คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เอกสารปลอม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 368 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3196/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับมอบเอกสารปลอมและจ่ายเงินให้ผู้นำมาส่งมอบ มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด
จำเลยรับมอบเอกสารของกลางและจ่ายเงินให้ผู้นำมาส่งมอบโดยจำเลยทราบดีว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม ซึ่งแม้การที่จำเลยต้องจ่ายเงินเป็นค่าตอบแทนแก่ผู้นำมาส่งมอบจะทำให้น่าเชื่อว่าจำเลยมิได้มีส่วนร่วมในการปลอมเอกสารและรอยตราในเอกสาร การกระทำของจำเลยเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดอันเป็นความผิดฐานเป็นผู้ใช้ ตาม ป.อ. มาตรา 84 ข้อเท็จจริงฟังว่า จำเลยเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด ตามป.อ. มาตรา 84 แต่ฟ้องโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยในฐานตัวการร่วมกระทำผิด ตาม ป.อ. มาตรา 83 จึงแตกต่างจากที่ปรากฏในทางพิจารณาในสาระสำคัญ ลงโทษจำเลยฐานผู้ใช้ไม่ได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสองแต่การกระทำของจำเลยซึ่งยังถือได้ว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ผู้กระทำผิด ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ตาม ป.อ. มาตรา 86 ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 123/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แม้โจทก์ไม่อุทธรณ์ แต่จำเลยอุทธรณ์เรื่องเอกสารปลอม ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยได้
แม้โจทก์ไม่ได้อุทธรณ์เกี่ยวกับสัญญากู้เอกสารหมาย จ.2แต่จำเลยเองเป็นฝ่ายอุทธรณ์ว่าสัญญากู้เอกสารหมาย จ.2 เป็นเอกสารปลอมเพราะจำเลยลงลายมือชื่อในสัญญากู้โดยไม่ได้กรอกข้อความอื่นใดไว้ ดังนี้จึงมีประเด็นให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยได้ว่าสัญญากู้เอกสารหมาย จ.2 ปลอมหรือไม่ เมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเชื่อ ว่าสัญญากู้เอกสารหมาย จ.2 ไม่ปลอมและบังคับตามสัญญาจึงเป็นการชอบแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 123/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์ในการวินิจฉัยเอกสารปลอม แม้โจทก์มิได้อุทธรณ์ ศาลมีอำนาจวินิจฉัยได้หากจำเลยอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยกู้เงินโจทก์เพียง 40,000 บาท ไม่ใช่68,000 บาท ดังโจทก์ฟ้อง แม้โจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ในข้อนี้แต่จำเลยเป็นฝ่ายอุทธรณ์ว่าสัญญากู้เป็นเอกสารปลอม เพราะจำเลยลงลายมือชื่อในสัญญากู้โดยไม่ได้กรอกข้อความอื่นใดไว้ จึงมีประเด็นให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยได้ว่าสัญญากู้ปลอมหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5466/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารปลอมและตั๋วเงินปลอม การพิจารณาโทษและการปรับบทลงโทษตามกฎหมายอาญา
คำว่า "เอกสารราชการ" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(8) หรือมาตรา 265 หมายถึง เอกสารของราชการไทยเท่านั้น
การที่จำเลยนำหนังสือเดินทางปลอมและเช็คเดินทางปลอมไปแสดงต่อพนักงานจ่ายเงินและรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารในคราวเดียวกันเพื่อขอแลกเงินตามเช็คเดินทางปลอมนั้น เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษ
ส่วนปัญหาการปรับบทลงโทษ แม้จำเลยจะมิได้ฎีกา แต่เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง และพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยซึ่งมิได้ฎีกาด้วยเพราะเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5466/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารราชการ/เอกสารปลอม, ปลอมและใช้ตั๋วเงิน, รับของโจร: การตีความ 'เอกสารราชการ' และการลงโทษกรรมเดียว
คำว่า "เอกสารราชการ" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(8) หรือมาตรา 265 หมายถึง เอกสารของราชการไทยเท่านั้น การที่จำเลยนำหนังสือเดินทางปลอมและเช็คเดินทางปลอมไปแสดงต่อพนักงานจ่ายเงินและรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารในคราวเดียวกันเพื่อขอแลกเงินตามเช็คเดินทางปลอมนั้น เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษ ส่วนปัญหาการปรับบทลงโทษ แม้จำเลยจะมิได้ฎีกา แต่เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง และพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยซึ่งมิได้ฎีกาด้วยเพราะเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5103/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการนำสืบพยานเมื่อถูกกล่าวหาว่าเอกสารปลอม และอำนาจศาลในการวินิจฉัยข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำปลอมหนังสือมอบอำนาจว่าผู้ตายให้จำเลยโอนขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทให้จำเลย