คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องเดิม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 165 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 886/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งต้องเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม & สัญญาเช่าไม่จดทะเบียนบังคับไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าที่ดินและตึกพิพาทจากโจทก์จำเลยไม่ชำระค่าเช่าค่าภาษีโรงเรือนให้โจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวาร ให้จำเลยชำระค่าเช่าค่าเสียหาย และค่าภาษีโรงเรือน จำเลยฟ้องแย้งว่าให้โจทก์ไปจัดการจดทะเบียนการเช่าให้แก่จำเลยมีกำหนด 10 ปี ดังนี้เมื่อสัญญาเช่านั้นมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จำเลยจะมาฟ้องบังคับโจทก์ให้จดทะเบียนหาได้ไม่ (อ้างฎีกาที่ 1538/2509) แม้ศาลจะรับฟ้องแย้งจำเลยไว้ จำเลยก็ไม่มีทางชนะคดี
ส่วนข้อที่จำเลยฟ้องแย้งว่า ให้โจทก์ไปจัดการเก็บค่าเช่าเป็นรายเดือนตามประเพณีผู้ให้เช่าเดิมปฏิบัติให้โจทก์จัดการให้มีกระแสไฟฟ้า และน้ำประปาใช้ในตึกแถวรายพิพาท เมื่อโจทก์ปฏิบัติการดังกล่าวแล้ว จึงให้โจทก์ไปจัดการเก็บค่าเช่าและค่าภาษีโรงเรือนที่จำเลยยังไม่ได้ชำระให้ดังนี้ ล้วนแต่เป็นคนละเรื่องไม่เกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมทั้งเป็นฟ้องล่วงหน้าที่มีเงื่อนไขซึ่งหมายความว่า หากจำเลยเป็นฝ่ายชนะคดี มีสิทธิอยู่ในตึกพิพาท จึงจะมีสิทธิขอให้ศาลบังคับให้โจทก์ปฏิบัติการตามฟ้องแย้งได้เมื่อเป็นฟ้องแย้งที่จะรวมพิจารณาร่วมกับฟ้องเดิมไม่ได้ก็ยังไม่เป็นฟ้องแย้งที่ควรจะพึงรับไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งมีเงื่อนไขพิจารณารวมกับฟ้องเดิมไม่ได้ ศาลไม่รับฟ้องแย้ง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย จำเลยให้การต่อสู้ว่าเพื่อขอให้ยกฟ้องโจทก์ และฟ้องแย้งว่าเมื่อโจทก์จะให้จำเลยเลิกเช่า โจทก์จะต้องคืนเงินค่าเช่าบางส่วนแก่จำเลย ดังนี้ เป็นฟ้องแย้งที่มีเงื่อนไขพิจารณารวมไปกับฟ้องเดิมไม่ได้ จึงไม่ชอบที่จะรับฟ้องแย้งเช่นนี้ไว้พิจารณา (อ้างฎีกาที่ 956/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งมีเงื่อนไข ไม่เกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม จึงไม่รวมพิจารณา
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกพิพาท จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ให้จำเลยเช่าต่ออีก 3 ปี โจทก์ฟ้องขับไล่มิได้ และฟ้องแย้งว่าถ้าจำเลยต้องออกจากตึกเช่า ก็ให้โจทก์คืนเงินกินเปล่าและใช้ค่าขนย้ายกับเงินกินเปล่าที่จะไปอยู่ใหม่ ดังนี้ ถือว่าฟ้องแย้งของจำเลยมีเงื่อนไข คือ ขอให้บับคับตามฟ้องแย้งต่อเมื่อจำเลยถูกศาลพิพากษาขับไล่ จึงไม่ถือว่าเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมพิจารณา และชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรค 3 และมาตรา 179 วรรคสุดท้าย.
(อ้างฎีกาที่ 956/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งมีเงื่อนไขไม่เกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม จึงรวมพิจารณาไม่ได้
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกพิพาท จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ให้จำเลยเช่าต่ออีก 3 ปี โจทก์ฟ้องขับไล่มิได้และฟ้องแย้งว่าถ้าจำเลยต้องออกจากตึกเช่า ก็ให้โจทก์คืนเงินกินเปล่าและใช้ค่าขนย้ายกับเงินกินเปล่าที่จะไปอยู่ใหม่ดังนี้ ถือว่าฟ้องแย้งของจำเลยมีเงื่อนไข คือขอให้บังคับตามฟ้องแย้งต่อเมื่อจำเลยถูกศาลพิพากษาขับไล่จึงไม่ถือว่าเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสาม และมาตรา 179 วรรคสุดท้าย(อ้างฎีกาที่ 956/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271-1272/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักกลบลบหนี้ที่ถึงกำหนดชำระพร้อมกัน และการรับฟ้องแย้งที่เกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลย จำเลยรับว่าได้กู้จริง แต่ต่อสู้ว่าโจทก์ยังเป็นหนี้จำเลย ค่าจ้างว่าความและค่าอาหาร ขอหักกลบลบหนี้ และฟ้องแย้งขอให้ชำระเงินค่าจ้างว่าความ ค่าเดินทางและค่าอาหารนั้น ดังนี้ ฟ้องแย้งของจำเลยเกี่ยวกับฟ้องเดิม ต้องรับไว้พิจารณา (อ้างฎีกา ที่ 460/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1459/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งต้องไม่เกี่ยวพันกับฟ้องเดิม