พบผลลัพธ์ทั้งหมด 391 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4428/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ไม่สามารถบังคับคดีได้ แม้จะมีพยานเบิกความยืนยัน
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 2 รับผิดตามสัญญาค้ำประกัน จำเลยที่ 2ขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องพิสูจน์ว่าจำเลยที่ 2เป็นค้ำประกันตามฟ้อง แม้จำเลยที่ 1 เบิกความว่าจำเลยที่ 2เป็นค้ำประกัน โจทก์ยังคงมีหน้าที่ต้องพิสูจน์เช่นเดิม เมื่อสัญญาค้ำประกันปิดอากรแสตมป์ไม่ครบบริบูรณ์ เป็นเอกสารต้องห้ามมิให้รับฟังเป็นพยานหลักฐานตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 มีผลเท่ากับไม่มีปัญญาค้ำประกันเป็นหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ โจทก์จึงฟ้องให้บังคับคดีแก่จำเลยที่ 2 ไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา680 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4428/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย และหน้าที่การพิสูจน์ของโจทก์
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 2 รับผิดตามสัญญาค้ำประกัน จำเลยที่ 2ขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องพิสูจน์ว่าจำเลยที่ 2เป็นผู้ค้ำประกันตามฟ้อง แม้จำเลยที่ 1 เบิกความว่าจำเลยที่ 2เป็นผู้ค้ำประกัน โจทก์ยังคงมีหน้าที่ต้องพิสูจน์เช่นเดิม เมื่อสัญญาค้ำประกันปิดอากรแสตมป์ไม่ครบบริบูรณ์ เป็นเอกสารต้องห้ามมิให้รับฟังเป็นพยานหลักฐานตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 มีผลเท่ากับไม่มีสัญญาค้ำประกันเป็นหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ โจทก์จึงฟ้องให้บังคับคดีแก่จำเลยที่ 2 ไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 680วรรคสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3284/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิเรียกร้องที่ไม่สมบูรณ์: เจตนาที่แท้จริงคือการรับชำระหนี้จากลูกหนี้เดิม ไม่ใช่การโอนสิทธิ
โจทก์อ้างว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด จ. และห้างหุ้นส่วนจำกัด บ. ได้โอนสิทธิเรียกร้องเงินค่าปอที่ห้างทั้งสองขายปอให้จำเลยให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้เงินกู้ และการโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวสมบูรณ์แล้วเพราะโจทก์ได้มีหนังสือแจ้งการโอนไปยังจำเลย แต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าหลังจากโจทก์มีหนังสือแจ้งดังกล่าวแล้วโจทก์ก็ยังปฏิบัติเป็นการรับรู้และรับรองสิทธิในการรับเงินค่าปอของห้างทั้งสองที่มีต่อจำเลยโดยมิได้มีการโต้แย้ง ทั้งยังมิได้ตั้งเอาไว้ในบัญชีของโจทก์ว่า จำเลยเป็นลูกหนี้ของโจทก์ ยังถือว่าห้างทั้งสองเป็นลูกหนี้ของโจทก์อยู่อย่างเดิม มูลหนี้เดิมมีอยู่เท่าใดก็มิได้ลดลงไปตามจำนวนสิทธิที่อ้างว่าได้รับโอนมา ประกอบกับโจทก์มีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นเจตนาอันแท้จริงของโจทก์ว่าโจทก์อาศัยอำนาจความเป็นเจ้าหนี้ของห้างทั้งสองติดตามรับเงินเพื่อเป็นการชำระหนี้ของโจทก์เท่านั้น กรณีจึงถือไม่ได้ว่าเป็นการโอนสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3284/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิเรียกร้องหนี้ค่าปอที่ไม่สมบูรณ์ แม้มีการแจ้งการโอน แต่เจตนาจริงคือติดตามหนี้จากลูกหนี้เดิม
โจทก์อ้างว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดจ. และห้างหุ้นส่วนจำกัด บ.ได้โอนสิทธิเรียกร้องเงินค่าปอที่ห้างทั้งสองมีต่อจำเลยให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้เงินกู้ และการโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวสมบูรณ์เพราะโจทก์ได้มีหนังสือแจ้งการโอนไปยังจำเลยแล้ว แต่หลังจากโจทก์มีหนังสือแจ้งดังกล่าวแล้ว ห้างทั้งสองก็ยังคงรับเงินค่าปอจากจำเลยโดยโจทก์รับรู้และรับรองสิทธิในการรับเงินค่าปอของห้างทั้งสองโดยมิได้มีการโต้แย้ง ทั้งมิได้ตั้งไว้ในบัญชีของโจทก์ว่าจำเลยเป็นลูกหนี้ของโจทก์ แต่ยังถือว่าห้างทั้งสองเป็นลูกหนี้ของโจทก์อยู่อย่างเดิม มูลหนี้เดิมมีอยู่เท่าใดก็มิได้ลดลงไปตามจำนวนสิทธิที่อ้างว่าได้รับโอนมา ประกอบกับโจทก์มีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นเจตนาอันแท้จริงของโจทก์ว่า โจทก์อาศัยอำนาจความเป็นเจ้าหนี้ของห้างทั้งสองติดตามรับเงินเพื่อเป็นการชำระหนี้ของโจทก์เท่านั้น กรณีจึงถือไม่ได้ว่าเป็นการโอนสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะเรียกให้จำเลยชำระหนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3284/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิเรียกร้องที่ไม่สมบูรณ์ การปฏิบัติระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้แสดงเจตนาที่แท้จริง
