที่เรียบเรียงและรับรองว่าเป็นสำเนาอันแท้จริงแม้ความจริงจะไม่มีแบบหนังสือที่แท้จริงนั้นก่อนก็ตามก็ยังคงเป็นผิดตาม มาตรา 224
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแสดงตนว่าเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงาน ผู้เสียหายหลงเชื่อให้เงินจำเลยไปเหตุเกิดที่ตำบล ก. แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยพูดแสดงตนเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานที่ตำบล ข. แต่ได้รับเงินจากผู้เสียหายที่ตำบล ก. เช่นนี้ฟ้องของโจทก์หาผิดตำบลที่เกิดเหตุไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องคดีปลอมแปลงเอกสารต้องระบุความเสียหายต่อสาธารณชนหรือบุคคลอื่น จึงจะสมบูรณ์
ความผิดฐานปลอมหนังสือและใช้หนังสือปลอมนั้นจะต้องประกอบด้วยองค์ความผิดว่าอาจเกิดความเสียหายแก่สาธารณชนหรือแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งด้วย ฉนั้น ฟ้องโจทก์ที่มิได้บรรยายถึงองค์ความผิดข้อนี้ไว้จึงไม่เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ก.ม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกทรัพย์ในหน้าที่ของลูกจ้างรายวัน และการพิพากษาความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารที่ไม่ชัดเจน
การที่จำเลยตั้งยอดเบิกเงินตามจำนวนทหารที่จะได้รับเงินเดือนนั้น จำเลยอาจต้องลงบัญชีไว้ก่อน เพื่อจะได้จ่ายในวันหลัง ดังจำเลยต่อสู้ก็ได้เมื่อไม่ได้ความว่าบัญชีไม่ตรงตามจำนวนทหารในเดือนใด การที่ทหารมารับเงินเดือนไม่ครบจำนวนจำเลยลงบัญชีจ่ายเต็มจำนวนให้ตรงกับบัญชีเงินสดประจำวันก็ไม่ได้หลักฐานว่ามีระเบียบข้อบังคับห้ามไม่ให้ทำเช่นนั้นดังนี้จะวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำการปลอมหนังสือไม่ถนัด
บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานกระทำผิดหลายกระทงขอให้ลงโทษตามมาตรา 319, ข้อ (3) ฯลฯ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าทางราชการจัดให้จำเลยทำหน้าที่เบิกจ่ายเงินจำเลยยักยอกเอาเงินรายนี้ไปจริงดังนี้ ก็ตรงกับคำฟ้องส่วนที่กล่าวว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานนั้นแม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานโดยตรงก็ยังถือไม่ได้ว่าคดีได้ความตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง
บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานกระทำผิดหลายกระทงขอให้ลงโทษตามมาตรา 319, ข้อ (3) ฯลฯ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าทางราชการจัดให้จำเลยทำหน้าที่เบิกจ่ายเงินจำเลยยักยอกเอาเงินรายนี้ไปจริงดังนี้ ก็ตรงกับคำฟ้องส่วนที่กล่าวว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานนั้นแม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานโดยตรงก็ยังถือไม่ได้ว่าคดีได้ความตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาฐานปลอมแปลงเอกสาร การบรรยายฟ้องไม่เคลือบคลุม แม้จำเลยอ้างไม่ทราบแหล่งที่มา
ฟ้องโจทก์บรรยายในชั้นต้นว่า จำเลยบังอาจทำหนังสือมอบอำนาจขายที่ดินปลอม แล้วตอนท้ายบรรยายว่า ดังปรากฎตามสำเนาเอกสารปลอมท้ายฟ้อง ซึ่งจำเลยเป็นผู้ปลอมเอง หรือผู้อื่นทำปลอมขึ้น ดังนี้ เมื่อหนังสือปลอมอยู่ในความครอบครองของจำเลยๆ ย่อมรู้ดีว่าจำเลยเองหรือผู้ใดเป็นผู้ปลอมขึ้นและจำเลยได้ใช้หนังสือปลอมนั้นจำเลยย่อมรู้ที่มาของหนังสือปลอมได้ดี ไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้หรือเสียเปรียบในทางอรรถคดีจึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างสัญญาเช่าที่ไม่เคยทำขึ้นจริงต่อศาลเข้าข่ายความผิดฐานให้การเท็จ ไม่เป็นความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
