คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เหตุสมควร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 241 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 367/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดี: ศาลควรไต่สวนเหตุผลที่อ้างหากสมเหตุสมผล อาจยกเว้นการขาดนัดได้
คำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ของโจทก์อ้างว่ามิได้จงใจขาดนัด เพราะในวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์และทนายโจทก์มาศาลแล้ว แต่จำเลยไม่มาศาลจึงคิดว่าศาลคงเลื่อนคดี ทนายโจทก์จึงไปว่าความอีกศาลหนึ่ง ส่วนโจทก์แยกไปทำธุระโดยไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่หรือขออนุญาตจากศาล ดังนี้ ศาลชั้นต้นไม่ควรยกคำร้อง ชอบที่จะไต่สวนว่าเป็นความจริงหรือไม่ เพราะหากเป็นความจริงตามคำร้องก็ถือว่ามีเหตุสมควรที่จะยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 367/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดี: เหตุสมควรยกเลิกคำสั่งยกฟ้องและไต่สวนข้อเท็จจริง
คำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ของโจทก์อ้างว่า ในวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์และทนายโจทก์มาศาลตามกำหนดนัดแล้ว แต่คิดว่าศาลคงเลื่อนคดีเพราะจำเลยไม่มา ทนายโจทก์จึงไปว่าความอีกศาลหนึ่ง ส่วนโจทก์แยกไปทำธุระโดยไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่หรือขออนุญาตจากศาล ดังนี้ ศาลชั้นต้นไม่ควรยกคำร้อง ชอบที่จะไต่สวนว่าเป็นความจริงหรือไม่ เพราะหากเป็นความจริงตามคำร้อง ก็ถือว่ามีเหตุสมควรที่จะยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 179/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดี: จำเลยทราบวันนัดแล้ว การอ้างความผิดพลาดของทนาย ไม่ถือเป็นเหตุสมควร
เมื่อจำเลยทราบวันนัดสืบพยานโจทก์โดยชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183 ที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งให้ถือว่าคู่ความที่ไม่มาศาลในวันนัดชี้สองสถานได้ทราบกระบวนพิจารณาของศาลในวันนั้นแล้ว ศาลหาจำต้องหมายแจ้งวันนัดสืบพยานโจทก์ให้จำเลยทราบอีกไม่.
ข้ออ้างของจำเลยที่ว่า ทนายความคนเดิมพิมพ์หมายเลขคดีดำเกี่ยวกับวันนัดชี้สองสถานผิดพลาดจึงมาศาลตามนัดในคดีหมายเลขดำที่ผิดพลาดดังกล่าวนั้น เมื่อปรากฎว่าทนายจำเลยคนเดิมได้เซ็นทราบวันนัดชี้สองสถานไว้ในคำให้การในสำนวนแล้วจึงเป็นเรื่องที่จำเลยไม่เอาใจใส่ต่อคดีของตนเอง จะถือว่าจำเลยไม่จงใจขาดนัดพิจารณาอันจะรับฟังเป็นเหตุให้มีการพิจารณาใหม่หาได้ไม่.
