พบผลลัพธ์ทั้งหมด 275 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รวมในที่ดินมรดก การแบ่งมรดก และสิทธิของเจ้าของรวม
หลังจากเจ้ามรดกตาย โจทก์จำเลยซึ่งเป็นบุตรของเจ้ามรดกและ ส. ซึ่งเป็นภรรยาของเจ้ามรดกได้ครอบครองที่ดินพิพาทซึ่งเป็นทรัพย์มรดกร่วมกัน ส่วนบุตรคนอื่นของเจ้ามรดกไม่ได้ร่วมครอบครองที่ดินพิพาทด้วย แม้ต่อมา ส. ได้รื้อบ้านออกไปปลูกในที่ดินแปลงอื่น ก็ถือว่าโจทก์จำเลยและ ส. ได้ครอบครองที่ดินพิพาทร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1748 การที่ส.ขอออกโฉนดที่ดินพิพาทโดยลงชื่อตนเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แต่ผู้เดียวในภายหลังโดยโจทก์ไม่ยินยอม ก็ถือว่าโจทก์ยังคงมีส่วนในที่ดินพิพาทนั้น 1 ใน 3 ส่วนอยู่เช่นเดิม ส.ไม่มีสิทธินำที่ดินพิพาทส่วนของโจทก์ไปยกให้จำเลย โจทก์ขอแบ่งที่ดินพิพาทที่ตนเป็นเจ้าของรวมจากจำเลย 1 ใน 3 ส่วนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3895/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: เจ้าของรวมฟ้องบุกรุกซ้ำหลังศาลตัดสินแล้ว
ส. ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของที่พิพาทร่วมกับโจทก์ทั้งสอง เคยฟ้องจำเลยทั้งสามในข้อหาบุกรุกที่พิพาท เป็นการใช้สิทธิของเจ้าของรวมเพื่อติดตามเอาที่พิพาทคืน เมื่อศาลฟังว่า ที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย พิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดโดยศาลฟังว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยแล้ว โจทก์ทั้งสองซึ่งเป๋นเจ้าของรวมจะฟ้องจำเลยทั้งสาม ขอให้แสดงว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์อีกไม่ได้ เพราะเป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3364/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักกลบลบหนี้ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าหนี้ และต้องไม่กระทบสิทธิเจ้าของรวม
จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ทั้งสี่โดยจำเลยยินยอมชำระค่าเสียหายให้โจทก์ทั้งสี่ แต่จำเลยมิได้ขอเอาหนี้ตามคดีแพ่งของศาลชั้นต้นที่จำเลยเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเฉพาะต่อโจทก์ที่ 4 มาขอหักกลบลบหนี้ด้วย เมื่อโจทก์ทั้งสี่เป็นเจ้าของรวมซึ่งต่างมีส่วนในหุ้นพิพาท และมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งจากหนี้ตามคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีนี้ ดังนั้นแม้ว่าจำเลยชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีเอาจากทรัพย์สินของโจทก์ที่ 4 ลูกหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยได้ก็ตามแต่จำเลยหามีสิทธิบังคับคดีให้กระทบกระทั่งถึงสิทธิของโจทก์ที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดีดังกล่าวได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 546/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินรวมก่อนแบ่งแยก การเริ่มนับระยะเวลาปรปักษ์
ที่ดินกรรมสิทธิ์รวมที่ยังมิได้มีการแบ่งแยกการครอบครองเป็นสัดส่วนนั้น เจ้าของรวมคนหนึ่งครอบครองที่ดินส่วนใด ย่อมถือว่าครอบครองแทนเจ้าของรวมคนอื่นด้วย จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการครอบครองอย่างเป็นเจ้าของตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๘๒เมื่อต่อมาได้ มีการจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินดังกล่าวให้แก่เจ้าของรวมแต่ละคนเป็นสัดส่วนแล้ว ระยะเวลาการครอบครองปรปักษ์จึงจะเริ่มนับตั้งแต่ มีการแบ่งแยกกันนั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4498/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของรวมทรัพย์สิน: สามีภรรยาไม่จดทะเบียนร่วมกันทำธุรกิจ เงินร่วมกันซื้อทรัพย์เป็นของทั้งสองร่วมกัน
ผู้ร้องกับจำเลยอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสได้ร่วมกันประกอบธุรกิจ และใช้เงินซึ่งทำมาหาได้ด้วยกันซื้อทรัพย์ที่โจทก์นำยึดทรัพย์ดังกล่าวจึงเป็นของผู้ร้องกับจำเลยร่วมกัน ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของรวมจึงร้องขัดทรัพย์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของรวม - การครอบครองแทน - สิทธิความเป็นเจ้าของ - อายุความ
โจทก์ซื้อที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์จากผู้มีชื่อซึ่งเป็นเจ้าของร่วมกันกับจำเลยโดยยังมิได้มีการแบ่งแยกกันเป็นส่วนสัด โจทก์ย่อมเข้าเป็นเจ้าของรวมในที่ดินดังกล่าวร่วมกับจำเลย การที่จำเลยครอบครองที่ดินทั้งแปลงจึงเป็นการครอบครองแทนโจทก์ แม้โจทก์จะมิได้เข้าครอบครองที่ดินนั้นเกินกว่า 1 ปีก็ตาม ก็ไม่ขาดสิทธิความเป็นเจ้าของ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดิน เจ้าของรวม สิทธิความเป็นเจ้าของ การครอบครองแทน
จำเลยและ ถ. เคยเป็นสามีภริยา มีชื่อ ร่วมกันเป็นเจ้าของที่ดินพิพาท ต่อมาเลิกเป็นสามีภริยากัน แต่ ถ. มิได้สละการครอบครองที่ดินพิพาท และยังคงครอบครองหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ดินพิพาทตลอดมา จึงมีสิทธิขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยและ ถ. ได้แบ่งแยกที่ดินพิพาทกันเป็นสัดส่วนการที่ นาย ถ. โอนขายที่ดินพิพาทเฉพาะส่วนของตนแก่โจทก์ โจทก์จึงเข้าเป็นเจ้าของรวมร่วมกับจำเลย การที่จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทจึงเป็นการครอบครองแทนโจทก์ แม้โจทก์มิได้เข้าครอบครองเกิน 1 ปีนับแต่วันซื้อโจทก์ก็ไม่ขาดสิทธิความเป็นเจ้าของที่ดินพิพาท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของรวม - ครอบครองแทน - อายุความ - สิทธิความเป็นเจ้าของ - ที่ดิน
โจทก์ซื้อที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์จากผู้มีชื่อซึ่งเป็นเจ้าของร่วมกันกับจำเลยโดยยังมิได้มีการแบ่งแยกกันเป็นส่วนสัด โจทก์ย่อมเข้าเป็นเจ้าของรวมในที่ดินดังกล่าวร่วมกับจำเลย การที่จำเลยครอบครองที่ดินทั้งแปลงจึงเป็นการครอบครองแทนโจทก์ แม้โจทก์จะมิได้เข้าครอบครองที่ดินนั้นเกินกว่า 1 ปีก็ตาม ก็ไม่ขาดสิทธิความเป็นเจ้าของ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4100/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รวมและการรอนสิทธิของเจ้าของรวม การปิดกั้นทางร่วมใช้ประโยชน์เป็นการโต้แย้งสิทธิ
โจทก์จำเลยและพวกรวม 11 คน เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งซึ่งใช้เป็นที่ปลูกบ้านอยู่อาศัย ทางทิศตะวันออกของที่ดินมีทางเดินและสะพานลงสู่แม่น้ำได้โจทก์และชาวบ้านละแวกนั้นใช้เป็นท่าน้ำท่าเรือ ข้ามฟากร่วมกันมานานหลายสิบปี เช่นนี้ การที่จำเลยทำรั้วปิดกั้นทางเดินพิพาท จึงทำให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของรวมได้รับความเดือดร้อน แม้จำเลยจะมีสิทธิใช้ทรัพย์สินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์รวมได้ แต่การใช้นั้นจะต้องไม่ขัดสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของรวมในที่ดินดังกล่าวผู้หนึ่งด้วย การกระทำของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนรั้วที่จำเลยกั้นไว้แต่โจทก์จะขอให้ศาลมีคำสั่งว่า ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้โจทก์มีสิทธิรื้อถอนรั้วที่จำเลยทำไว้ออกเสียโดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายไม่ได้ โจทก์ชอบที่จะขอต่อศาลให้มีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 ทวิ.
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนรั้วที่จำเลยกั้นไว้แต่โจทก์จะขอให้ศาลมีคำสั่งว่า ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้โจทก์มีสิทธิรื้อถอนรั้วที่จำเลยทำไว้ออกเสียโดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายไม่ได้ โจทก์ชอบที่จะขอต่อศาลให้มีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 ทวิ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4040/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกและสิทธิในการร้องขัดทรัพย์เมื่อมีการยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาด
โจทก์และจำเลยต่างมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์ในกองมรดกของ พ. แต่โจทก์จำเลยไม่สามารถแบ่งกันได้ การที่โจทก์ขอให้ศาลมีคำสั่งยึดที่ดินที่พิพาทออกขายทอดตลาดเป็นกรณีร้องขอให้ศาลกำหนดวิธีการแบ่งทรัพย์สินกันระหว่างโจทก์จำเลยผู้เป็นเจ้าของรวมตามป.พ.พ. มาตรา 1364 มิใช่เป็นการร้องขอให้บังคับคดีตาม ป.วิ.พ.ทั้งนี้เพราะโจทก์ก็ดี จำเลยก็ดี หาใช่เจ้าหนี้หรือลูกหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดตามป.พ.พ. มาตรา 288.