คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สามีภริยา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 238 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าสินไหมทดแทนจากการเสียชีวิต: การขาดไร้อุปการะระหว่างสามีภริยา
สามีภริยาอยู่กินด้วยกันมาได้ 30 ปีเศษ. ขณะมีชีวิตอยู่ได้ช่วยเหลือในทางค้าขาย แสดงว่าสามีภริยาต่างก็มีอุปการะซึ่งกันและกัน. ฉะนั้นเมื่อฝ่ายหนึ่งตายลง ย่อมเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งต้องขาดไร้อุปการะและการขาดไร้อุปการะเช่นว่านี้เป็นการขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย.ผู้ที่มีชีวิตอยู่จึงชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้นได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมซื้อขายโมฆะเมื่อสามีมิได้ยินยอมและได้บอกล้างแล้ว ผู้รับโอนย่อมไม่ได้รับความคุ้มครอง
สามีมิได้รู้เห็นและให้ความยินยอมภริยาทำนิติกรรมซื้อขายสินบริคณห์เมื่อได้บอกล้างนิติกรรมนั้นแล้วนิติกรรมนั้นย่อมเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 138
บุคคลที่รับโอนทรัพย์สินมาโดยไม่สุจริตจากผู้โอนที่ได้ทรัพย์สินมาโดยนิติกรรมอันเป็นโมฆียะเมื่อนิติกรรมนั้นถูกบอกล้าง บุคคลที่รับโอนนั้นไม่ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1329

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 329/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุหย่า: การเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยาและละทิ้งกัน สิทธิฟ้องร้องระงับใน 2 ปี
การกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยานั้น. เมื่อพ้นกำหนด 2 ปีแล้วสิทธิการฟ้องร้องย่อมระงับไป.
โจทก์จำเลยทะเลาะกันด่ากัน. โจทก์จะกล่าวอ้างว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์เพื่อยกเป็นเหตุฟ้องหย่าหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 209/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ร่วมทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาโดยไม่จดทะเบียน: การขัดทรัพย์และการร้องขัดทรัพย์ซ้ำ
ผู้ร้องเคยร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ และศาลได้สั่งยกคำร้องโดยฟังว่าทรัพย์นั้นเป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ร้องมายื่นคำร้องใหม่ในคดีนี้ว่า ทรัพย์ที่ถูกยึดนั้นได้มาระหว่างที่ผู้ร้องและลูกหนี้ตามคำพิพากษาอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยไม่จดทะเบียน ดังนี้ ปัญหาที่ว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นของผู้ร้องกึ่งหนึ่งด้วยหรือไม่ ศาลยังไม่ได้วินิจฉัย เพราะในคดีร้องขัดทรัพย์ไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นของลูกหนี้ทั้งหมดหรือไม่ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าทรัพย์ที่ถูกยึดนั้นได้มาระหว่างที่ผู้ร้องและลูกหนี้ตามคำพิพากษาอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยไม่จดทะเบียน ศาลก็ยกคำร้องขัดทรัพย์เสียได้ ที่ผู้ร้องมาร้องคดีนี้จึงมิใช่เป็นการร้องซ้ำในประเด็นเดียวกับที่ศาลได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 209/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างคบหากันฉันสามีภริยา โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส ไม่ถือเป็นการฟ้องซ้ำ
ผู้ร้องเคยร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ และศาลได้สั่งยกคำร้องโดยฟังว่าทรัพย์นั้นเป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษาผู้ร้องมายื่นคำร้องใหม่ในคดีนี้ว่า ทรัพย์ที่ถูกยึดนั้นได้มาระหว่างที่ผู้ร้องและลูกหนี้ตามคำพิพากษาอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยไม่จดทะเบียนดังนี้ ปัญหาที่ว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นของผู้ร้องกึ่งหนึ่งด้วยหรือไม่ ศาลยังไม่ได้วินิจฉัยเพราะในคดีร้องขัดทรัพย์ไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นของลูกหนี้ทั้งหมดหรือไม่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าทรัพย์ที่ถูกยึดนั้นได้มาระหว่างที่ผู้ร้องและลูกหนี้ตามคำพิพากษาอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยไม่จดทะเบียน ศาลก็ยกคำร้องขัดทรัพย์เสียได้ ที่ผู้ร้องมาร้องคดีนี้จึงมิใช่เป็นการร้องซ้ำในประเด็นเดียวกับที่ศาลได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 209/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ร่วมทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาโดยไม่จดทะเบียน: การขัดทรัพย์และการร้องขัดทรัพย์ซ้ำ
ผู้ร้องเคยร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ และศาลได้สั่งยกคำร้องโดยฟังว่าทรัพย์นั้นเป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษา. ผู้ร้องมายื่นคำร้องใหม่ในคดีนี้ว่า ทรัพย์ที่ถูกยึดนั้นได้มาระหว่างที่ผู้ร้องและลูกหนี้ตามคำพิพากษาอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยไม่จดทะเบียน. ดังนี้ ปัญหาที่ว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นของผู้ร้องกึ่งหนึ่งด้วยหรือไม่. ศาลยังไม่ได้วินิจฉัย.เพราะในคดีร้องขัดทรัพย์ไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นของลูกหนี้ทั้งหมดหรือไม่. เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าทรัพย์ที่ถูกยึดนั้นได้มาระหว่างที่ผู้ร้องและลูกหนี้ตามคำพิพากษาอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยไม่จดทะเบียน. ศาลก็ยกคำร้องขัดทรัพย์เสียได้ ที่ผู้ร้องมาร้องคดีนี้จึงมิใช่เป็นการร้องซ้ำในประเด็นเดียวกับที่ศาลได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2001/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความแบ่งทรัพย์ระหว่างสามีภริยาที่ไม่นำไปสู่การหย่า ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย
ในคดีฟ้องขอหย่าและแบ่งทรัพย์ระหว่างกัน แต่คู่ความตกลงกันได้โดยทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลเฉพาะในเรื่องแบ่งทรัพย์ ดังนี้ คำพิพากษาตามสัญญายอมเฉพาะในข้อตกลงแบ่งทรัพย์โดยไม่มีการหย่าขาดระหว่างกันนี้ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยแต่อย่างใด การแบ่งทรัพย์นี้เป็นสัญญาระหว่างสามีภริยาอย่างหนึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1461

