พบผลลัพธ์ทั้งหมด 382 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5426/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการแก้ไขคำให้การ: ทนายยื่นคำให้การเป็นหนังสือ จำเลยแก้ไขไม่ได้
ตามป.วิ.พ. มาตรา 62 วรรคสอง เป็นกรณีที่ตัวความจะปฏิเสธหรือแก้ไขข้อเท็จจริงที่ทนายความของตนได้กล่าวด้วยวาจาต่อหน้าตนในศาลเท่านั้น เมื่อปรากฏว่าทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำให้การต่อสู้คดีเป็นหนังสือจำเลยทั้งสองจึงไม่อาจปฏิเสธหรือแก้ไขข้อเท็จจริงตามคำให้การนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5083/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่อาจโต้แย้งดุลพินิจศาลชั้นต้นในข้อหาพาอาวุธปืน และแก้ไขค่าเสียหายปล้นทรัพย์
ข้อหาพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯและ ป.อ. มาตรา 371 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด จำคุกคนละ 4 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยทั้งสามมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 371 ปรับคนละ 60 บาท จึงเป็นการแก้ไขมาก แต่เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำเลยไม่เกินกำหนดที่ว่ามานั้น อีกทั้งมิได้พิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลยด้วย จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 219 จึงต้องห้ามมิให้จำเลยทั้งสามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4875/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพมีผลต่อการลดโทษ และอำนาจศาลฎีกาแก้ไขบทลงโทษที่ศาลล่างใช้ผิด
จำเลยให้การรับสารภาพในความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยโดยมิได้ลดโทษให้ จำเลยมิได้อุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องในความผิดฐานนี้ คงเพียงแต่อุทธรณ์ขอให้ลดโทษให้จำเลยเมื่อศาลอุทธรณ์ วินิจฉัยความผิดของจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 และพิพากษายืน จำเลยจะฎีกาขอให้ยกฟ้องในความผิดฐานนี้อีกไม่ได้ เพราะความผิดฐานนี้ถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามมาตรา 245 แล้วทั้งยังขัดต่อคำรับสารภาพของจำเลย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย แม้เฮโรอีนของกลางมีปริมาณมาก แต่จำเลยให้การรับสารภาพตลอดมาตั้งแต่ชั้นจับกุมทำให้การพิจารณาวินิจฉัยคดีเป็นไปโดยสะดวกนับเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ถือได้ว่ามีเหตุบรรเทาโทษตามกฎหมาย ความผิดฐานพาอาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาตนั้น ศาลชั้นต้นมิได้ระบุวรรคในตัวบทมาตราที่ใช้ปรับบทลงโทษและศาลอุทธรณ์มิได้แก้ไขแม้ไม่มีฝ่ายใดฎีกาขึ้นมาศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้ไขให้ถูกต้องได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3744/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการแก้ไขข้อบกพร่องของใบมอบอำนาจก่อนพิพากษาเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
แม้การที่บริษัทโจทก์มอบอำนาจให้ผู้แทนฟ้องคดีโดยกรรมการสองคนลงลายมือชื่อในใบมอบอำนาจโดยไม่ได้ประทับตราสำคัญของบริษัทโจทก์ ทำให้ใบมอบอำนาจนั้นไม่สมบูรณ์ก็ตามแต่ก่อนพิพากษาศาลย่อมมีอำนาจให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องเกี่ยวกับใบมอบอำนาจให้ฟ้องและดำเนินคดีแทนได้ตามที่เห็นสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม โดยสั่งให้โจทก์ทำใบมอบอำนาจที่สมบูรณ์เข้ามาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3048/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าอ้างเอกสารที่ค้างชำระไม่ทำให้การรับฟังพยานเอกสารเสียไป หากมีการแก้ไขก่อนยื่นอุทธรณ์
โจทก์ลืมเสียค่าอ้างเอกสารและศาลชั้นต้นก็มิได้สั่งให้โจทก์จัดการชำระค่าอ้างเอกสารนั้น การที่โจทก์ทราบภายหลังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีแล้วและโจทก์ได้จัดการชำระค่าอ้างเอกสารขณะโจทก์ยื่นคำแก้อุทธรณ์ นับว่าโจทก์ได้จัดการแก้ไขข้อหลงลืมแล้ว ไม่ทำให้การรับฟังพยานเอกสารของโจทก์เสียไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3048/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระค่าอ้างเอกสารล่าช้า ไม่กระทบการรับฟังพยานหลักฐาน หากมีการแก้ไขก่อนยื่นอุทธรณ์
