คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยิง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 192 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1069/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย: การยิงเพื่อป้องกันการฉุดคร่าและการทำร้ายร่างกาย
ผู้ตายเป็นคนหนุ่มอันธพาล มารุกรานฉุดคร่าบุตรสาวจำเลยถึงในบ้าน และยังจะใช้มีดฟันจำเลยอีก จำเลยจึงยิงเอา เพราะถ้าจะรอให้ผู้ตายเข้าทำร้ายถึงตัวเสียก่อนจำเลยก็คงไม่มีทางสู้ นั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 997/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการยิงพลาดเป้า แม้กระสุนไม่ถูกลำตัว แต่ถือเป็นพยายามฆ่า
ทีแรกผู้เสียหายเอาแขนท้าวประตูรถจำเลย เห็นจำเลยเอื้อมมือหยิบวัตถุสีดำเข้าใจว่าปืน จึงเอี้ยวตัวหลบพอดีจำเลยยิงถูกใต้ศอกซ้ายทะลุ การที่จำเลยยิงผู้เสียหายขณะเอี้ยวตัวหลบ เห็นได้ว่าหมายยิงลำตัวซึ่งอยู่ในอาการเคลื่อนไหว ไม่ใช่หมายยิงแขนโดยเฉพาะปืนเป็นอาวุธร้ายแรง การยิงสาดตรงไปที่ตัว ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าอาจถึงตาย เป็นกรณีเจตนาฆ่า เมื่อกระสุนปืนพลาดที่หมายไปถูกศอก จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 600/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการยิงด้วยอาวุธร้ายแรง แม้มิได้ทำร้ายซ้ำเติม
การที่จำเลยใช้ปืนซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงยิงผู้เสียหาย แม้ยิงเพียงทีเดียวแล้วหนีไป แต่ยิงบริเวณลำตัวซึ่งเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย ถ้าถูกที่สำคัญในบริเวณนั้น ผู้เสียหายก็ต้องตาย เป็นการเพียงพอที่จะเห็นได้แล้วว่า จำเลยมีเจตนาจะฆ่า การที่จำเลยไม่ทำร้ายซ้ำเติมอีก อาจเป็นเพราะจำเลยหมดกระสุนปืน หรือเพราะต้องการหนีโดยรีบด่วนก็ได้ เพียงเท่านี้ไม่เป็นเหตุที่จะชี้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาที่จะฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการใช้ปืน ยิงถูกจุดสำคัญ แม้เชื่อเรื่องอยู่ยงคงกะพันก็ถือว่ามีเจตนา
จำเลยใช้ปืนจ่อยิงผู้ตายที่สบักอันเป็นที่สำคัญโดยเชื่อว่าเป็นคนอยู่ยงคงกะพัน ถือว่า จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงผู้ต้องสงสัยลักทรัพย์ ไม่เข้าข่ายป้องกันสิทธิโดยชอบธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68
ตอนกลางคืนก่อนเกิดเหตุ ยางแผ่น 4 - 5 แผ่น ของจำเลยหายไป แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนร้าย จำเลยจึงไปแจ้งความต่อผู้ใหญ่บ้านไว้
รุ่งเช้าจำเลยพบยางซ่อนอยู่ในป่าและดักซุ่มรอคอยอยู่ห่างกองยาง 10 วา นาน 3 - 4 ชั่วโมง ผู้ตายก็มาเอายางออกจากที่ซ่อนเดินไปได้ 3 - 4 วา จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย
ดังนี้ถือว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิของตน ให้พ้นจากอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้าย อันละเมิดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 จำเลยจึงมีผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 16/2502

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันสิทธิในทรัพย์สิน: การดักซุ่มรอและยิงขโมยยาง ไม่ถือเป็นการป้องกันโดยชอบธรรม
ตอนกลางคืนก่อนเกิดเหตุ ยางแผ่น 4-5 แผ่น ของจำเลยหายไป แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนร้าย จำเลยจึงไปแจ้งความต่อผู้ใหญ่บ้านไว้ รุ่งเช้าจำเลยพบยางซ่อนอยู่ในป่าและดักซุ่มรอคอยอยู่ห่างกองยาง 10 วา นาน 3-4 ชั่วโมงผู้ตายก็มาเอายางออกจากที่ซ่อนเดินไปได้ 3-4 วา จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ถือว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิของตนให้พ้นจากอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อประมวลกฎหมายอาญามาตรา 68 จำเลยจึงมีผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการทำร้ายร่างกาย: การยิงที่ขาไม่ถือเจตนาฆ่า ศาลลดโทษจากพยายามฆ่าเป็นทำร้ายร่างกาย
