คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คำพิพากษา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,887 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการสืบหักล้างข้อต่อสู้ของจำเลย และการนำสืบพยานนอกประเด็นที่ไม่เป็นเหตุให้คำพิพากษาเปลี่ยนแปลง
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่พิพาทจากเจ้าของ จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของผู้อื่น ดังนี้โจทก์ย่อมมีสิทธิ์สืบได้ว่าเจ้าของได้ทรัพย์พิพาทมาอย่างไรไม่เป็นการนอกประเด็น และมีสิทธิสืบว่าผู้อื่นที่จำเลยอ้างนั้นได้อยู่ในที่พิพาทโดยทางอาศัย เพราะเป็นการสืบหักล้างคำให้การต่อสู้ของจำเลย
ในกรณีที่จำเลยฎีกาคัดค้านในข้อที่ศาลกำหนดหน้าที่ให้จำเลยสืบก่อนว่าเป็นการมิชอบนั้น เมื่อปรากฏว่าได้สืบพยานเสร็จสิ้นไปทั้งสองฝ่ายแล้ว และในฎีกาของจำเลยก็หาได้ขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานกันใหม่แต่ประการใดไม่ และแม้การที่ศาลกำหนดหน้าที่ให้จำเลยสืบก่อนจะเป็นการชอบหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่ทำให้คำวินิจฉัยคำพยานของศาลในคดีเปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด ดังนี้ฎีกาของจำเลยในข้อนี้ก็ย่อมฟังไม่ขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บริวารของผู้เช่าช่วง: คำพิพากษาขับไล่ใช้บังคับถึงผู้เช่าช่วงได้ตาม ป.วิ.แพ่ง
เจ้าของที่ดินฟ้องขับไล่ผู้เช่าที่ดินปลูกห้องแถวให้คนเช่า จนศาลพิพากษาขับไล่ผู้เช่าที่ดินให้รื้อถอนห้องแถวออกไปจากที่ดินของเจ้าของที่ดินแล้ว ดังนี้ ผู้ซึ่งเช่าห้องแถวอยู่จากผู้เช่าที่ดิน ก็ย่อมเป็นบริวารของผู้เช่าที่ดิน คำพิพากษาและคำบังคับของศาลจึงใช้บังคับแก่ผู้เช่าห้องแถวได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 142(1) เจ้าของที่ดินหาจำเป็นจะต้องไปฟ้องผู้เช่าห้องแถวเป็นคดีขึ้นอีกไม่ เมื่อผู้เช่าห้องแถวมีอำนาจพิเศษอย่างไร ก็ชอบที่จะแสดงให้ศาลเห็นได้ เมื่อผู้เช่าห้องแถวมิได้แสดงอำนาจพิเศษอย่างใดแล้ว จะอ้าง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ มาใช้บังคับเจ้าของที่ดินไม่ได้ เพราะผู้เช่าห้องแถวมิใช่ผู้เช่าหรือผู้เช่าช่วงที่ดินจากเจ้าของที่ดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 551/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายต่อเนื่องจากการไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา: แม้จะชำระบางส่วน ก็ต้องรับผิดค่าเสียหายต่อเนื่องจนกว่าจะปฏิบัติตามทั้งหมด
คำพิพากษาที่ให้จำเลยรับไม้ 3 กอง ไปจากโจทก์ โดยให้จำเลยใช้ค่าเสียหายวันละ 30 บาท แก่โจทก์นับจากวันฟ้องจนกว่า จะเอาไม้ไปเสร็จนั้น แม้ค่าเสียหายวันละ 30 บาทตามคำพิพากษาจะมุ่งหมายถึงไม้ 3 กอง แต่ก็ไม่ได้แยกเป็นรายกองไว้ ฉะนั้นแม้จำเลยจะขนไป 2 กองแล้ว คงเหลืออีกกองเดียว จำเลยก็ต้องใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์วันละ 30 บาท เต็มตามคำพิพากษาต่อไปจนกว่าจะขนไม้เสร็ข

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 551/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายตามคำพิพากษา แม้จะขนส่งไม้บางส่วนแล้ว ก็ต้องชำระเต็มตามสัญญา
คำพิพากษาที่ให้จำเลยรับไม้ 3 กองไปจากโจทก์ โดยให้จำเลยใช้ค่าเสียหายวันละ 30 บาทแก่โจทก์นับจากวันฟ้องจนกว่าจะเอาไม้ไปเสร็จนั้น แม้ค่าเสียหายวันละ30 บาทตามคำพิพากษาจะมุ่งหมายถึงไม้3 กอง แต่ก็ไม่ได้แยกเป็นรายกองไว้ ฉะนั้นแม้จำเลยจะขนไป 2 กองแล้วคงเหลืออีกกองเดียว จำเลยก็ต้องใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์วันละ 30 บาทเต็มตามคำพิพากษาต่อไปจนกว่าจะขนไม้ไปเสร็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลกระทบการหลบหนีต่อการพิจารณาคดีของจำเลยอื่น และอำนาจศาลในการแก้ไขคำพิพากษา
