พบผลลัพธ์ทั้งหมด 301 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1207/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมัครใจวิวาททำร้ายร่างกาย: เหตุป้องกันตัวใช้ไม่ได้ ศาลวางโทษเบาได้ ความผิดฐานประทุษร้ายทางร่างกาย
ในกรณีเรื่องสมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายกันนั้น จำเลยจะอ้างเหตุป้องกันตัวขึ้นต่อสู้ให้พ้นผิดหาได้ไม่ แต่ศาลอาจใช้ดุลพินิจวางโทษจำเลยในสถานเบาได้
ในการวิวาทต่อสู้กันอาวุธมีดที่จำเลยใช้แทงผู้เสียหายยาวทั้งด้ามทั้งตัวเพียง 1 คืบเศษ และบาดแผลซึ่งผู้เสียหายถูกแทงที่สำคัญอาจถึงตายได้คงมีแผลเดียวดังนี้ จำเลยย่อมมีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 256(8) เท่านั้นหาใช่ผิดตาม มาตรา 249-60 ไม่
ในการวิวาทต่อสู้กันอาวุธมีดที่จำเลยใช้แทงผู้เสียหายยาวทั้งด้ามทั้งตัวเพียง 1 คืบเศษ และบาดแผลซึ่งผู้เสียหายถูกแทงที่สำคัญอาจถึงตายได้คงมีแผลเดียวดังนี้ จำเลยย่อมมีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 256(8) เท่านั้นหาใช่ผิดตาม มาตรา 249-60 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้ทำร้ายติดพันในวิวาทและเจตนาฆ่า: ศาลลดโทษจากฆ่าคนตายโดยเจตนาเป็นฆ่าคนโดยไม่เจตนา
การที่ผู้ตายกับจำเลยต่างฟันกันคนละทีแล้วจำเลยแทงซ้ำอีก 3 ทีในขณะที่ต่อสู้กันนั้นเป็นเรื่องต่อสู้ทำร้ายติดพันกันในการวิวาท ประกอบกับผู้ตายและจำเลยเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ไม่มีสาเหตุอันใดต่อกันเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้ตาย จำเลยหามีผิดตาม ม.249 ไม่ แต่มีผิดเพียง ม. 251
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้ทำร้ายติดพันในวิวาทและการพิจารณาเจตนาฆ่า
การที่ผู้ตายกับจำเลยต่างฟันกันคนละทีแล้วจำเลยแทงซ้ำอีก 3 ทีในขณะที่ต่อสู้กันนั้นเป็นเรื่องต่อสู้ทำร้ายติดพันกันในการวิวาท ประกอบกับผู้ตายและจำเลยเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ไม่มีสาเหตุอันใดต่อกัน เช่นนี้แสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้ตาย จำเลยหามีผิดตามมาตรา 249 ไม่ แต่มีผิดเพียง มาตรา 251
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้วิวาทและการพิจารณาเจตนาในการทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย
การที่ผู้ตายกับจำเลยต่างฟันกันคนละทีแล้วจำเลยแทงซ้ำอีก 3 ทีในขณะที่ต่อสู้กันนั้นเป็นเรื่องต่อสู้ทำร้ายติดพันกันในการวิวาท ประกอบกับผู้ตายและจำเลยเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ไม่มีสาเหตุอันใดต่อกัน เช่นนี้แสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้ตาย จำเลยหามีผิดตามมาตรา 249 ไม่ แต่มีผิดเพียง มาตรา 251
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวิวาทชกต่อยและการยิงตอบโต้: การสมัครเข้าวิวาททำให้ไม่อ้างยั่วโทสะได้
ผู้ตายกับจำเลยวิวาทชกต่อยกัน แล้วผู้ตตายเอาไม้ตีจำเลย ต่อมาจำเลยจึงเอาปืนไปยิงผู้ตายตายดังนี้ เป็นกรณีเกิดจากการสมัครเข้าวิวาทกัน ในมูลเดิมแล้ว ฝ่ายใดจะอ้างว่าถูกยั่วโทษะ ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาทชกต่อยและการยิงตอบโต้: การสมัครเข้าวิวาทตัดสิทธิการอ้างยั่วโทสะ
ผู้ตายกับจำเลยวิวาทชกต่อยกัน แล้วผู้ตายเอาไม้ตีจำเลยต่อมาจำเลยจึงเอาปืนไปยิงผู้ตายตายดังนี้เป็นกรณีเกิดจากการสมัครเข้าวิวาทกัน ในมูลเดิมแล้วฝ่ายใดจะอ้างว่าถูกยั่วโทสะ ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องวิวาททำให้ตายโดยไม่ระบุตัวผู้กระทำผิด และข้อเท็จจริงต่างจากที่ฟ้อง
โจทย์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานวิวาททำให้ตายในที่วิวาทโดยไม่ระบุว่าใครทำใคร ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 253 แต่เมื่อทางพิจารณาปรากฎว่าไม่ใช่เรื่องวิวาทกัน แต่เป็นเรื่องที่ผู้ตายออกมาห้ามแต่โดยดี กลับถูกจำเลยผู้มีชื่อคนหนึ่ง แทงเอาถึงตาย ดังนี้ เป็นเรื่องข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง จะลงโทษจำเลยไม่ได้ ต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1828-1829/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจโจทก์ฟ้องอาญา, การวิวาทต่อเนื่อง, การลดโทษฐานยั่วโทสะ, และการยกฟ้อง
ทำร้ายกันในขณะทำการวิวาทยังไม่ขาดตอน ต้องถือว่าเป็นการกระทำต่อเนื่องกัน กรณีย์วิวาทกัน ผู้ที่วิวาทกันไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงเป็นโจทก์ฟ้องไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.244,60, ให้จำคุก 10 ปี ลดตามมาตรา 59 เสีย 1 ใน 3 คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยทำผิดโดยถูกยั่วโทษะ จึงแก้ให้ลดโทษตามม.55 กึ่งหนึ่ง เช่นนี้เป็นการแก้มาก คู่ความย่อมฎีกา เช่นนี้เป็นการแก้มาก คู่ความย่อมฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คดีที่ศาลพิจารณารวมกัน มีอุทธรณ์ขึ้นมาฉะเพาะคดีเดี่ยว คู่ความในคดีที่ไม่ได้อุทธรณ์จะมาฎีกาในชั้นฎีกาไม่ได้ เพราะคดีนั้นถึ่งที่สุดแล้ว
คดีที่มีการพิจารณารวมกัน ศาลลงโทษบทหนักตามฟ้องคดีหนึ่งมีอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาฉะเพาะคดีทีศาลลงโทษบทหนักนี้ คดีที่ไม่มีอุทธรณ์ฎีกาก็เป็นอันยุติ เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่มีความผิดในคดีที่ฎีกาขึ้นมา ศาลก็พิพากษายกฟ้อง ปล่อยจำเลยไป
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.244,60, ให้จำคุก 10 ปี ลดตามมาตรา 59 เสีย 1 ใน 3 คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยทำผิดโดยถูกยั่วโทษะ จึงแก้ให้ลดโทษตามม.55 กึ่งหนึ่ง เช่นนี้เป็นการแก้มาก คู่ความย่อมฎีกา เช่นนี้เป็นการแก้มาก คู่ความย่อมฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คดีที่ศาลพิจารณารวมกัน มีอุทธรณ์ขึ้นมาฉะเพาะคดีเดี่ยว คู่ความในคดีที่ไม่ได้อุทธรณ์จะมาฎีกาในชั้นฎีกาไม่ได้ เพราะคดีนั้นถึ่งที่สุดแล้ว
คดีที่มีการพิจารณารวมกัน ศาลลงโทษบทหนักตามฟ้องคดีหนึ่งมีอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาฉะเพาะคดีทีศาลลงโทษบทหนักนี้ คดีที่ไม่มีอุทธรณ์ฎีกาก็เป็นอันยุติ เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่มีความผิดในคดีที่ฎีกาขึ้นมา ศาลก็พิพากษายกฟ้อง ปล่อยจำเลยไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1828-1829/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวิวาทต่อเนื่องและการมีอำนาจฟ้องของโจทก์ที่ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง
ทำร้ายกันในขณะทำการวิวาทยังไม่ขาดตอน ต้องถือว่าเป็นการกระทำต่อเนื่องกัน กรณีวิวาทกันผู้ที่วิวาทกันไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงเป็นโจทก์ฟ้องไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249,60 ให้จำคุก 10 ปี ลดตามมาตรา 59 เสีย 1 ใน3 คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยทำผิดโดยถูกยั่วโทสะ จึงแก้ให้ลดโทษตามมาตรา 55 กึ่งหนึ่ง เช่นนี้เป็นการแก้มาก คู่ความย่อมฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คดีที่ศาลพิจารณารวมกัน มีอุทธรณ์ขึ้นมาเฉพาะคดีเดียวคู่ความในคดีที่ไม่ได้อุทธรณ์ จะมาฎีกาในชั้นฎีกาไม่ได้ เพราะคดีนั้นถึงที่สุดแล้ว
คดีที่มีการพิจารณารวมกันศาลลงโทษบทหนักตามฟ้องคดีหนึ่งมีอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาเฉพาะคดีที่ศาลลงโทษบทหนักนี้คดีที่ไม่มีอุทธรณ์ฎีกาก็เป็นอันยุติ เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่มีความผิดในคดีที่ฎีกาขึ้นมา ศาลก็พิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยไป
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249,60 ให้จำคุก 10 ปี ลดตามมาตรา 59 เสีย 1 ใน3 คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยทำผิดโดยถูกยั่วโทสะ จึงแก้ให้ลดโทษตามมาตรา 55 กึ่งหนึ่ง เช่นนี้เป็นการแก้มาก คู่ความย่อมฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คดีที่ศาลพิจารณารวมกัน มีอุทธรณ์ขึ้นมาเฉพาะคดีเดียวคู่ความในคดีที่ไม่ได้อุทธรณ์ จะมาฎีกาในชั้นฎีกาไม่ได้ เพราะคดีนั้นถึงที่สุดแล้ว
คดีที่มีการพิจารณารวมกันศาลลงโทษบทหนักตามฟ้องคดีหนึ่งมีอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาเฉพาะคดีที่ศาลลงโทษบทหนักนี้คดีที่ไม่มีอุทธรณ์ฎีกาก็เป็นอันยุติ เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่มีความผิดในคดีที่ฎีกาขึ้นมา ศาลก็พิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1791/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกาย: ความผิดฐานสมคบกันทำร้ายร่างกายโดยไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้เริ่ม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสองฝ่ายแต่ละฝ่ายได้สมคบกันทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่ง จำเลยทุกคนรับตามฟ้อง ข้อเท็จจริงต้องฟังว่าจำเลยทุกคนเข้าวิวาทต่อสู้กันไม่ปรากฎว่า ใครทำใครความผิดจำเลยจึงต้องด้วยกฎหมายอาญา ม.258