จำเลยให้การต่อสู้ว่าหนังสือมอบอำนาจของผู้ตายเป็นหนังสือมอบอำนาจที่ถูกต้องแท้จริงอันมีเหตุอยู่ในตัวแล้วว่า หนังสือมอบอำนาจดังกล่าวไม่ใช่เอกสารปลอมและได้ให้การไว้ในตอนต้นถึงเหตุที่ผู้ตายโอนขายที่ดินพิพาทให้แก่ จำเลยเพราะเดิมผู้ตายถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทแทนบิดาและจำเลยคำให้การของจำเลยได้อ้างเหตุแห่งการ ปฏิเสธไว้แล้ว จำเลยจึงมีสิทธินำพยานเข้าสืบว่า หนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องเป็นเอกสารที่แท้จริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4954/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารปลอมขอคืนภาษี ก่อให้เกิดความเสียหายแก่กรมสรรพากร จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานร่วมกับจำเลยที่ 1
การที่จำเลยที่ 2 นำบิลเงินสดซึ่งตนรู้อยู่ว่าเป็นเอกสารปลอมไปแสดงต่อกรมสรรพากรพร้อมกับให้ถ้อยคำประกอบเพื่อขอเงิน ภาษีคืนจากกรมสรรพากร จนกรมสรรพากรคืนเงินภาษีอากรให้แก่จำเลยที่ 1ผู้มอบอำนาจให้จำเลยที่ 2 ไปกระทำการดังกล่าว การกระทำของจำเลยถือว่า เกิดความเสียหายแก่กรมสรรพากรแล้ว จำเลยที่ 2ต้องรับผิดฐานร่วมกับจำเลยที่ 1 ใช้เอกสารปลอมด้วย
โทษปรับนิติบุคคลจะกักขังแทนเงินไม่ได้ จึงจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 เท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4954/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารปลอมขอคืนภาษี การกระทำผิดร่วมกัน และความรับผิดของสมุห์บัญชี
การที่จำเลยที่ 2 นำบิลเงินสดซึ่งตนรู้อยู่ว่าเป็นเอกสารปลอมไปแสดงต่อกรมสรรพากรพร้อมกับให้ถ้อยคำประกอบเพื่อขอเงินภาษีคืนจากกรมสรรพากร จนกรมสรรพากรคืนเงินภาษีอากรให้แก่จำเลยที่ 1ผู้มอบอำนาจให้จำเลยที่ 2 ไปกระทำการดังกล่าว การกระทำของจำเลยถือว่า เกิดความเสียหายแก่กรมสรรพากรแล้ว จำเลยที่ 2ต้องรับผิดฐานร่วมกับจำเลยที่ 1 ใช้เอกสารปลอมด้วย โทษปรับนิติบุคคลจะกักขังแทนเงินไม่ได้ จึงจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 เท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4747/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับของโจร-ใช้เอกสารปลอม: การกระทำความผิดกรรมเดียวเมื่อมีเจตนาหลอกลวงเพื่อเอาเงิน
จำเลยรับตั๋วเงินเช็คเดินทางไว้คราวเดียวกัน 19 ฉบับ โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ แม้ภายหลังจำเลยจะแยกใช้ตั๋วเงินเช็คเดินทางดังกล่าวเป็น 2 ครั้ง ก็เป็นความผิดฐานรับของโจรเพียงกรรมเดียว เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยฐานรับของโจรในคดีก่อนเสร็จเด็ดขาดแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานรับของโจรเป็นคดีนี้ซ้ำอีก เพราะสิทธิฟ้องคดีอาญาของโจทก์ระงับลงแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(4)
การที่จำเลยใช้ตั๋วเงินเช็คเดินทางปลอม 13 ฉบับ รวมเป็นเงิน12,585 บาท และใช้หนังสือเดินทางปลอมในคราวเดียวกัน เพื่อขอแลกเงินจากผู้เสียหาย เป็นการกระทำโดยมีเจตนาเพื่อหลอกลวงเอาเงินจำนวนดังกล่าวจากผู้เสียหายเพียงประการเดียว จึงเป็นความผิดกรรมเดียว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4747/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับของโจร & ความผิดฐานใช้เอกสารปลอม: การกระทำผิดกรรมเดียว vs. หลายกรรม
การกระทำความผิดฐานรับของโจรโดยได้รับทรัพย์ไว้เพื่อช่วยจำหน่ายโดยรู้ว่าเป็นทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิด เป็นความผิดสำเร็จทันทีตั้งแต่เวลาที่ผู้กระทำรับทรัพย์นั้นไว้ในความครอบครองหลังจากนั้นถึงแม้ว่าผู้กระทำจะได้แยกทรัพย์ที่รับไว้ออกใช้หรือจำหน่ายประการใดก็หาใช่การกระทำความผิดฐานรับของโจรทรัพย์ที่ได้รับไว้นั้นขึ้นอีกไม่ จำเลยรับตั๋วเงิน เช็คเดินทางในคดีนี้และคดีก่อนไว้ในคราวเดียวกันจึงเป็นการกระทำความผิดฐานรับของโจรเพียงครั้งเดียวเมื่อศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยในคดีก่อนเสร็จเด็ดขาดไปแล้วโจทก์จึงไม่มีสิทธินำการกระทำนั้นมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยซ้ำอีกเพราะสิทธิฟ้องคดีอาญาสำหรับการกระทำผิดดังกล่าวระงับลงแล้วตามป.วิ.อ. มาตรา 39(4) จำเลยใช้ตั๋วเงิน เช็คเดินทางปลอมจำนวน 13 ฉบับ เพื่อขอแลกเงินจากผู้เสียหาย และใช้หนังสือเดินทางปลอมเพื่อแสดงตนเป็นบุคคลอื่นซึ่งเป็นเจ้าของตั๋วเงินเช็คเดินทางดังกล่าวหลอกลวงผู้เสียหายในคราวเดียวกัน จำเลยมีความประสงค์โดยตรงที่จะหลอกลวงเอาเงินจากผู้เสียหายเป็นสำคัญยิ่งกว่าใช้หนังสือเดินทางและตั๋วเงินเช็คเดินทางเป็นรายฉบับ จึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาอันเดียวเท่านั้น คือ เพื่อหลอกลวงเอาเงินตามตั๋วเงิน เช็คเดินทางทั้งหมดเป็นจำนวนเดียวกันเป็นการกระทำความผิดฐานใช้เอกสารปลอมกรรมเดียวกัน.
of 37