คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยานพาหนะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 202 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3125/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบรถยนต์ในความผิดพ.ร.บ.การค้าข้าว: รถยนต์ไม่ใช่เครื่องมือในการกระทำผิดโดยตรง
พระราชบัญญัติการค้าข้าว ฯ มาตรา 21 ทวิ ได้บัญญัติให้ริบเฉพาะข้าวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดกับสิ่งของที่บรรจุเท่านั้น รถยนต์เป็นเพียงยานพาหนะที่ใช้ขนย้ายข้าวไม่ใช่เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในการกระทำผิดโดยตรงอันจะพึงริบได้ตามพระราชบัญญัตินี้ และจะนำประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33 มาใช้บังคับหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2659/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดผู้ครอบครองยานพาหนะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437 ผู้ครอบครองคือผู้ใช้ยานพาหนะขณะเกิดเหตุ
ผู้ครอบครองตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา437 หมายถึงผู้ที่ใช้ยานพาหนะนั้นในฐานะเป็นผู้ยึดถือในขณะเกิดความเสียหายหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งหมายถึงผู้ที่ได้ครอบครองยานพาหนะนั้นอยู่ในขณะเกิดเหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3081/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ตรวจสอบสภาพยานพาหนะ & เหตุสุดวิสัย
ผู้ที่นำยานพาหนะอันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกลมาใช้ในทางมีหน้าที่ต้องตรวจสอบรักษาเปลี่ยนแก้ให้เครื่องจักรกลอยู่ในสภาพที่มั่นคงแข็งแรงใช้การได้โดยปลอดภัยเสมอ จำเลยไม่มีพยานแสดงว่าเหตุที่เรียกว่าเบรคแตกไม่มีใครจะอาจป้องกันได้ แม้จะได้จัดการระมัดระวังตามสมควรแล้ว จึงอ้างเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1681/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตทางการที่จ้าง: การใช้ยานพาหนะของนายจ้างนอกเวลาทำงานปกติ
จำเลยที่ 1 มีหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์ของนายจ้างไปส่งของตามที่มีผู้สั่ง และได้รับอนุญาตให้ใช้รถจักรยานยนต์ดังกล่าวขับกลับบ้านด้วย วันเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านในเวลาเลิกงานตามปกติ แต่ได้แวะไปดื่มเหล้ากับเพื่อน หลังจากดื่มเหล้าเสร็จแล้วขับรถกลับบ้านจึงเกิดเหตุ แม้ขณะเกิดเหตุจะเป็นเวลาประมาณ 20 นาฬิกา ซึ่งเป็นการนอกเวลาทำงานปกติ แต่จำเลยที่ 1 ได้รับอนุญาตจากนายจ้างให้ขับรถจักรยานยนต์ไปเก็บที่บ้าน การที่จำเลยที่ 1 ขับรถกลับบ้านถึงเป็นไปตามคำสั่งอนุญาตของนายจ้าง ทั้งนี้เพื่อจะนำรถดังกล่าวขับกลับมาทำงานให้นายจ้างตามปกติในวันรุ่งขึ้น จึงต้องถือว่า อยู่ในกรอบแห่งทางการที่จ้างของนายจ้าง ่ความหมายของทางการที่จ้างนั้นมิได้จำกัดอยู่ในเฉพาะในเวลาทำงานของนายจ้างเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 837/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์และการพาทรัพย์นั้นหลบหนี
จำเลยนำรถยนต์บรรทุกข้าวสารไปจอดรอสมทบกับรถกระบะของพวกจำเลย แล้วนำรถยนต์บรรทุกข้าวสารที่พวกของตนปล้นมาได้หลบหนีไปถือได้ว่าปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2663/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้สนับสนุนการปล้นทรัพย์: การช่วยเหลือและใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด
จำเลยที่ 1 ขับรถแล่นขึ้นล่องไปมาในท้องที่เกิดเหตุก่อนเกิดเหตุและขับรถตามหลังแล้วแซงขึ้นหน้ารถโดยสารคันที่ถูกปล้น เพื่อคอยช่วยเหลือจำเลยอื่นขณะทำการปล้นอยู่ในรถ ทั้งเพื่อคอยรับพาหลบหนีหลังจากการปล้นทรัพย์เสร็จสิ้นแล้ว จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด มิใช่เป็นตัวการร่วมปล้นทรัพย์ด้วยโดยการแบ่งหน้าที่กันทำ เพราะมิได้มาในรถโดยสารและร่วมปล้นด้วย
เมื่อจำเลยอื่นร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ ก็ต้องถือว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้สนับสนุนในการปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธด้วย
จำเลยที่ 1 ได้ใช้รถคอยช่วยเหลือพวกที่กำลังปล้นรถยนต์ของกลางจึงเป็นทรัพย์ที่จำเลยที่ 1 กับพวกใช้ในการกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์ศาลมีอำนาจสั่งริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะที่ปล้นมา ไม่ถือว่าเป็นการใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี
ขณะจำเลยมาทำการปล้นทรัพย์ จำเลยไม่มียานพาหนะ เมื่อจำเลยปล้นเงินและรถยนต์สามล้อของผู้เสียหายได้แล้ว จำเลยก็ขับรถยนต์คันที่ปล้นได้หลบหนีไป ดังนี้ เป็นการเอาทรัพย์ที่ปล้นได้หลบหนีไปตามสภาพของทรัพย์นั้นเอง ถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการปล้นโดยใช้ยานพาหนะเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมอันเป็นเหตุให้โทษหนักขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปล้นทรัพย์ด้วยยานพาหนะที่ปล้นมา ไม่ถือเป็นเหตุให้โทษหนักขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี
ขณะจำเลยมาทำการปล้นทรัพย์จำเลยไม่มียานพาหนะมาเมื่อจำเลยปล้นเงินและรถยนต์สามล้อของผู้เสียหายได้แล้วจำเลยก็ขับรถยนต์คันที่ปล้นได้หลบหนีไป ดังนี้ เป็นการเอาทรัพย์ที่ปล้นได้หลบหนีไปตามสภาพของทรัพย์นั้นเอง ถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการปล้นโดยใช้ยานพาหนะเพื่อพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมอันเป็นเหตุให้โทษหนักขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1712/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาเอาทรัพย์ไป ถือเป็นเหตุฉกรรจ์ตามกฎหมาย
จำเลยขับรถยนต์บรรทุกคนโดยสารขนาดเล็กไปจอดท้ายรถจี๊ปของผู้เสียหาย เห็นมีถังน้ำมันอยู่ท้ายรถ จำเลยกับพวกจึงร่วมกันลักถังน้ำมันจากท้ายรถจี๊ปดังกล่าวนำมาไว้ที่รถจำเลย ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาเอาทรัพย์ไป ต้องด้วยเหตุฉกรรจ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 ทวิ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2521)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1712/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาเอาทรัพย์ไปเข้าข่ายเหตุฉกรรจ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 ทวิ
จำเลยขับรถยนต์บรรทุกคนโดยสารขนาดเล็กไปจอดท้ายรถจี๊ปของผู้เสียหายเห็นมีถังน้ำมันอยู่ท้ายรถ จำเลยกับพวกจึงร่วมกันลักถังน้ำมันจากท้ายรถจี๊ปดังกล่าวนำมาไว้ที่รถจำเลย ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาเอาทรัพย์ไป ต้องด้วยเหตุฉกรรจ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 ทวิ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2521)
of 21