คำร้องขอพิจารณาใหม่ กล่าวเพียงว่าจำเลยมีหลักฐานที่จะพิสูจน์ว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดตามฟ้อง มิได้กล่าวอ้างเหตุให้ชัดแจ้งว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ถูกต้องอย่างไร หากมีการพิจารณาใหม่ จำเลยจะชนะคดีได้อย่างไร เป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดบังคับคดีต้องมีเหตุที่ศาลเห็นสมควร และคดีอาญาไม่กระทบคำพิพากษาถึงที่สุด
การของดการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ.มาตรา293นั้นลูกหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องได้ฟ้องเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นคดีเรื่องอื่นซึ่งถ้าชนะคดีแล้วจะสามารถหักกลบลบหนี้กันได้การที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ฟ้องเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นคดีอาญาว่าสมคบกับเจ้าพนักงานที่ดินทำพยานเอกสารเท็จและเป็นคดีแพ่งฐานละเมิดให้ใช้ค่าเสียหายนั้นแม้ชนะคดีก็ไม่อาจนำมาหักกลบลบหนี้กับคดีที่ขอบังคับคดีได้ เนื่องจากคดีดังกล่าวศาลพิพากษาให้จำเลยกระทำการและงดเว้นกระทำการจึงมาของดการบังคับคดีตามมาตรา293ไม่ได้กรณีถือเป็นเรื่องที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาขอให้งดการบังคับคดีตามมาตรา292(2)ซึ่งเป็นอำนาจของศาลที่จะสั่งงดการบังคับคดีหรือไม่ก็ได้ และเมื่อศาลเห็นว่าคดีมีข้อเท็จจริงพอที่จะสั่งได้แล้วศาลก็ชอบที่จะสั่งไม่ให้งดการบังคับคดีไปได้เลยโดยไม่จำต้องทำการไต่สวนก่อนมาตรา21(4)แห่งป.วิ.พ.มิได้บังคับศาลว่าจะต้องทำการไต่สวนก่อนมีคำสั่งทุกเรื่องทุกคดีไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3949/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเลื่อนคดีโดยไม่มีเหตุอันสมควร และผลกระทบต่อการนำสืบพยานหลักฐานในศาล
การนัดสืบพยานโจทก์ตามที่ทนายจำเลยขอเลื่อนนั้น ทนายจำเลย เป็นผู้กำหนดขอให้ศาลชั้นต้นทำการสืบพยานโจทก์เอง และตาม คำร้องขอเลื่อนคดีของทนายจำเลยดังกล่าวได้อ้างเหตุว่าติดว่าความ ในคดีอื่น ซึ่งปรากฏว่าในคดีนั้นคู่ความมิได้แต่งตั้งทนายจำเลยคดีนี้ เป็นทนายความ ดังนี้การขอเลื่อนคดีของจำเลยจึงปราศจากมูลเหตุที่จะอ้าง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 บัญญัติห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานใด เว้นแต่คู่ความฝ่ายที่อ้างพยานหลักฐาน ได้แสดงความจำนงที่จะอ้างอิงพยานหลักฐานนั้นดังที่บัญญัติไว้ ในมาตรา 88 และ 90 ดังนี้เมื่อจำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาล ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวัน ตามมาตรา 88 จำเลยจึงไม่อาจ นำพยานหลักฐานหรือตนเองเข้าสืบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2745/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าฤชาธรรมเนียม: ดุลพินิจศาลพิจารณาเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้คดี แม้จำเลยไม่ต้องรับผิดตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องให้จำเลยร่วมกันรับผิดเป็นเงิน 187,031 บาทศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 รับผิดเป็นเงิน 139,000 บาทโดยให้จำเลยที่ 5 ร่วมรับผิดเป็นเงิน 100,000 บาท แม้จำเลยที่ 5 ไม่ต้องรับผิดเต็มตามฟ้อง แต่เมื่อคำนึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความประกอบกับพฤติการณ์ในการดำเนินคดีของ จำเลยที่ 5 แล้ว ศาลให้จำเลยที่ 5 ร่วมรับผิดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมเต็มตามฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2745/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าฤชาธรรมเนียมตามฟ้อง: ศาลมีดุลพินิจพิจารณาเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้คดีประกอบพฤติการณ์ดำเนินคดีได้
