พบผลลัพธ์ทั้งหมด 154 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินที่ได้มาหลังแต่งงานถือเป็นสินสมรส การโอนโดยไม่ยินยอมสามีเป็นโมฆียะ
หญิงที่ทำนาของบิดามารดามาก่อนแต่ได้รับโอนโฉนดใส่ชื่อตนเมื่อภายหลังได้กับสามี ดังนี้ถือว่าที่ดินนั้นเป็นสินสมรสและสินบริคนห์ หากภรรยาเอาไปโอนโดยสามีมิได้รู้เห็นยินยอมด้วยนิติกรรมเป็นโมฆียะ เมื่อสามีบอกล้างแล้วเป็นโมฆะ และสามีย่อมฟ้องทำลายสัญญาโอนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินโอนหลังแต่งงานเป็นสินสมรส แม้ทำนามาก่อน หากโอนโดยสามีไม่ยินยอมนิติกรรมเป็นโมฆียะ
หญิงที่ทำนาของบิดามารดามาก่อนแต่ได้รับโอนโฉนดใส่ชื่อตนเมื่อภายหลังได้กับสามี ดังนี้ถือว่าที่ดินนั้นเป็นสินสมรสและสินบริคณห์ หากภรรยาเอาไปโอนโดยสามีมิได้รู้เห็นยินยอมด้วยนิติกรรมเป็นโมฆียะ เมื่อสามีบอกล้างแล้วเป็นโมฆะ และสามีย่อมฟ้องทำลายสัญญาโอนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 215/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยรับทำสัญญาซื้อขายที่ดิน แม้ต่อสู้เรื่องโมฆียะ ศาลฎีกายืนตามศาลล่างว่าจำเลยผิดสัญญา
จำเลยทำสัญญาขายที่ให้โจทก์แต่โจทก์ขอให้โอนแก่คนภายนอก ฝ่ายจำเลยไม่ยอมโอนให้โจทก์หรือคนภายนอกดังนี้ ก็ต้องถือว่าจำเลยผิดสัญญา
จำเลยไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำหนังสือสัญญาเป็นแต่ต่อสู้ว่าสัญญาเป็นโมฆียะดังนี้ ต้องถือว่ามีประเด็นฉะเพาะว่าเป็นโมฆียะหรือไม่ ส่วนข้อที่ว่าจำเลยทำสัญญาจริงหรือไม่ต้องถือว่าจำเลยรับ
คดีที่ไม่ต้องห้ามฎีกานั้นถ้าศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาฉะเพาะข้อกฎหมายศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัยฎีกาที่เป็นข้อเท็จจริง
จำเลยไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำหนังสือสัญญาเป็นแต่ต่อสู้ว่าสัญญาเป็นโมฆียะดังนี้ ต้องถือว่ามีประเด็นฉะเพาะว่าเป็นโมฆียะหรือไม่ ส่วนข้อที่ว่าจำเลยทำสัญญาจริงหรือไม่ต้องถือว่าจำเลยรับ
คดีที่ไม่ต้องห้ามฎีกานั้นถ้าศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาฉะเพาะข้อกฎหมายศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัยฎีกาที่เป็นข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 114/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้เงินโดยไม่ได้รับความยินยอมของคู่สมรส ทำให้สัญญานั้นเป็นโมฆียะ และเจ้าหนี้มีสิทธิเรียกร้องจากสินสมรส
หญิงมีสามีกู้เงินโดยไม่ได้รับความยินยอมของสามีสัญญานั้นเป็นโมฆียะเมื่อสามีบอกล้างนิติกรรมนั้นแล้วหญิงก็ต้องรับผิดเป็นส่วนตัวซึ่งเจ้าหนี้ฟ้องขอแยกสินบริคณห์เพื่อเอาชำระหนี้ได้
เมื่อคดีไม่ปรากฏว่าเป็นสามีภรรยากันมาก่อนหรือหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ศาลย่อมแบ่งสินสมรสให้สามีภรรยานั้นคนละครึ่ง
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2488
เมื่อคดีไม่ปรากฏว่าเป็นสามีภรรยากันมาก่อนหรือหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ศาลย่อมแบ่งสินสมรสให้สามีภรรยานั้นคนละครึ่ง
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2488
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมฟ้องคดีสินบริคณห์ สัญญายอมความต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของสิทธิ หากมิได้ ย่อมเป็นโมฆียะ
