คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หุ้นส่วน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 346 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 756/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนทำเหมืองแร่เบียดบังผลประโยชน์ ไม่เป็นความผิดอาญาฐานยักยอก แต่เป็นผิดสัญญา
โจทก์บรรยายฟ้องเป็นใจความว่า โจทก์จำเลยทำสัญญาเข้าหุ้นกันทำเหมืองแร่โดยโจทก์มอบให้จำเลยเป็นผู้จัดการ ผลิตแร่และครอบครองที่ดินตามคำขออาชญาบัตร จำเลยผลิตแร่ได้แล้วนำออกจำหน่ายเป็นเงินประมาณสามล้านบาทเศษ ไม่ยอมแบ่งให้โจทก์ ซึ่งโจทก์มีสิทธิได้ร้อยละ 20 ตามสัญญา ดังนี้ เห็นได้ว่ามิใช่เรื่องจำเลยทำผิดหน้าที่ในการจัดการทรัพย์สินของโจทก์โดยทุจริต แต่เป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่งเท่านั้น ไม่เป็นผิดอาญาฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 756/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนทำเหมืองแร่เบียดบังผลประโยชน์ ไม่ถึงขั้นยักยอกทรัพย์ เป็นเพียงผิดสัญญา
โจทก์บรรยายฟ้องเป็นใจความว่า โจทก์จำเลยทำสัญญาเข้าหุ้นกันทำเหมืองแร่โดยโจทก์มอบให้จำเลยเป็นผู้จัดการ ผลิตแร่และครอบครองที่ดินตามคำขออาชญาบัตร จำเลยผลิตแร่ได้แล้วนำออกจำหน่ายเป็นเงินประมาณสามล้านบาทเศษ ไม่ยอมแบ่งให้โจทก์ ซึ่งโจทก์มีสิทธิได้ร้อยละ20 ตามสัญญาดังนี้ เห็นได้ว่ามิใช่เรื่องจำเลยทำผิดหน้าที่ในการจัดการทรัพย์สินของโจทก์โดยทุจริต แต่เป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่งเท่านั้น ไม่เป็นผิดอาญาฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2613/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงรับผิดในหนี้สินของห้างหุ้นส่วน และขอบเขตความรับผิดของผู้ออกจากหุ้นส่วน
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1068 ไม่ใช่เรื่องอายุความ แต่เป็นเรื่องที่กฎหมายกำหนดความรับผิดของผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนที่ออกจากหุ้นส่วนให้รับผิดในหนี้ซึ่งห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนออกจากหุ้นส่วนพียงสองปีนับแต่เมื่อออกจากหุ้นส่วน บทบัญญัติดังกล่าวไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน คู่กรณีจึงอาจตกลงเป็นอย่างอื่นได้เมื่อจำเลยทำสัญญารับผิดในหนี้ของห้างหุ้นส่วนที่มีอยู่ก่อนที่ตนออกจากหุ้นส่วนทั้งหมด ข้อตกลงดังกล่าวก็มีผลใช้บังคับได้
โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นลูกหนี้กรมสรรพากร การชำระหนี้ต้องชำระในนามของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการได้นำเงินส่วนตัวชำระหนี้แทนโจทก์ที่ 1 แล้วจำเลยจึงต้องรับชำระเงินตามจำนวนนั้นพร้อมทั้งดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ที่ 2 ตามสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2613/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของหุ้นส่วนที่ออกจากห้างหุ้นส่วน: สัญญาตกลงพิเศษมีผลเหนือบทบัญญัติมาตรา 1068
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1068 ไม่ใช่เรื่องอายุความ แต่เป็นเรื่องที่กฎหมายกำหนดความรับผิดของผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนที่ออกจากหุ้นส่วนให้รับผิดในหนี้ซึ่งห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนออกจากหุ้นส่วนเพียงสองปีนับแต่เมื่อออกจากหุ้นส่วนบทบัญญัติดังกล่าวไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนคู่กรณีจึงอาจตกลงเป็นอย่างอื่นได้ เมื่อจำเลยทำสัญญายอมรับผิดในหนี้สินของห้างหุ้นส่วนที่มีอยู่ก่อนที่ตนออกจากหุ้นส่วนทั้งหมด ข้อตกลงดังกล่าวก็มีผลใช้บังคับได้
โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นลูกหนี้กรมสรรพากรการชำระหนี้ต้องชำระในนามของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการได้นำเงินส่วนตัวชำระหนี้แทนโจทก์ที่ 1 แล้วจำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินจำนวนนั้นพร้อมทั้งดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ที่ 2 ตามสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2202/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนจำกัดรับผิดร่วมกันในสัญญาซื้อขายที่ดินและอาคาร แม้ใช้ชื่อห้างหุ้นส่วนเป็นตัวแทน
ภายหลังจากที่จดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 แล้วผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งสามคือ จำเลยที่ 2 ที่ 3 และ ซ. ได้ทำข้อตกลงพิเศษกันไว้เป็นส่วนตัวให้ห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพิ่มเติมคือรับจัดให้ได้มาซึ่งที่อยู่อาศัยพร้อมที่ดิน ซึ่งหมายถึงการซื้อที่ดินมาปลูกสร้างอาคารสร้างอาคารขายอันมิใช่วัตถุประสงค์ของห้าง และเมื่อมีกำไร ยอมยกให้จำเลยที่ 3 ครึ่งหนึ่ง ส่วนสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาจำเลยที่ 2 ที่ 3 มีสิทธิคนละครึ่ง ข้อตกลงดังกล่าวแม้จะอ้างว่าเป็นกิจการของห้างจำเลยที่ 1 แต่แท้จริงมุ่งหมายผูกพันกันระหว่างจำเลยที่ 2 ที่ 3 โดยตรงเพียงแต่ใช้ชื่อห้างจำเลยที่ 1 ออกหน้าเท่านั้น ทั้งทางปฏิบัติระหว่างจำเลยที่ 2 ที่ 3 เกี่ยวกับการใช้จ่ายดำเนินกิจการซื้อที่ดินมาปลูกอาคารขายก็มีลักษณะของการลงเงินเป็นหุ้นแสดงให้เห็นชัดว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ในฐานะส่วนตัวเป็นหุ้นส่วนกันในกิจการซื้อที่ดินมาปลูกสร้างอาคารตึกแถวขายพร้อมที่ดิน อาคารพิพาทและที่ดินจึงเป็นทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 2 ที่ 3 เมื่อจำเลยที่ 2 ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งผิดสัญญาซื้อขายอาคารพิพาทและที่ดินที่ทำไว้กับโจทก์ โดยก่อสร้างอาคารพิพาทไม่แล้วเสร็จ และไม่โอนอาคารพิพาทและที่ดินให้โจทก์ จำเลยที่ 3 ผู้เป็นหุ้นสวนอีกคนหนึ่งจึงต้องร่วมรับผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2202/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนจำกัดรับผิดชอบร่วมกันในสัญญาซื้อขายที่ดิน แม้ใช้ชื่อห้างเป็นคู่สัญญา หากมีข้อตกลงพิเศษและลงหุ้นร่วมกัน
ภายหลังจากที่จดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 แล้วผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งสามคือ จำเลยที่ 2 ที่ 3 และ ซ.ได้ทำข้อตกลงพิเศษกันไว้เป็นส่วนตัวให้ห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพิ่มเติมคือรับจัดให้ได้มาซึ่งที่อยู่อาศัยพร้อมที่ดิน ซึ่งหมายถึงการซื้อที่ดินมาปลูกสร้างอาคารขายอันมิใช่วัตถุประสงค์ของห้าง และเมื่อมีกำไร ยอมยกให้จำเลยที่ 3 ครึ่งหนึ่ง ส่วนอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาจำเลยที่ 2 ที่ 3 มีสิทธิคนละครึ่งข้อตกลงดังกล่าวแม้จะอ้างว่าเป็นกิจการของห้างจำเลยที่ 1 แต่แท้จริงมุ่งหมายผูกพันกันระหว่างจำเลยที่2 ที่ 3 โดยตรงเพียงแต่ใช้ชื่อห้างจำเลยที่ 1 ออกหน้าเท่านั้นทั้งทางปฏิบัติระหว่างจำเลยที่ 2 ที่ 3เกี่ยวกับการใช้จ่ายดำเนินกิจการซื้อที่ดินมาปลูกอาคารขายก็มีลักษณะของการลงเงินเป็นหุ้นแสดงให้เห็นชัดว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ในฐานะส่วนตัวเป็นหุ้นส่วนกันในกิจการซื้อที่ดินมาปลูกสร้างอาคารตึกแถวขายพร้อมที่ดิน อาคารพิพาทและที่ดินจึงเป็นทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 2 ที่ 3 เมื่อจำเลยที่ 2 ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งผิดสัญญาซื้อขายอาคารพิพาทและที่ดินที่ทำไว้กับโจทก์โดยก่อสร้างอาคารพิพาทไม่แล้วเสร็จ และไม่โอนอาคารพิพาทและที่ดินให้โจทก์ จำเลยที่ 3 ผู้เป็นหุ้นส่วนอีกคนหนึ่งจึงต้องร่วมรับผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1399/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นหุ้นส่วนต้องมีการลงหุ้นด้วยเงิน ทรัพย์สิน หรือแรงงาน หากไม่มีการลงหุ้น ไม่ถือเป็นหุ้นส่วน