โจทก์ลืมเสียค่าอ้างเอกสารและศาลชั้นต้นก็มิได้สั่งให้โจทก์จัดการชำระค่าอ้างเอกสารนั้น การที่โจทก์ทราบภายหลังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีแล้วและโจทก์ได้จัดการชำระค่าอ้างเอกสารขณะโจทก์ยื่นคำแก้อุทธรณ์ นับว่าโจทก์ได้จัดการแก้ไขข้อหลงลืมแล้ว ไม่ทำให้การรับฟังพยานเอกสารของโจทก์เสียไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2335/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรับบทลงโทษผิดพลาดในคดีอาวุธปืน ศาลฎีกาแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
ศาลอุทธรณ์ปรับบทลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ มาตรา 78โดยระบุวรรคหนึ่ง ซึ่งไม่ถูกต้องเพราะมาตราดังกล่าวที่ใช้บังคับขณะเกิดเหตุบัญญัติไว้เพียงวรรคเดียว ศาลฎีกาแก้ไขให้ถูกต้องได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2163/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารปลอมและการบังคับคดี: สัญญาที่ถูกแก้ไขโดยไม่ได้รับความยินยอม
การที่โจทก์เขียนข้อความในสัญญากู้เกินกว่าจำนวนหนี้ที่เป็นจริงโดย จำเลยไม่ได้รู้เห็นยินยอมด้วย สัญญากู้ดังกล่าวย่อมเป็นเอกสารปลอม ใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องร้องบังคับคดีหาได้ไม่ และแม้ขณะโจทก์เขียนสัญญากู้ จำเลยจะได้กู้ยืมเงินโจทก์ไปจำนวนหนึ่งจริง ศาลก็จะบังคับให้จำเลยชำระหนี้นั้นโดยอาศัยสัญญากู้นี้ไม่ได้
แม้สัญญากู้ที่โจทก์นำมาฟ้องจะระบุว่าจำเลยได้รับเงินที่กู้ไปครบถ้วนแล้วก็ตาม แต่เมื่อจำเลยได้ให้การต่อสู้คดีไว้ว่าสัญญากู้ดังกล่าวเป็นสัญญาที่โจทก์ปลอมแปลงโดยกรอกข้อความและจำนวนเงินที่กู้ผิดจากที่กู้กันจริงโดย จำเลยไม่ได้รู้เห็นยินยอมด้วย เช่นนี้ จำเลยย่อมมีสิทธินำสืบพยานบุคคลตามข้อต่อสู้ของตนได้ตามป.วิ.พ. มาตรา 94 วรรคท้าย กรณีหาใช่เป็นการนำสืบเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในสัญญากู้ไม่
แม้สัญญากู้ที่โจทก์นำมาฟ้องจะระบุว่าจำเลยได้รับเงินที่กู้ไปครบถ้วนแล้วก็ตาม แต่เมื่อจำเลยได้ให้การต่อสู้คดีไว้ว่าสัญญากู้ดังกล่าวเป็นสัญญาที่โจทก์ปลอมแปลงโดยกรอกข้อความและจำนวนเงินที่กู้ผิดจากที่กู้กันจริงโดย จำเลยไม่ได้รู้เห็นยินยอมด้วย เช่นนี้ จำเลยย่อมมีสิทธินำสืบพยานบุคคลตามข้อต่อสู้ของตนได้ตามป.วิ.พ. มาตรา 94 วรรคท้าย กรณีหาใช่เป็นการนำสืบเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในสัญญากู้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2052/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม: การฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์แก้ไขเฉพาะอัตราโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐาน มีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 6 เดือน ฐาน จำหน่ายกัญชา จำคุก 2 เดือนโจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยฐาน มีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 1 ปี ฐาน จำหน่ายกัญชาจำคุก 1 ปี โดย พิพากษาแก้เฉพาะ อัตราโทษ ส่วนบทลงโทษคงเดิมเพียงแต่ ระบุวรรคให้ชัดเจน เป็นการแก้ไขเล็กน้อย จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคแรก จำเลยฎีกาว่า จำเลยมีกัญชาไว้ในครอบครองโดย ไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อจำหน่าย กับขอให้รอการลงโทษจำเลย เป็นการฎีกาโต้เถียง ในข้อเท็จจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2051/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษจากครอบครองเพื่อจำหน่ายเป็นเพียงครอบครอง ศาลฎีกาไม่รับฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐาน มีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 76ลดโทษแล้วจำคุก 2 ปี 8 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษฐาน มีกัญชาไว้ในครอบครองโดย ไม่ได้รับอนุญาตตาม มาตรา 76 วรรคแรกซึ่ง เป็นมาตราเดียว กัน ลดโทษแล้วคงจำคุก 1 ปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้าม ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคแรก.