พบผลลัพธ์ทั้งหมด 174 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2129/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภูมิลำเนาของนิติบุคคลยังคงอยู่ที่เดิม แม้สำนักงานใหญ่จะถูกเพลิงไหม้ การส่งหมายเรียกโดยวิธีประกาศจึงไม่ชอบ
ภูมิลำเนาของนิติบุคคลได้แก่ถิ่นที่สำนักงานแห่งใหญ่ หรือที่ตั้งทำการหรือถิ่นที่ได้เลือกเอาเป็นภูมิลำเนาเฉพาะการตามข้อบังคับหรือตราสารจัดตั้งเท่านั้น การที่สำนักงานแห่งใหญ่ของนิติบุคคลจำเลยที่ 1 ถูกเพลิงไหม้จะถือว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีภูมิลำเนาอยู่ที่เดิมตามข้อบังคับหรือตราสารจัดตั้งหาได้ไม่ ดังนี้ จะถือว่ากรณีเป็นเรื่องไม่สามารถส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องโดยวิธีธรรมดาได้ยังไม่ชอบ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ประกาศ โฆษณาทางหนังสือพิมพ์แทนการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องโดยวิธีธรรมดาจึงเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 จะถือว่าจำเลยที่ 1 ได้ทราบประกาศการ ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแล้วโดยผลของกฎหมายไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1740/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกโดยชอบที่จำเลยไม่ได้รับจริง และสิทธิในการยื่นคำขอพิจารณาใหม่
ระหว่างโจทก์ฟ้องหย่า โจทก์จำเลยอยู่ด้วยกันที่บ้านพักตำรวจซึ่งในอาคารเดียวมีผู้อยู่อาศัยหลายครอบครัวจำเลยต้องออกจากบ้านไปทำงานทุกวัน แม้เจ้าพนักงานศาลจะปิดหมายเรียก สำเนาคำฟ้อง หมายนัดสืบพยาน และคำบังคับไว้ที่บ้านพัก ซึ่งถือได้ว่าเป็นการส่งโดยชอบ แต่ตามความจริงอาจเป็นได้ว่าจำเลยไม่ได้รับเพราะมีคนแอบยักย้ายเอกสารที่ปิดไว้ไปเสีย โจทก์ก็ไม่เคยบอกให้จำเลยทราบ ดังนี้ ถือว่าจำเลยไม่สามารถยื่นคำขอให้พิจารณาโดยพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ จำเลยมีสิทธิยื่นคำขอได้ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่พฤติการณ์นั้นสิ้นสุดลงเมื่อทราบเรื่องจากการตรวจดูสำนวนคดีที่ศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 155/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียก/คำบังคับผิดสถานที่ทำให้จำเลยไม่ทราบคดี ศาลอนุญาตให้ยื่นคำร้องขอพิจารณาใหม่ได้
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่อ้างว่าจำเลยอยู่บ้านเลขที่ 155 แฟลตหลังที่ 21 ในการส่งหมายเรียกสำเนาคำฟ้อง และคำบังคับ เจ้าพนักงานศาลปิดไว้ที่บ้านซึ่งไม่ใช่บ้านของจำเลยทุกครั้ง จำเลยจึงไม่ทราบว่าถูกฟ้อง ปรากฏว่าในการส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องหมายนัดแจ้งวันนัดสืบพยานโจทก์ และคำบังคับเจ้าพนักงานศาลปิดไว้ที่บ้านเลขที่ 155 ชั้น 4 แฟลตหลังที่ 33 ทุกครั้ง และในการไปส่งหมายที่บ้านดังกล่าว เจ้าพนักงานศาลไม่เคยพบจำเลยในบ้านนั้น และสอบถามบ้านข้างเคียงก็ไม่มีใครรู้จักจำเลย ดังนี้ หากได้ความตามคำร้องของจำเลยย่อมถือไม่ได้ว่าส่งคำบังคับให้จำเลยโดยชอบ เมื่อไม่มีการส่งคำบังคับโดยชอบ จำเลยย่อมมีสิทธิยื่นคำร้องขอพิจารณาใหม่เมื่อใดก็ได้ ไม่อยู่ในบังคับของมาตรา208 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง แม้จำเลยจะมิได้ยกปัญหาว่าการส่งคำบังคับเป็นไปโดยไม่ชอบศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้ เพราะเป็นกรณีที่เกี่ยวกับการที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 774/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียก/หมายนัดโดยมีชื่อจำเลยผิดพลาดเล็กน้อย ไม่ทำให้ฟ้องเสีย และการขาดนัดยื่นคำให้การ/ไม่มาศาลถือเป็นการจงใจ