โจทก์ฟ้องให้จำเลยร่วมกันรับผิดเป็นเงิน187,031บาทศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่1รับผิดเป็นเงิน139,000บาทโดยให้จำเลยที่5ร่วมรับผิดเป็นเงิน100,000บาทแม้จำเลยที่5ไม่ต้องรับผิดเต็มตามฟ้องแต่เมื่อคำนึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความประกอบกับพฤติการณ์ในการดำเนินคดีของจำเลยที่5แล้วศาลให้จำเลยที่5ร่วมรับผิดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมเต็มตามฟ้องได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2576/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม การรับฟังพยาน และเหตุไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
จำเลยนำ ส. พยานจำเลยเข้าสืบยังไม่จบปากแล้วแถลงไม่ติดใจสืบพยานปากนี้อีกต่อไป แต่ศาลแรงงานกลางก็มิได้รับฟังคำเบิกความของส.โดยตรง เพราะยังมีพยานเอกสารและพยานบุคคลอีกหลายปากที่ศาลแรงงานกลางนำมาวินิจฉัย โดยไม่ว่าจะฟังคำเบิกความของ ส. หรือไม่ ก็ไม่ทำให้คำวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางเปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด อุทธรณ์ของโจทก์ที่ว่าศาลแรงงานกลางยอมรับคำเบิกความของ ส. มาวินิจฉัยเป็นการไม่ชอบเพราะโจทก์ไม่มีโอกาสซักค้าน จึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
การที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายขายคำนวณราคาต้นทุนสินค้าแล้วขาดทุนทุกครั้ง เป็นเพียงความสามารถที่จะทำให้เกิดผลในการงานเท่านั้นมิใช่โจทก์ทุจริตต่อหน้าที่หรือจงใจทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย ส่วนในเรื่องประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงนั้น ศาลแรงงานกลางมิได้ฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์กระทำโดยประมาท กรณีจึงไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นที่จำเลยจะไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
กรณีที่โจทก์ไม่ปฏิบัติงานตามระเบียบที่เคยปฏิบัติโดยไม่ยอมลงชื่อนำเงินไปฝากสถาบันการเงินที่จำเลยเคยฝากเป็นประจำ ดำเนินการประมูลงานไม่ได้ ข้อเสนอของโจทก์ไม่เป็นผลดีแก่จำเลยนั้น พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องความคิดเห็นในการทำงานซึ่งอาจถูกหรือผิด ได้ผลหรือไม่ได้ผล มิใช่เป็นเรื่องของการฝ่าฝืนข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงานหรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสมควรเลื่อนคดี: การป่วยของจำเลยและพยานที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน ไม่ถือว่าประวิงคดี
ในวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรกซึ่งจำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ทนายจำเลยยื่นคำร้องว่าจำเลยเดินทางไปทำธุรกิจที่จังหวัดเลย แล้วป่วยกะทันหันไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ ขอเลื่อนคดี โจทก์แถลงคัดค้านว่าจำเลยประวิงคดี และไม่มีพยานมาสืบ โจทก์มิได้คัดค้านโดยตรงว่าจำเลยมิได้ป่วย ทั้งมิได้คัดค้านว่าคำร้องของจำเลยไม่เป็นความจริงฟังได้ว่าจำเลยป่วยมีอาการท้องเดินและอ่อนเพลียมาศาลไม่ได้จริง นับว่าจำเลยมีเหตุจำเป็นในการขอเลื่อนคดี พยานจำเลยตามบัญชีพยานปรากฏว่านอกจากจำเลยอ้างตนเองแล้วมี ส. อีกเพียงคนเดียว แม้ ส. เป็นพยานซึ่งจำเลยมีหน้าที่นำมาเบิกความต่อศาลแต่จำเลยไม่นำมา ก็ได้ความว่าในวันนั้น ส. อยู่ที่จังหวัดเลยเช่นเดียวกันเมื่อคำนึงถึงเหตุที่จำเลยป่วยประกอบด้วยแล้ว การที่จำเลยไม่นำ ส. มาเบิกความยังถือไม่ได้ว่าจำเลยประวิงคดีและไม่มีพยานมาสืบ นอกจากนี้หากพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ในเนื้อหาของคดีประกอบกับประโยชน์แห่งความยุติธรรมด้วย กรณีมีเหตุสมควรให้จำเลยเลื่อนคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1038/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมาศาลตามกำหนดนัด: เหตุสมควรจากวัยชราและการค้นหาห้องพิจารณาคดี
ศาลอาญานัดไต่สวนมูลฟ้องเวลา 13.30 นาฬิกา ทนายโจทก์ซึ่งมีอายุ 73 ปี มาถึงศาลเวลา 13.30 นาฬิกา แล้วเสียเวลาไปกับการหาห้องพิจารณาซึ่งมีเป็นจำนวนมากประมาณ 30 นาที จึงพบ เมื่อทราบว่าศาลมีคำสั่งให้ยกฟ้องไปแล้วทนายโจทก์ก็ยื่นคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่ ในเวลาที่ใกล้เคียงกันกับที่ศาลมีคำสั่งนั้น กรณียังไม่อาจถือได้ว่าโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดโดยไม่มีเหตุสมควร
of 25