ศาลสั่งแยกเป็นคดีต่างหากตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินและตึกแถวซึ่งใช้เป็นที่ประกอบการค้าโดยอ้างว่าบอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว จำเลยให้การว่าสัญญาเช่ายังไม่ครบกำหนดขับไล่จำเลยไม่ได้พร้อมทั้งฟ้องแย้งว่าเมื่อจำเลยถูกขับไล่แล้ว โจทก์จะต้องชดใช้เงินค่าปลูกสร้างโกดังสินค้าและโรงรถด้วยนั้น เห็นได้ว่าฟ้องแย้งนั้นเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังกล่าวคือถ้าจำเลยชนะคดีตามคำให้การ ฟ้องแย้งของจำเลยก็ตกไปเพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะชดใช้ จึงเป็นเรื่องที่จะเรียกร้องอีกเรื่องหนึ่งต่างหากในภายหลังเมื่อปรากฏผลในคดีนี้แล้ว จึงพิจารณาฟ้องแย้งของจำเลยไปพร้อมกันกับข้อต่อสู้ในคำให้การไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาฟ้องแย้ง: ศาลต้องรับไว้พิจารณาก่อน หากเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าจำเลยจะชนะหรือไม่
ศาลต้องพิจารณาฟ้องแย้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 วรรคสาม-วรรคสี่ คือ เป็นแต่เพียงตรวจคำคู่ความว่าจะรับฟ้องแย้งหรือไม่ ถ้าเห็นว่าเกี่ยวกับฟ้องเดิมก็ต้องรับไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป เมื่อศาลชั้นต้นด่วนวินิจฉัยยกฟ้องแย้งเสีย และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ศาลฎีกาจึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และสั่งให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องแย้งไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามกระบวนความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งเกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม: เงินผ่อนชำระค่าออกแบบ หรือ เงินยืมทดรอง?
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ออกแบบสร้างคานเรือ 150,000 บาท จำเลยผ่อนชำระ 50,000 บาท ที่เหลือไม่ชำระ จำเลยให้การต่อสู้และว่าเงิน 50,000 บาท เป็นเงินที่ให้โจทก์ยืมทดรองไปใช้ จึงฟ้องแย้งเรียกคืน นั้น ฟ้องแย้งนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับฟ้องเดิมของโจทก์โดยตรง ศาลจำต้องพิจารณาประเด็นข้อนี้ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งเกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม: สิทธิเรียกร้องเงินยืมทดรองเมื่อผลงานไม่ได้รับการอนุมัติ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ออกแบบสร้างคานเรือ150,000 บาท จำเลยผ่อนชำระ 50,000 บาท ที่เหลือไม่ชำระ จึงขอให้ศาลบังคับ จำเลยให้การว่าไม่ได้ว่าจ้างโจทก์ดังกล่าว แต่จำเลยใช้ให้โจทก์ออกแบบสร้างคานเรือในฐานะที่โจทก์เป็นลูกจ้างส่วนตัวของจำเลย ถ้าการท่าเรือกรุงเทพฯ ตกลงรับแบบการสร้างคานเรือของโจทก์จำเลยจะให้บำเหน็จรางวัลเป็นเงินโบนัสสิ้นปีแก่โจทก์ตามสมควร ส่วนเงิน 50,000 บาท นั้น จำเลยได้ให้แก่โจทก์ไปจริง คือให้โจทก์ยืมทดรองไปใช้ก่อน ถ้าการท่าเรือกรุงเทพฯ ไม่ได้ใช้แบบสร้างคานเรือของโจทก์ โจทก์จะต้องคืนให้จำเลย บัดนี้ การท่าเรือกรุงเทพฯไม่ได้ใช้แบบสร้างคานเรือของโจทก์ จำเลยจึงฟ้องแย้งเรียกเงิน 50,000 บาทคืนจากโจทก์ ดังนี้คำฟ้องแย้งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับฟ้องเดิมโดยตรง ศาลต้องรับคำฟ้องแย้งไว้ดำเนินการต่อไปตามกระบวนพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1176/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งต้องเป็นเรื่องเดียวกันกับฟ้องเดิม หากเป็นคนละเรื่อง ศาลสั่งให้แยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อสินค้าต่างๆ จำพวกน้ำมัน เครื่องอาหลั่ยตู้เย็นและเครื่องโทรศัพท์ไปจากโจทก์แล้วได้ชำระราคาให้โจทก์บ้าง และขอผัดผ่อนจำนวนที่ค้างเรื่อยมา ขอให้บังคับให้จำเลยใช้หนี้ที่ค้าง จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ในระยะเวลาตามฟ้องนั้นจำเลยไม่ได้ซื้อสินค้าจากโจทก์ เว้นแต่ได้ชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์บรรทุกให้โจทก์ คือ จำเลยทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์คันนั้นไปจากโจทก์ ได้ชำระเงินมัดจำและค่าเช่าซื้อบางงวดแล้ว ต่อมาโจทก์ผิดสัญญา จำเลยจึงบอกเลิกสัญญาโจทก์เอารถคืนไป แต่ไม่คืนเงินให้จำเลย ขอให้บังคับให้โจทก์คืนเงินมัดจำและค่าเช่าซื้อรถยนต์นั้น กับใข้ค่าเสียหาย เรื่องที่จำเลยฟ้องแย้งนี้ กรณีเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก นอกเรื่องที่โจทก์ฟ้องจำเลย ไม่เกี่ยวกับฟ้องของโจทก์จำเลยฟ้องแย้งไม่ได้
of 17