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2001/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความเรื่องแบ่งทรัพย์ระหว่างสามีภริยาไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย แม้มิได้หย่าขาด
ในคดีฟ้องขอหย่าและแบ่งทรัพย์ระหว่างกัน แต่คู่ความตกลงกันได้โดยทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลเฉพาะในเรื่องแบ่งทรัพย์ ดังนี้ คำพิพากษาตามสัญญายอมเฉพาะในข้อตกลงแบ่งทรัพย์โดยไม่มีการหย่าขาดระหว่างกันนี้ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยแต่อย่างใด การแบ่งทรัพย์นี้เป็นสัญญาระหว่างสามีภริยาอย่างหนึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1461

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2001/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความเรื่องแบ่งทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย
ในคดีฟ้องขอหย่าและแบ่งทรัพย์ระหว่างกัน แต่คู่ความตกลงกันได้โดยทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลเฉพาะในเรื่องแบ่งทรัพย์. ดังนี้ คำพิพากษาตามสัญญายอมเฉพาะในข้อตกลงแบ่งทรัพย์โดยไม่มีการหย่าขาดระหว่างกันนี้ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยแต่อย่างใด. การแบ่งทรัพย์นี้เป็นสัญญาระหว่างสามีภริยาอย่างหนึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1461.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ร่วมสามีภริยาและการบังคับคดีต่อสินส่วนตัวหลังล้มละลาย
จำเลยสองสามีภริยาต้องคำพิพากษาให้ร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ แม้โจทก์จะร้องขอรับชำระหนี้ในคดีที่สามีถูกฟ้องล้มละลายแล้ว หากโจทก์ยังได้รับชำระไม่ครบ โจทก์ย่อมขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาเอาแก่ทรัพย์สินของภริยาได้ต่อไปจนครบถ้วน
ในกรณีสามีภริยาต้องรับผิดใช้หนี้ร่วมกัน กฎหมายบัญญัติให้ใช้จากสินบริคณห์และสินส่วนตัวของทั้งสองฝ่าย
สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายสินบริคณห์ย่อมแยกจากกันโดยอำนาจกฎหมายนับแต่วันที่ศาลพิพากษาให้ล้มละลายนั้น เป็นหน้าที่ของอีกฝ่ายที่จะต้องขอกันส่วนของตนไว้
of 24