แม้ในคำฟ้องและหมายเรียกจะระบุว่าจำเลยชื่อนางสุดจารีย์ โลกะวิทย์ โดยจำเลยชื่อนางสุจารี โลกะวิทย์ ก็ไม่ทำให้คำฟ้องของโจทก์เสียไป เพราะเป็นเพียงการสะกดการันต์ผิดพลาดเล็กน้อยและที่บ้านจำเลยไม่มีบุคคลอื่นที่มีชื่อว่านางสุดจารีย์อันจะทำให้เข้าใจผิดไปได้ และปรากฏด้วยว่าการที่จำเลยไม่ยื่นคำให้การเป็นเพราะจำเลยหาเหตุที่ฟ้องของโจทก์สะกดการันต์ชื่อจำเลยไม่ถูกต้อง การที่จำเลยไม่ยื่นคำให้การภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้จึงถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การโดยจงใจ เมื่อปรากฏต่อมาว่าเจ้าพนักงานศาลได้ปิดหมายนัดกำหนดวันสืบพยานไว้ที่บ้านจำเลย จึงต้องถือว่าได้มีการส่งหมายกำหนดวันสืบพยานให้จำเลยทราบโดยชอบแล้วเช่นเดียวกัน การที่จำเลยไม่มาศาลจึงถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาโดยจงใจ ย่อมไม่มีเหตุที่จะขอให้พิจารณาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 774/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียก/หมายนัดที่ถูกต้อง แม้ชื่อจำเลยในฟ้องผิดพลาดเล็กน้อย ถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ/พิจารณาโดยจงใจ
แม้ในคำฟ้องและหมายเรียกจะระบุว่าจำเลยชื่อนางสุดจารีย์ โลกะวิทย์ โดยจำเลยชื่อนางสุจารีโลกะวิทย์ ก็ไม่ทำให้คำฟ้องของโจทก์เสียไป เพราะเป็นเพียงการสะกดการันต์ผิดพลาดเล็กน้อย และที่บ้านจำเลยไม่มีบุคคลอื่นที่มีชื่อว่านางสุดจารีย์อันจะทำให้เข้าใจผิดไปได้ และปรากฏด้วยว่าการที่จำเลยไม่ยื่นคำให้การเป็นเพราะจำเลยหาเหตุที่ฟ้องของโจทก์สะกดการันต์ชื่อจำเลยไม่ถูกต้องการที่จำเลยไม่ยื่นคำให้การภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้จึงถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การโดยจงใจ เมื่อปรากฏต่อมาว่าเจ้าพนักงานศาลได้ปิดหมายนัดกำหนดวันสืบพยานไว้ที่บ้านจำเลย จึงต้องถือว่าได้มีการส่งหมายกำหนดวันสืบพยานให้จำเลยทราบโดยชอบแล้วเช่นเดียวกัน การที่จำเลยไม่ มาศาลจึงถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาโดยจงใจ ย่อมไม่มีเหตุที่จะขอให้พิจารณาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 157/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียก ณ สำนักทำการงานบริษัทเลิกแล้ว: ชอบด้วยกฎหมายหากยังไม่ได้จดทะเบียนเลิก
เมื่อบริษัทที่จำเลยเป็นกรรมการอยู่ได้เลิกกิจการไป แต่ยังไม่มีการจดทะเบียนเลิกบริษัท การส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องให้จำเลยโดยวิธีปิดหมาย ณ ที่ทำการบริษัทอันเป็นสำนักทำการงานของจำเลย จึงชอบด้วยป.วิ.พ. ม.79
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1262/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องคดีอาญาเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งหมายเรียกจำเลย ศาลมีอำนาจจำหน่ายคดีได้
ในคดีอาญาศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งว่าคดีของโจทก์มีมูล ให้ประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณา หมายเรียกจำเลยมาให้การ และให้โจทก์นำส่งหมายภายใน 7 วัน คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ออกหมายเรียกจำเลยมานั้น นอกจากจะเป็นการปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 169 แล้ว ยังเป็นการปฏิบัติตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ด้วย และ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์นำส่งหมายเรียกให้จำเลยก็เป็นการสั่งให้โจทก์ปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 70 วรรคท้าย โจทก์จึงมีหน้าที่ที่จะต้องดำเนินคดีต่อไปภายในกำหนดเวลาที่ศาลกำหนดไว้นั้น
เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ทราบคำสั่งศาลที่กำหนดเวลาให้โจทก์นำส่งหมายให้จำเลยดังกล่าวแล้ว โจทก์ไม่ดำเนินคดีภายในกำหนดเวลานั้น กรณีต้องถือว่าโจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดี ภายในเวลาที่ศาลกำหนดไว้เพื่อการนั้นโดยชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) อันเป็นการทิ้งฟ้อง ซึ่งศาลมีอำนาจสั่งจำหน่ายคดีของโจทก์เสียจากสารบบความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132(1) ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ทราบคำสั่งศาลที่กำหนดเวลาให้โจทก์นำส่งหมายให้จำเลยดังกล่าวแล้ว โจทก์ไม่ดำเนินคดีภายในกำหนดเวลานั้น กรณีต้องถือว่าโจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดี ภายในเวลาที่ศาลกำหนดไว้เพื่อการนั้นโดยชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) อันเป็นการทิ้งฟ้อง ซึ่งศาลมีอำนาจสั่งจำหน่ายคดีของโจทก์เสียจากสารบบความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132(1) ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอพิจารณาคดีใหม่ในคดีแพ่ง: เหตุผลความผิดพลาดในการส่งหมายเรียกและนิติกรรมเป็นโมฆะ
คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยสรุปใจความได้ว่า จำเลยไม่เคยร่วมออกเงินปลูกสร้างตึกลงในที่ดินที่เช่า ความจริงจำเลยว่าจ้างโจทก์สร้างบ้านให้จำเลยและจำเลยไม่เคยตกลงให้โจทก์เช่าบ้านสัญญาเช่าท้ายฟ้องเกิดจากจำเลยถูกโจทก์ใช้อุบายหลอกลวงว่าโจทก์จะนำไปใช้แสดงต่อบุคคลภายนอกเพื่อให้เชื่อถือ โดยจำเลยมิได้รับเงิน 10,000 บาทตามสัญญา สัญญาเกิดจากการแสดงเจตนาลวง เป็นโมฆะ ถ้าจำเลยได้เข้ามาต่อสู้คดีก็มีทางชนะคดีได้ ข้อความดังกล่าวจึงเป็นข้อที่คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นโดยยกเหตุผลขึ้นประกอบโดยละเอียดและชัดแจ้งซึ่งถ้าจำเลยนำสืบฟังได้เช่นนั้น จำเลยย่อมชนะคดีคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3194/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียก/สำเนาคำฟ้องต้องส่งไปยังภูมิลำเนา หากเลยขั้นตอนถือเป็นการส่งที่ไม่ชอบ
เมื่อโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย ได้ระบุที่อยู่อันเป็นภูมิลำเนาของจำเลยไว้ชัดแจ้ง แต่แทนที่โจทก์จะนำเจ้าพนักงานศาลส่งหมายเรียก สำเนาคำฟ้องและคำบังคับให้แก่จำเลย ณ ภูมิลำเนาตามคำฟ้องของโจทก์ โจทก์กลับขอให้ส่งด้วยวิธีอื่นแทนซึ่งเป็นการเลยขั้นตอนของการส่งตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ถือได้ว่าเป็นการส่งที่ไม่ชอบ ไม่มีผลให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปในเหตุที่จำเลยขาดนัด
กรณีตามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับส่งคำคู่ความหรือเอกสารใดให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งในคดีก่อน แม้จะเป็นคู่ความรายเดียวกันและในเรื่องเดียวกันก็ตาม เมื่อศาลสั่งจำหน่ายคดีเสร็จสำนวนไปจากศาลแล้ว โจทก์จะนำมาใช้ในคดีใหม่อีกหาได้ไม่
กรณีตามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับส่งคำคู่ความหรือเอกสารใดให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งในคดีก่อน แม้จะเป็นคู่ความรายเดียวกันและในเรื่องเดียวกันก็ตาม เมื่อศาลสั่งจำหน่ายคดีเสร็จสำนวนไปจากศาลแล้ว โจทก์จะนำมาใช้ในคดีใหม่อีกหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3194/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียก/สำเนาคำฟ้องต้องส่งที่ภูมิลำเนาตามคำฟ้อง การส่งด้วยวิธีอื่นต้องมีเหตุผล การส่งในคดีก่อนใช้ไม่ได้กับคดีใหม่
เมื่อโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย ได้ระบุที่อยู่อันเป็นภูมิลำเนาของจำเลยไว้ชัดแจ้ง แต่แทนที่โจทก์จะนำเจ้าพนักงานศาลส่งหมายเรียก สำเนาคำฟ้องและคำบังคับให้แก่จำเลย ณ ภูมิลำเนาตามคำฟ้องของโจทก์ โจทก์กลับขอให้ส่งด้วยวิธีอื่นแทนซึ่งเป็นการเลยขั้นตอนของการส่งตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ถือได้ว่าเป็นการส่งที่ไม่ชอบ ไม่มีผลให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปในเหตุที่จำเลยขาดนัด
กรณีตามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับส่งคำคู่ความหรือเอกสารใดให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งในคดีก่อน แม้จะเป็นคู่ความรายเดียวกันและในเรื่องเดียวกันก็ตาม เมื่อศาลสั่งจำหน่ายคดีเสร็จสำนวนไปจากศาลแล้ว โจทก์จะนำมาใช้ในคดีใหม่อีกหาได้ไม่
กรณีตามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับส่งคำคู่ความหรือเอกสารใดให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งในคดีก่อน แม้จะเป็นคู่ความรายเดียวกันและในเรื่องเดียวกันก็ตาม เมื่อศาลสั่งจำหน่ายคดีเสร็จสำนวนไปจากศาลแล้ว โจทก์จะนำมาใช้ในคดีใหม่อีกหาได้ไม่