เช่าบ้านเขาอยุ่โดยไม่ได้ทำหนังสือสัญญาเช่ากันไว้ ครั้นเจ้าของบ้านขายบ้านนั้นให้ผู้อื่นไป ผู้ซื้อคนใหม่ให้ผุ้เช่าออกจากบ้านเช่า ผู้เช่าก็ไม่ยอมออก ผู้ซื้อจึงฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้สมคบกับเจ้าของบ้านคนเดิมทำหนังสือสัญญาเช่าขึ้น 1 ฉะบับแล้วผู้เช่าเอามาอ้างเป็นพยานต่อศาลดังนี้ ถือว่ายังไม่เป็นผิดฐานปลอมหนังสือ แต่เป็นผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 157 ( อ้างฎีกาที่ 654/2480 )
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 807/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานปลอมแปลงเอกสารและการใช้เอกสารปลอม โดยศาลอุทธรณ์แก้ไขคำพิพากษาจากฐานใช้เอกสารปลอมเป็นฐานปลอมแปลงเอกสาร
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยปลอมหนังสือขึ้นเอง แล้วนำหนังสือปลอมนั้นไปใช้ คือไปขายให้แก่ผู้อื่น จึงขอให้ลงโทษทั้ง 2 ฐานคือตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 224 และ 227 ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าฟังไม่ได้ว่าจำเลยปลอมเอง คงฟังได้ว่าจำเลยใช้หนังสือปลอมอันเป็นผิดตามมาตรา 227 ซึ่งโยนไปลงโทษตามมาตรา 224 จึงพิพากษาจำคุกจำเลย 2ปี
โจทก์มิได้อุทธรณ์ คงมีจำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ ขอให้ยกฟ้องศาลอุทธรณ์กลับเห็นว่าจำเลยเป็นตัวการในการปลอมหนังสือ แต่ไม่ผิดฐานใช้หนังสือปลอม จึงพิพากษาแก้ว่า จำเลยผิดฐานปลอมหนังสือตามมาตรา 224 ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการลงโทษตามมาตราที่โจทก์ฟ้อง จึงเป็นการชอบแล้ว
โจทก์มิได้อุทธรณ์ คงมีจำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ ขอให้ยกฟ้องศาลอุทธรณ์กลับเห็นว่าจำเลยเป็นตัวการในการปลอมหนังสือ แต่ไม่ผิดฐานใช้หนังสือปลอม จึงพิพากษาแก้ว่า จำเลยผิดฐานปลอมหนังสือตามมาตรา 224 ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการลงโทษตามมาตราที่โจทก์ฟ้อง จึงเป็นการชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 803/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารราชการ: ผู้ทำเอกสารไม่ใช่ผู้ลงนาม
สัสดีอำเภอผู้มีหน้าที่ทำและรักษาทะเบียนทหาร ทำใบกองเกินเท็จ ไปให้ปลัดอำเภอลงนามออกให้ผู้ที่มิใข่ตัวจริง ไป ดังนี้ เมื่อสัสดีไม่ใช่เจ้าพนักงานผู้ลงนามในใบกองเกินนั้น สัสดีอำเภอก็ย่อมมีผิดเพียงฐานปลอมหนังสือราชการ ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 224 หามีผิดตามมาตรา 229, 230 ไม่./
(อ้างฎีกาที่ 962/2492)
(อ้างฎีกาที่ 962/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 803/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารราชการ: ผู้ทำเอกสารไม่ใช่ผู้มีอำนาจลงนาม
สัสดีอำเภอผู้มีหน้าที่ทำและรักษาทะเบียนทหารทำใบกองเกินเท็จ ไปให้ปลัดอำเภอลงนามออกให้ผู้ที่มิใช่ตัวจริงไป ดังนี้ เมื่อสัสดีไม่ใช่เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ลงนามในใบกองเกินนั้นสัสดีอำเภอก็ย่อมมีผิดเพียงฐานปลอมหนังสือราชการตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 224หามีผิดตามมาตรา 229,230 ไม่ (อ้างฎีกาที่962/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 264/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขข้อความในใบมอบอำนาจเพื่อทำสัญญาโอนสิทธิในที่ดินถือเป็นการปลอมแปลงเอกสาร
เจ้าของที่ดินมีโฉนดทำใบมอบฉันทะให้จำเลย เป็นผู้มีอำนาจจัดการสอบเขตต์ที่ดินแทนตน จำเลยกลับขีดฆ่าข้อ
ความว่า ทำการรังวัดสอบเขตต์ที่ดินออกแล้ว เดิมข้อความว่า ทำสัญญาขายกรรมสิทธิที่ดินแทน แล้วนำใบมอบฉัน
ทะนั้นไปทำสัญญาโอนขายกรรมสิทธที่ดินนั้นแก่ผู้อื่นไปย่อมเป็นความผิดฐานปลอมหนังสือ.
ความว่า ทำการรังวัดสอบเขตต์ที่ดินออกแล้ว เดิมข้อความว่า ทำสัญญาขายกรรมสิทธิที่ดินแทน แล้วนำใบมอบฉัน
ทะนั้นไปทำสัญญาโอนขายกรรมสิทธที่ดินนั้นแก่ผู้อื่นไปย่อมเป็นความผิดฐานปลอมหนังสือ.