สามีอนุญาตให้ภรรยาฟ้องความเกี่ยวกับสินบริคณห์ ภรรยาทำยอมความโดยมิได้รับความยินยอมจากสามี สัญญายอมความเช่นนี้เป็นโมฆียะ สามีบอกล้างเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินโดยบุคคลวิกลจริตและผลกระทบต่อผู้ซื้อโดยสุจริต
ได้ที่ดินมาโดยหลอกลวงให้เขาทำโอนยกให้ แล้วเอาไปขายให้ผู้อื่น ผู้ซื้อรับไว้โดยสุจริตแลโดยมีค่าตอบแทน ย่อมได้ที่นั้นเป็นกรรมสิทธิ นิติกรรมที่บุคคลวิกลจริตทำไปโดยคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งก็ทราบด้วยนั้น เป็นโมฆียะกรรมตาม ม.32
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 675/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้เงินภรรยาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสามี: โมฆียะและผลกระทบต่อสินบริคณห์
เมียไปกู้เงินมาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผัว การกู้เปนโมฆียะถ้าผัวบอกล้าง การกู้เปนโมฆะ สินบริคณห์ไม่ต้องรับผิดชอบด้วยผัวบอกล้างเมื่ออย่ากันแล้วได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1166/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สินบริคณห์ สินสมรส การทำนิติกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากคู่สมรส สัญญาโมฆียะ
อย่างไรเรียกว่าสินบริคณห์ หญิงมีสามีจะทำนิติกรรมผูกพันสินบริคณห์ จะต้องได้รับอนุญาตจากสามีก่อน มิฉะนั้นเปนโมฆิยะ สัญญาขายฝาก การขายฝากก่อนประมวลแพ่ง กรรมสิทธิในทรัพย์ยังอยู่แก่เจ้าของเดิมที่ดิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 918-920/2471
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันภัย: การปิดบังข้อเท็จจริงและผลกระทบต่อโมฆียะของสัญญา
ที่สัญญาประกันไฟวิธีพิจารณาแพ่งย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3246-3250/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปกปิดข้อความจริงในการทำสัญญาประกันภัย ทำให้สัญญาสัญญาประกันภัยเป็นโมฆียะ ผู้รับประกันภัยบอกล้างสัญญาได้
สัญญาประกันภัยเป็นสัญญาที่ต้องการความสุจริตหรือความไว้วางใจระหว่างคู่สัญญาเป็นสำคัญ ฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันภัยที่จะต้องเปิดเผยข้อความจริงให้ผู้รับประกันภัยรับรู้ ขณะที่ ส. ขอทำสัญญาประกันภัยกับจำเลยทั้งห้า ส. ได้เอาประกันภัยกับผู้รับประกันภัยรายอื่นอีกนับสิบรายเป็นจำนวนหลายสิบกรมธรรม์ รวมเป็นจำนวนเงินเอาประกันภัยกว่า 47 ล้านบาท ย่อมถือได้ว่า ส. เป็นบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากการขอเอาประกันภัยไว้เป็นจำนวนเงินที่สูง โดยไม่ปรากฏหลักฐานว่าเหมาะสมกับฐานะหรืออาชีพของ ส. หรือไม่อย่างไร และอาจมีมูลเหตุไปในทางไม่สุจริต การเอาประกันภัยกับผู้รับประกันภัยรายอื่นจึงถือเป็นสาระสำคัญที่ ส. ต้องเปิดเผยข้อความจริงดังกล่าวให้จำเลยทั้งห้าทราบ เพราะอาจจูงใจให้จำเลยทั้งห้าเรียกเบี้ยประกันภัยสูงขึ้นหรือบอกปัดไม่รับประกันภัยอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้การที่จำเลยทั้งห้ายอมตกลงเข้าทำประกันภัยตามฟ้องกับ ส. จึงเกิดจากความไม่สุจริตของ ส. ที่ไม่เปิดเผยข้อความจริงอันเป็นสาระสำคัญ สัญญาประกันภัยตามฟ้องย่อมตกเป็นโมฆียะ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 865 วรรคหนึ่ง เมื่อจำเลยทั้งห้าบอกล้างโดยชอบแล้ว สัญญาประกันภัยจึงตกเป็นโมฆะ