พบผลลัพธ์ทั้งหมด 254 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างในที่ดินเช่าเมื่อถูกเวนคืน: สัญญาต่างตอบแทนยังคงผูกพัน แม้มีข้อตกลงสละสิทธิค่าเสียหาย
สัญญาแบ่งเช่าที่ดินระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทยกับโจทก์ผู้เช่าข้อ 8 ระบุว่า "เมื่อครบสัญญาเช่าบรรดาวัสดุและสิ่งปลูกสร้างตลอดจนทรัพย์สินที่ติดอยู่กับที่ดินตกเป็นของผู้ให้เช่า" มีความหมายอยู่ในตัวว่าตลอดระยะเวลาที่การเช่ายังมีอยู่ กรรมสิทธิ์ในบรรดาวัสดุและสิ่งปลูกสร้างฯ ยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ แม้จะมีสัญญาข้อ 14 ว่า โดยผู้เช่าไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายแต่ประการใดก็หามีผลลบล้างข้อตกลงตามสัญญาแบ่งเช่าที่ดินไม่ และสัญญาข้อ 14 นี้ เป็นข้อตกลงระหว่างโจทก์กับการท่าเรือแห่งประเทศไทยจะผูกพันถึงจำเลยหรือไม่เพียงใดน่าจะต้องฟังพยานหลักฐานจากคู่ความเสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างเช่า: สัญญาเช่าต่างตอบแทนยังคงกรรมสิทธิ์ไว้จนกว่าจะครบกำหนดสัญญา แม้มีข้อตกลงสละสิทธิ์
สัญญาแบ่งเช่าที่ดินระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทยกับโจทก์ผู้เช่าข้อ 4 ระบุว่า 'เมื่อครบสัญญาเช่าบรรดาวัสดุและสิ่งปลูกสร้างตลอดจนทรัพย์สินที่ติดอยู่กับที่ดินตกเป็นของผู้ให้เช่า' มีความหมายอยู่ในตัวว่าตลอดระยะเวลาที่การเช่ายังมีอยู่ กรรมสิทธิ์ในบรรดาวัสดุและสิ่งปลูกสร้างฯยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ แม้จะมีสัญญาข้อ 14ว่า 'โดยผู้เช่าไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายแต่ประการใด' ก็หามีผลลบล้างข้อตกลงตามสัญญาแบ่งเช่าที่ดินไม่และสัญญาข้อ 14 นี้ เป็นข้อตกลงระหว่างโจทก์กับการท่าเรือแห่งประเทศไทยจะผูกพันถึงจำเลยหรือไม่เพียงใดน่าจะต้องฟังพยานหลักฐานจากคู่ความเสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 488/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทนหลังคู่สัญญาสิ้นชีวิต สิทธิและหน้าที่ตกทอดแก่ทายาทตามกฎหมาย
สัญญามีใจความว่า เจ้าของที่ดินให้จำเลยสร้างอาคารในที่ดินแล้วเรียกค่าก่อสร้างจากผู้เช่าอาคารอาคารที่สร้างขึ้นยอมให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้สร้าง สัญญานี้เป็นสัญญาต่างตอบแทนแม้ต่อมาผู้ให้สร้างจะตายตามกฎหมายหรือโดยสภาพก็ไม่ใช่เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้ สิทธิและหน้าที่ตามสัญญาย่อมตกทอดยังทายาท ทายาทต้องผูกพันตามสัญญานั้น ผู้จัดการมรดกถูกฟ้องตามสัญญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2895/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการจอดรถและติดตั้งเสาไฟฟ้าในที่ดินของผู้อื่น: สัญญาต่างตอบแทนและผลกระทบจากการสิ้นสุดสัญญา
โจทก์มีที่ดินและต้องการจะก่อสร้างศูนย์การค้า โรงแรมโรงภาพยนตร์และอาคารพาณิชย์ โจทก์กับผู้มีชื่อจึงทำสัญญาร่วมลงทุนกันให้ก่อตั้งบริษัทจำเลยขึ้นประกอบกิจการต่างๆดังกล่าวแล้ว สัญญาข้อ 4 กำหนดว่า โจทก์ต้องอนุญาตให้จำเลยใช้ถนนทั้งสองข้างของโรงแรมจำเลย และจะต้องสงวนไว้ให้แก่จำเลยซึ่งสิทธิจอดรถที่ขอบถนน ข้อ 5(8) ว่าจำเลยต้องชำระเงินครึ่งหนึ่งของค่าก่อสร้างถนนให้แก่โจทก์เป็นสัญญาเพื่อประโยชน์แก่บริษัทจำเลยที่จะตั้งขึ้นบริษัทจำเลยชอบที่จะถือเอาประโยชน์จากสัญญานั้นภายหลังได้ปรากฏว่าเมื่อบริษัทจำเลยตั้งขึ้นแล้วจำเลยได้ชำระค่าทำถนนให้โจทก์ครบถ้วนตามสัญญาแล้ว และมีพฤติการณ์ที่ถือว่าจำเลยได้ถือเอาประโยชน์จากสัญญาร่วมลงทุนแล้ว แม้ต่อมาสัญญาร่วมลงทุนจะสิ้นสุดหรือยกเลิกไป ก็หาทำให้สิทธิของจำเลยอันเกิดขึ้นแล้วระงับไปด้วยไม่
โจทก์มีหนังสือถึงจำเลยว่า จะให้สิทธิใช้ที่ดินสำหรับตั้งเสาไฟฟ้าแก่จำเลยเพียงแต่จำเลยเข้าติดตั้งเสาและสายไฟฟ้าตามที่โจทก์เสนอก็เป็นการสนองรับ มีผลให้สัญญาเกิดขึ้นแล้ว สัญญายินยอมให้ติดตั้งเสาและสายไฟฟ้าในที่ดินเพื่อประโยชน์ร่วมกันเช่นนี้แม้มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ก็บังคับกันได้ในระหว่างคู่สัญญา
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นพิพาทรวม 11 ประเด็น เป็นประเด็นไม่ต้องสืบพยาน 1 ประเด็น ตกภาระโจทก์นำสืบ 8 ประเด็นตกภาระจำเลยนำสืบ 2 ประเด็น ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์มีภาระการพิสูจน์มากกว่า ทั้งประเด็นที่เป็นภาระจำเลยพิสูจน์ถึงจะให้โจทก์นำสืบก่อนโจทก์ก็ไม่เสียเปรียบ จึงให้โจทก์นำสืบก่อนทุกประเด็น พยานหลักฐานในประเด็นที่โจทก์แย้ง เป็นเรื่องที่อยู่ในความรู้เห็นของโจทก์จำเลยร่วมกัน แม้โจทก์นำสืบก่อน จำเลยก็ถามค้านให้พยานโจทก์มีโอกาสอธิบายและนำสืบถึงข้อความเหล่านั้นโดยบริบูรณ์แล้วโจทก์หาเสียเปรียบไม่ ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจให้โจทก์นำสืบก่อนทุกประเด็นชอบแล้ว
โจทก์มีหนังสือถึงจำเลยว่า จะให้สิทธิใช้ที่ดินสำหรับตั้งเสาไฟฟ้าแก่จำเลยเพียงแต่จำเลยเข้าติดตั้งเสาและสายไฟฟ้าตามที่โจทก์เสนอก็เป็นการสนองรับ มีผลให้สัญญาเกิดขึ้นแล้ว สัญญายินยอมให้ติดตั้งเสาและสายไฟฟ้าในที่ดินเพื่อประโยชน์ร่วมกันเช่นนี้แม้มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ก็บังคับกันได้ในระหว่างคู่สัญญา
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นพิพาทรวม 11 ประเด็น เป็นประเด็นไม่ต้องสืบพยาน 1 ประเด็น ตกภาระโจทก์นำสืบ 8 ประเด็นตกภาระจำเลยนำสืบ 2 ประเด็น ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์มีภาระการพิสูจน์มากกว่า ทั้งประเด็นที่เป็นภาระจำเลยพิสูจน์ถึงจะให้โจทก์นำสืบก่อนโจทก์ก็ไม่เสียเปรียบ จึงให้โจทก์นำสืบก่อนทุกประเด็น พยานหลักฐานในประเด็นที่โจทก์แย้ง เป็นเรื่องที่อยู่ในความรู้เห็นของโจทก์จำเลยร่วมกัน แม้โจทก์นำสืบก่อน จำเลยก็ถามค้านให้พยานโจทก์มีโอกาสอธิบายและนำสืบถึงข้อความเหล่านั้นโดยบริบูรณ์แล้วโจทก์หาเสียเปรียบไม่ ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจให้โจทก์นำสืบก่อนทุกประเด็นชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1782/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ ศาลรับฟังพยานบุคคลได้
สัญญาเช่าตามฟ้องเป็นสัญญาต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่า สัญญาเช่าธรรมดา ซึ่งการฟ้องร้องบังคับคดีระหว่างโจทก์จำเลย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หาได้บัญญัติบังคับให้ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือทำสัญญาเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แต่อย่างใดไม่ จึงมิใช่เป็นกรณีที่มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง ไม่ต้องด้วยข้อห้ามที่มิให้ศาลยอมรับฟังพยานบุคคลตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1782/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ ศาลรับฟังพยานบุคคลได้
สัญญาเช่าตามฟ้องเป็นสัญญาต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา ซึ่งการฟ้องร้องบังคับคดีระหว่างโจทก์จำเลย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หาได้บัญญัติบังคับให้ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือทำสัญญาเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แต่อย่างใดไม่จึงมิใช่เป็นกรณีที่มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง ไม่ต้องด้วยข้อห้ามที่มิให้ศาลยอมรับฟังพยานบุคคลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่า, การบอกเลิกสัญญา, ฟ้องขับไล่, สัญญาต่างตอบแทน, คำสั่งศาลระหว่างพิจารณา
คำสั่งศาลที่ให้งดชี้สองสถานและงดสืบพยานโจทก์จำเลย เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ศาลมีคำสั่งเมื่อวันที่ 8 และพิพากษาเมื่อวันที่ 24 เดือนเดียวกัน แต่จำเลยก็มิได้โต้แย้งไว้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งดังกล่าว ทั้งปัญหานี้มิใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนอันศาลจะยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
บรรยายฟ้องว่า จำเลยเช่าตึกแถวของโจทก์ ค่าเช่าเดือนละ 200 บาทครบกำหนดอายุการเช่าตามกฎหมายแล้ว โจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยเช่าต่อไป ได้บอกกล่าวให้จำเลยออกจากตึกที่เช่า จำเลยได้รับแล้วแต่ไม่ออก ทำให้โจทก์เสียหาย จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลย ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ข้อความในสัญญาเช่าที่ว่า โจทก์ยินยอมอนุญาตให้จำเลยปลูกครัวในที่ดินของโจทก์ซึ่งอยู่นอกอาคารที่เช่าได้หนึ่งหลัง ถ้าโจทก์ต้องการที่ดินในส่วนนั้นเมื่อใดจำเลยจะรื้อถอนครัวออกทันที ถ้าจำเลยผิดสัญญาคือไม่รื้อไปโจทก์จะเลิกสัญญาเช่าทันที ดังนี้ หามีผลทำให้สัญญาเช่าเดิมกลายเป็นสัญญาต่างตอบแทนไม่
บรรยายฟ้องว่า จำเลยเช่าตึกแถวของโจทก์ ค่าเช่าเดือนละ 200 บาทครบกำหนดอายุการเช่าตามกฎหมายแล้ว โจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยเช่าต่อไป ได้บอกกล่าวให้จำเลยออกจากตึกที่เช่า จำเลยได้รับแล้วแต่ไม่ออก ทำให้โจทก์เสียหาย จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลย ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ข้อความในสัญญาเช่าที่ว่า โจทก์ยินยอมอนุญาตให้จำเลยปลูกครัวในที่ดินของโจทก์ซึ่งอยู่นอกอาคารที่เช่าได้หนึ่งหลัง ถ้าโจทก์ต้องการที่ดินในส่วนนั้นเมื่อใดจำเลยจะรื้อถอนครัวออกทันที ถ้าจำเลยผิดสัญญาคือไม่รื้อไปโจทก์จะเลิกสัญญาเช่าทันที ดังนี้ หามีผลทำให้สัญญาเช่าเดิมกลายเป็นสัญญาต่างตอบแทนไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจองเช่าที่ดินที่ไม่ผูกพันเจ้าของที่ดิน และการคืนเงินค่าก่อสร้างตามส่วนประโยชน์ที่ได้รับ
เจ้าของที่ดินมิได้มอบอำนาจให้ไปขออนุญาตสร้างตึกแถวจำเลยที่ 1 รับจ้างคนอื่น ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน สร้างขึ้น จำเลยที่ 1 เอาตึกแถวไปให้โจทก์เช่าไม่ได้สัญญาจองเช่าตึกแถวระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ไม่ผูกพันเจ้าของที่ดิน จำเลยที่ 1 ต้องคืนเงินช่วยค่าก่อสร้างแก่โจทก์ตามส่วนนอกจากที่โจทก์ได้เข้าอยู่ในตึกแถวมาแล้ว
เอกสารสัญญาที่ตกลงว่าโจทก์ชำระค่าช่วยก่อสร้างแล้วจำเลยจะจัดการให้โจทก์ได้เช่าตึกแถวกับเจ้าของที่ดิน เป็นสัญญาต่างตอบแทนซึ่ง ประมวลรัษฎากร มิได้กำหนดให้ปิดอากรแสตมป์อย่างจ้างทำของรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
เอกสารสัญญาที่ตกลงว่าโจทก์ชำระค่าช่วยก่อสร้างแล้วจำเลยจะจัดการให้โจทก์ได้เช่าตึกแถวกับเจ้าของที่ดิน เป็นสัญญาต่างตอบแทนซึ่ง ประมวลรัษฎากร มิได้กำหนดให้ปิดอากรแสตมป์อย่างจ้างทำของรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3196/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ดินกว่า 3 ปี แม้เป็นสัญญาต่างตอบแทน หากผู้รับโอนไม่ยินยอม สิทธิจะผูกพันเฉพาะ 3 ปีแรก
การเช่าที่ดินมีกำหนดเวลากว่าสามปีขึ้นไป แต่มิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แม้จะเป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา ซึ่งมีผลบังคับผู้ให้เช่าจะต้องให้เช่าตามกำหนดเวลาก็ตาม แต่เมื่อผู้รับโอนที่ดินจากผู้ให้เช่าไม่ยินยอมเข้าผูกพันในอันจะปฏิบัติตามสัญญาแทนผู้ให้เช่าเดิมแล้ว กำหนดเวลาตามสัญญาเช่าย่อมไม่มีผลผูกพันผู้รับโอนที่ดิน สัญญาคงมีผลบังคับตามกฎหมายเพียง 3 ปี เมื่อผู้รับโอนได้รับโอนที่ดินมาเมื่อล่วงเลยกำหนดเวลาดังกล่าวแล้วก็ชอบที่จะเลิกสัญญากับผู้เช่าได้
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่าที่ค้างขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารค่าเสียหายระหว่างที่ยังไม่ออกจากที่ดินที่เช่า ระหว่างคดีโจทก์ขายที่ดินที่เช่าไป ค่าเช่าที่ค้างและหน้าที่จะส่งคืนที่ดินที่เช่าเมื่อสัญญาเช่าเลิกกัน เป็นหนี้ตามสัญญาเช่า ไม่เกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เช่า ส่วนค่าเสียหายแม้เป็นหนี้เกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เช่าแต่โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกได้ตราบเท่าที่ที่ดินที่เช่ายังเป็นของโจทก์อยู่ ทั้งโจทก์มีหน้าที่ต้องส่งมอบที่ดินที่ขายนั้นให้แก่ผู้ซื้อด้วย การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เช่าภายหลังฟ้อง จึงไม่ทำให้สิทธิฟ้องคดีของโจทก์ที่ขอให้จำเลยปฏิบัติการชำระหนี้ดังกล่าวระงับไป
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่าที่ค้างขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารค่าเสียหายระหว่างที่ยังไม่ออกจากที่ดินที่เช่า ระหว่างคดีโจทก์ขายที่ดินที่เช่าไป ค่าเช่าที่ค้างและหน้าที่จะส่งคืนที่ดินที่เช่าเมื่อสัญญาเช่าเลิกกัน เป็นหนี้ตามสัญญาเช่า ไม่เกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เช่า ส่วนค่าเสียหายแม้เป็นหนี้เกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เช่าแต่โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกได้ตราบเท่าที่ที่ดินที่เช่ายังเป็นของโจทก์อยู่ ทั้งโจทก์มีหน้าที่ต้องส่งมอบที่ดินที่ขายนั้นให้แก่ผู้ซื้อด้วย การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เช่าภายหลังฟ้อง จึงไม่ทำให้สิทธิฟ้องคดีของโจทก์ที่ขอให้จำเลยปฏิบัติการชำระหนี้ดังกล่าวระงับไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2152/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาฝากเก็บและสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นสัญญาต่างตอบแทน มีอายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สัญญารายพิพาทเรียกว่าสัญญารับฝากเก็บและสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นสัญญาระหว่างโจทก์ ซึ่งในสัญญาเรียกว่าผู้ฝากกับโรงสี ม. โดยจำเลยผู้เป็นเจ้าของและผู้จัดการ ซึ่งในสัญญาเรียกว่าผู้รับฝากเก็บและสีแปรสภาพข้าว โดยผู้รับฝากฯ ตกลงจะรับฝากเก็บและสีแปรสภาพข้าวเปลือกทุกชนิดของผู้ฝาก และผู้รับฝากจะส่งมอบข้าวกลับคืนให้แก่ผู้ฝากเป็นข้าวสารตามชนิด จำนวนและระยะเวลาที่คณะกรรมการสำรองข้าวสั่ง โดยผู้ฝากให้ประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้รับฝากเป็นต้นข้าวปลายข้าวและรำข้าวที่เหลือจากการส่งให้แก่ผู้ฝาก สัญญาเช่นนี้หาใช่สัญญาฝากทรัพย์ไม่ แต่เป็นสัญญาที่จำเลยตกลงรับฝากเก็บข้าวเปลือกไว้เพื่อสีแปรสภาพจนสำเร็จเป็นข้าวสารให้แก่โจทก์และโจทก์ตกลงให้ต้นข้าว ปลายข้าว และรำข้าวเป็นการตอบแทนที่จำเลยสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสารจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนประเภทหนึ่งซึ่งไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164