ยิงในระยะ 1 วา ถูกขาเหนือตาตุ่มกระดูกแตก ถ้าตั้งใจฆ่าก็คงยิงถูกที่สำคัญได้ แสดงว่าจำเลยไม่เจตนาฆ่า เป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่พยายามฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1945/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากความหึงหวง การยิงในระยะใกล้ถือเป็นหลักฐานสำคัญ
จำเลยกับผู้เสียหายต่างรักใคร่กับหญิงคนรักคน ๆ เดียวกัน คนรักถูกผู้ปกครองต่อว่าเสียใจวิ่งขึ้นบนห้อง จำเลยตามขึ้นไปผู้เสียตามขึ้นไปภายหลัง ถามจำเลยว่ามึงมาใหญ่โตที่นี่หรือ จำเลยยกมือไหว้ว่ามีอะไรสั่งสอนผม ๆ นับถือพี่พงษ์ (ผู้เสียหาย) แล้วจำเลยกับผู้เสียหายใช้มือผลักกันไปมาคนรักหนีเข้าห้อง จำเลยวิ่งหนีไปอีกห้องติด ๆ กัน ผู้เสียหายตามเข้าไปกอดคนรักและพูดว่า "พี่อยู่ทั้งคนไม่ต้องกลัว" ทันใดจำเลยอยู่หน้าประตูห้องคนรักก็ยิงผู้เสียหาย ดังนี้การกระทำของผู้เสียหายหาใช่เป็นการข่มเหงไม่และไม่ใช่เป็นการชวนวิวาทเพราะ เมื่อจำเลยหนีเข้าไปในห้องอีกห้องหนึ่ง ผู้เสียหายไม่ได้ติดตามเข้าไปหรือพูดอะไรกับจำเลยอีก ผู้เสียหายพูดว่าจำเลยในฐานเป็นผู้ใหญ่กว่า การผลักกันไปมานั้นก็ไม่หมายความว่าผู้เสียหายผลักจำเลยเป็นการชวนทำร้าย
อาวุธปืนเป็นของร้ายแรง แผลที่จำเลยยิงก็อยู่ใกล้อวัยวะส่วนสำคัญของร่างกาย จำเลยยิงในระยะใกล้ ๆ 1 วาเศษ อย่างน้อย 2 นัด และยิงเพราะความหึงหวงที่ผู้เสียหายกอดหญิงที่ตนรักใคร่ จึงส่อให้เห็นว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าตาม ม.249 ไม่ใช่ 256.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1945/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการยิงใกล้ชิดและความหึงหวง ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการกระทำแสดงเจตนาฆ่า
จำเลยกับผู้เสียหายต่างรักใคร่กับหญิงคนรักคนๆ เดียวกันคนรักถูกผู้ปกครองต่อว่าเสียใจวิ่งขึ้นบนห้อง จำเลยตามขึ้นไป ผู้เสียหายตามขึ้นไปภายหลัง ถามจำเลยว่ามึงมาใหญ่โตที่นี่หรือ จำเลยยกมือไหว้ว่ามีอะไรสั่งสอนผมผมนับถือพี่พงษ์(ผู้เสียหาย)แล้วจำเลยกับผู้เสียหายใช้มือผลักกันไปมา คนรักหนีเข้าห้อง จำเลยวิ่งหนีไปอีกห้องติดๆกัน ผู้เสียหายตามเข้าไปกอดคนรักและพูดว่า"พี่อยู่ทั้งคนไม่ต้องกลัว" ทันใดจำเลยอยู่หน้าประตูห้องคนรักก็ยิงผู้เสียหาย ดังนี้การกระทำของผู้เสียหายหาใช่เป็นการข่มเหงไม่ และไม่ใช่เป็นการชวนวิวาทเพราะเมื่อจำเลยหนีเข้าไปในห้องอีกห้องหนึ่ง ผู้เสียหายไม่ได้ติดตามเข้าไปหรือพูดอะไรกับจำเลยอีก ผู้เสียหายพูดว่าจำเลยในฐานเป็นผู้ใหญ่กว่า การผลักกันไปมานั้นก็ไม่หมายความว่าผู้เสียหายผลักจำเลยเป็นการชวนทำร้าย
อาวุธปืนเป็นของร้ายแรง แผลที่จำเลยยิงก็อยู่ใกล้อวัยวะส่วนสำคัญของร่างกาย จำเลยยิงในระยะใกล้ๆ 1 วาเศษ อย่างน้อย 2 นัด และยิงเพราะความหึงหวงที่ผู้เสียหายกอดหญิงที่ตนรักใคร่ จึงส่อให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าตาม มาตรา 249 ไม่ใช่ 256

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1063/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนายิงด้วยอาวุธปืนร้ายแรงบ่งชี้เจตนาฆ่า แม้รับสารภาพภายหลัง
การใช้อาวุธปืนยิงคนนั้นตามธรรมดาก็เห็นได้ว่าผู้ยิงมีเจตนาจะฆ่าเพราะอาวุธปืนเป็นอาวุธที่ร้ายแรงสามารถฆ่ากันได้ ยิ่งจำเลยได้รับสารภาพว่าทำผิดตามฟ้องเมื่อได้ฟังคำประจักษ์พยานโจทก์หมดแล้วยิ่งเห็นได้ชัดว่าจำเลยยิงโดยเจตนา
of 20