เมื่อคดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์จำเลยคนหนึ่งหลบหนีแต่ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาคดีเกี่ยวแก่จำเลยทุกคนตลอดจนจำเลยที่หลบหนีด้วยให้ปล่อยบางคน คงลงโทษบางคน โจทก์ฎีกาแม้จำเลยคนที่หลบหนีจะถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษและมิได้ฎีกาขึ้นมาก็ดี ศาลฎีกาก็พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่เกี่ยวแก่จำเลยที่หลบหนี ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่เฉพาะคดีที่เกี่ยวแก่จำเลยที่หลบหนี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาจำเลยในคดีฆ่าคนตาย: ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม เนื่องจากข้อเท็จจริงไม่เปลี่ยนแปลง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 249 ศาลชั้นต้น
วินัยว่าหลักฐานพะยานโจทย์ไม่พอฟัง จึงพิพากษาฟ้อง และศาลอุทธรณ์ก็ไม่ฟังว่าจำเลยแทงผู้ตายโดยเจตนาฆ่าให้ตาย คงพิจารณาว่าผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 251 ดังนี้ คดีจึงเป็นอันวาในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนานี้ ศาลเดิมและศาลอุทรศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงขอให้ศาลลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ. อาญามาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้เช่าช่วงไม่ยินยอมตามคำพิพากษา: ความรับผิดชอบเฉพาะตัวและขอบเขตการบังคับ
ศาลพิพากษาให้ผู้เช่าที่ดินและบริวารออกจากที่ดินที่เช่าและให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในที่ดินดังกล่าวไปให้เสร็จภายในกำหนดเวลา ดังนี้ เมื่อตัวผู้เช่าที่ดินได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของผู้เช่าเองออกไปหมดแล้ว แต่ผู้เช่าช่วงที่ดินรายนี้ ซึ่งการเช่าช่วงไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดินจึงตกเป็นบริวารของผู้เช่าด้วยนั้น ไม่ยอมรื้อสิ่งปลูกสร้างของผู้เช่าช่วงออกไป เช่นนี้โจทก์ควรขอให้ศาลหมายเรียกผู้เช่าช่วงนั้น มาจัดการว่ากล่าวบังคับให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตัวผู้เช่าช่วง ไม่ใช่เรื่องที่ผู้เช่าขัดขืนไม่ทำตามคำบังคับของศาล ฉะนั้นจะถือว่าผู้เช่าฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1418/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความมรดก: การรับมรดกความดำเนินคดีและการครอบครองทรัพย์สินหลังมีคำพิพากษา
บิดาเป็นความพิพาทเรื่องกรรมสิทธิที่ดินอยู่กับผู้อื่น แล้วบิดาตายในระหว่างคดี บุตรคนหนึ่งเข้ารับมรดกความดำเนินคดีต่อมาอีกราว 2 ปี คดีถึงที่สุดบิดาชนะคดี ที่ดินพิพาทจึงตกเป็นมรดกตกได้แก่ทายาท และปรากฎด้วยว่าทายาทของบิดาต่างก็มิได้ยึดถือครอบครองที่ดินพิพาทนี้ ดังนี้ ทายาทอื่นฟ้องทายาทผู้รับมรดกความ ขอแบงมรดกที่ดินแปลงนี้ เมื่อภายหลังที่ศาลชี้ขาดกรรมสิทธิในที่ดินพิพาทราว 1 เดือนได้ แม้จะเป็นเวลาที่เจ้ามรดกตายแล้วเกิน 1 ปีก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา: ศาลฎีกาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าโดยเจตนา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา 251 ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโดยไม่เชื่อข้อเท็จจริงดังนี้ โจทก์ยังมีสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริง ขอให้ศาลฎีกาลงโทษจำเลยในความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมาตรา 249 ได้ไม่ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.
อาญามาตรา 219.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลกระทบการรับโอนกรรมสิทธิที่ดินหลังมีคำพิพากษาต่อสิทธิในสัญญาจำนอง สิทธิในสัญญาจำนองผูกพันเฉพาะกรรมสิทธิ์ที่ดิน
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ศาลบังคับจำเลยคนหนึ่งรับโอนกรรมสิทธิที่ดินของโจทก์ตามสัญญาจะซื้อขาย และขอให้เพิกถอนสัญญาที่จำเลยอีกสองคนทำกันไว้เกี่ยวกับที่ดินแปลงนั้น เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยคนหนึ่งรับโอนที่ดินแปลงนั้นลงชื่อในโฉนดเป็นผู้ถือกรรมสิทธิต่อไปแล้ว สัญญาจำนองจะใช้บังคับแก่ที่ดินนั้นได้หรือไม่ ย่อมเป็นภาระระหว่างจำเลย โจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาขอให้ศาลเพิกถอนสัญญาจำนองอีกไม่ได้
of 189