ผู้เป็นหุ้นส่วนต้องมีเงิน ทรัพย์สินอื่น หรือแรงงานมาลงหุ้นถ้าไม่ได้ลงหุ้น ก็ไม่เป็นหุ้นส่วน
ฎีกาว่าโจทก์จำเลยไม่เป็นหุ้นส่วนเป็นคำขอคำนวณเป็นราคาเงินไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนซื้อขายช้างทำสัญญากู้เป็นหลักฐานคืนเงินและกำไร สัญญาไม่มีผลผูกพันตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องและนำสืบว่าจำเลยกู้เงินไปจากโจทก์โดยได้ทำสัญญากู้ไว้เป็นหลักฐาน ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นเรื่องที่โจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนกันซื้อช้างเพื่อขาย โดยทำสัญญากูกันไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการคืนหุ้นและกำไร ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องส่วนข้อที่ว่าช้างที่เข้าหุ้นส่วนกันซื้อมาถูกคนร้ายลักเอาไปจำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์อย่างไร โจทก์มีสิทธิเรียกร้องจากจำเลยเพียงใดหรือไม่ เป็นกรณีที่จะต้องว่ากล่าวกันอีกเรื่องหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าหุ้นส่วนซื้อขายช้าง สัญญาการกู้เป็นหลักฐานการชำระหนี้หุ้นและกำไร ไม่ใช่การกู้ยืมเงิน
โจทก์ฟ้องและนำสืบว่าจำเลยกู้เงินไปจากโจทก์โดยได้ทำสัญญากู้ไว้เป็นหลักฐาน ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นเรื่องที่โจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนกันซื้อช้างเพื่อขาย โดยทำสัญญากู้กันไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการคืนหุ้นและกำไร ศาลย่อมพิพากษายกฟ้อง ส่วนข้อที่ว่าช้างที่เข้าหุ้นส่วนกันซื้อมาถูกคนร้ายลักเอาไปจำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์อย่างไรโจทก์มีสิทธิเรียกร้องจากจำเลยเพียงใดหรือไม่เป็นกรณีที่จะต้องว่ากล่าวกันอีกเรื่องหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3222/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนผู้ไม่ได้จัดการ เข้าไปจัดการกิจการโดยพลการ ศาลไม่รับวินิจฉัยประเด็นใหม่
โจทก์ฟ้องขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนจำกัด และให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดและจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการชดใช้เงินทดรองซึ่งโจทก์ในฐานะหุ้นส่วนผู้หนึ่งได้ออกทดรองไปคืนแก่โจทก์ จำเลยทั้งสองให้การปัดความรับผิดด้วยเหตุหลายประการ แต่ไม่ได้ให้การว่าการที่โจทก์ออกเงินทดรองไปเป็นการเอื้อมเข้าไปจัดการงานของห้างโดยพลการซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1043 ให้บังคับตามบทบัญญัติว่าด้วยจัดการนอกสั่ง และศาลชั้นต้นก็มิได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยแพ้คดีแล้ว จำเลยฎีกาว่าการกระทำของโจทก์เป็นการที่หุ้นส่วนอันมิได้ผู้จัดการเอื้อมเข้าไปจัดการงานของห้างโดยพลการ ซึ่งต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยจัดการงานนอกสั่ง ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าข้อฎีกาของจำเลยดังกล่าวไม่ใช่ปัญหาที่ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225,249 จะยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
of 35