โจทก์อ้างว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด จ. และห้างหุ้นส่วนจำกัด บ. ได้โอนสิทธิเรียกร้องเงินค่าปอที่ห้างทั้งสองขายปอให้จำเลยให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้เงินกู้ และการโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวสมบูรณ์แล้วเพราะโจทก์ได้มีหนังสือแจ้งการโอนไปยังจำเลย แต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าหลังจากโจทก์มีหนังสือแจ้งดังกล่าวแล้วโจทก์ก็ยังปฏิบัติเป็นการรับรู้และรับรองสิทธิในการรับเงินค่าปอของห้างทั้งสองที่มีต่อจำเลยโดยมิได้มีการโต้แย้ง ทั้งยังมิได้ตั้งเอาไว้ในบัญชีของโจทก์ว่า จำเลยเป็นลูกหนี้ของโจทก์ ยังถือว่าห้างทั้งสองเป็นลูกหนี้ของโจทก์อยู่อย่างเดิม มูลหนี้เดิมมีอยู่เท่าใดก็มิได้ลดลงไปตามจำนวนสิทธิที่อ้างว่าได้รับโอนมา ประกอบกับโจทก์มีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นเจตนาอันแท้จริงของโจทก์ว่าโจทก์อาศัยอำนาจความเป็นเจ้าหนี้ของห้างทั้งสองติดตามรับเงินเพื่อเป็นการชำระหนี้ของโจทก์เท่านั้น กรณีจึงถือไม่ได้ว่าเป็นการโอนสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3125/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือสัญญาค้ำประกันไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ทำให้ใช้เป็นหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดตามหนังสือสัญญาค้ำประกัน จำเลยให้การต่อสู้ว่าได้ลงลายมือชื่อในหนังสือสัญญาค้ำประกันในขณะที่ไม่มีข้อความในเอกสารดังกล่าวเท่ากับจำเลยกล่าวอ้างว่าหนังสือสัญญาค้ำประกันไม่ถูกต้อง โจทก์ต้องนำสืบถึงข้อกล่าวอ้างของโจทก์ให้ปรากฏ ซึ่งต้องอาศัยหนังสือสัญญาค้ำประกันเป็นพยานหลักฐาน เมื่อหนังสือสัญญาค้ำประกันไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ ย่อมใช้เป็นหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 โจทก์จึงฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3125/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายเนื่องจากไม่มีอากรแสตมป์และขาดหลักฐานเป็นหนังสือ ทำให้ฟ้องบังคับคดีไม่ได้
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดตามหนังสือสัญญาค้ำประกัน จำเลยให้การต่อสู้ว่าได้ลงลายมือชื่อในหนังสือสัญญาค้ำประกันในขณะที่ไม่มีข้อความในเอกสารดังกล่าวเท่ากับจำเลยกล่าวอ้างว่าหนังสือสัญญาค้ำประกันไม่ถูกต้อง โจทก์ต้องนำสืบถึงข้อกล่าวอ้างของโจทก์ให้ปรากฏ ซึ่งต้องอาศัยหนังสือสัญญาค้ำประกันเป็นพยานหลักฐาน เมื่อหนังสือสัญญาค้ำประกันไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ ย่อมใช้เป็นหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 โจทก์จึงฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2710/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องกู้ยืมที่ไม่สมบูรณ์: ประเด็นการต่อสู้เรื่องนิติกรรมอำพราง และหน้าที่การนำสืบพยานของจำเลย
ฟ้องโจทก์กล่าวอ้างสภาพแห่งข้อหาในมูลหนี้ตามสัญญากู้ยืม จำเลยให้การว่ามิได้กู้ยืมกันจริงหากแต่ทำสัญญากู้ยืมไว้เพื่อเป็นประกันหนี้ค่าก่อสร้างบ้านที่จำเลยผู้ว่าจ้างต้องชำระให้แก่สามีของโจทก์ผู้รับจ้าง ดังนี้เท่ากับจำเลยให้การปฏิเสธว่าจำเลยมิได้รับเงินตามสัญญากู้และสัญญากู้ไม่สมบูรณ์ ซึ่งตรงตามประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ในชั้นชี้สองสถาน ส่วนข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากคำแถลงของโจทก์ว่า เมื่อก่อสร้างบ้านแล้วจึงทำหนังสือกู้ไว้ คงมีความหมายเพียงว่ามูลหนี้ตามสัญญากู้ยืมมีที่มาจากมูลหนี้ค่าก่อสร้างบ้านเท่านั้น มิใช่เป็นการรับว่ามูลหนี้ตามฟ้องเป็นนิติกรรมอำพรางตามที่จำเลยต่อสู้ทั้งประเด็นข้อนี้ก็เกิดจากคำให้การต่อสู้ของจำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงต่อไป ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2089/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย หากปิดอากรแสตมป์แต่ไม่ขีดฆ่า แม้จะปิดครบถ้วนก็ใช้เป็นหลักฐานไม่ได้
โจทก์ทำหนังสือมอบอำนาจให้ อ. ฟ้องคดีแทน โดยปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนแต่ไม่ได้ขีดฆ่า ย่อมถือว่ายังไม่ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์ตาม ป. รัษฎากร มาตรา 118 จะใช้หนังสือมอบอำนาจดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานฟังว่าโจทก์มอบอำนาจให้ อ. ฟ้องคดีแทนโจทก์ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2089/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย แม้ปิดอากรแสตมป์ครบถ้วน แต่ไม่ขีดฆ่า ไม่อาจใช้เป็นหลักฐานได้
โจทก์ทำหนังสือมอบอำนาจให้ อ. ฟ้องคดีแทน โดยปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนแต่ไม่ได้ขีดฆ่า ย่อมถือว่ายังไม่ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 จะใช้หนังสือมอบอำนาจดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานฟังว่าโจทก์มอบอำนาจให้ อ. ฟ้องคดีแทนโจทก์ไม่ได้