พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,786 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 434/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการรับมรดกของผู้ร้องสอดที่ถูกละเลย: ศาลต้องคุ้มครองก่อนพิพากษาคดี
ผู้ร้องยื่นคำร้องเข้ามาเพื่อขอให้ได้รับความคุ้มครองสิทธิในการรับมฤดกของผู้ร้องตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา 57 (1) ซึ่งบัญญัติให้บุคคลที่ 3 ไดรับความคุ้มครองสิทธิของตนที่มีอยู่โดยทันที ไม่จำต้องฟ้องคดีหลายเรื่อง และไม่จักต้องได้รับความยินยอมจากคู่ความ เช่นอนุมาตรา 2 แม้+จะคัดค้านศาลก็สั่งอนุญาตได้
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการมฤดกและผู้รับมฤดกของภริยาผู้วายชนม์ ผู้ร้องสอด ผู้เป็นมารดาผู้ตายร้องสอดว่า โจทก์จำเลยสมยอมสร้างหนี้สินขึ้นโดยไม่เป็นความจริง ทำให้ผู้ร้องสอดเสียหาย เนื่องจากผู้ร้องสอดกำลังฟ้องจำเลยเรียกทรัพย์มฤดกรายนี้อยู่ ศาลชั้นต้นยกคำร้องของผู้ร้องสอดเสีย แล้วดำเนินคดีไปพิพากษาให้จำเลยในส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการและรับมฤดกนางเลี๊ยบ ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ย+โจทก์ตามฟ้องดังนี้ เมื่อผู้ร้องสอดอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นขึ้นมา ศาลสูง+อำนาจยกคำสั่งและคำพิพากษาศาลล่าง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปความได้ ตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา 243(1).
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการมฤดกและผู้รับมฤดกของภริยาผู้วายชนม์ ผู้ร้องสอด ผู้เป็นมารดาผู้ตายร้องสอดว่า โจทก์จำเลยสมยอมสร้างหนี้สินขึ้นโดยไม่เป็นความจริง ทำให้ผู้ร้องสอดเสียหาย เนื่องจากผู้ร้องสอดกำลังฟ้องจำเลยเรียกทรัพย์มฤดกรายนี้อยู่ ศาลชั้นต้นยกคำร้องของผู้ร้องสอดเสีย แล้วดำเนินคดีไปพิพากษาให้จำเลยในส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการและรับมฤดกนางเลี๊ยบ ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ย+โจทก์ตามฟ้องดังนี้ เมื่อผู้ร้องสอดอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นขึ้นมา ศาลสูง+อำนาจยกคำสั่งและคำพิพากษาศาลล่าง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปความได้ ตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา 243(1).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 434/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้รับมรดกในการคุ้มครองจากหนี้สินที่สร้างขึ้นโดยสมยอม
ผู้ร้องยื่นคำร้องเข้ามาเพื่อขอให้ได้รับความคุ้มครองสิทธิในการรับมรดกของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(1) ซึ่งบัญญัติให้บุคคลที่ 3 ได้รับความคุ้มครองสิทธิของตนที่มีอยู่โดยทันทีไม่จำต้องฟ้องคดีหลายเรื่องและไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากคู่ความเช่นอนุมาตรา 2 แม้คู่ความจะคัดค้าน ศาลก็สั่งอนุญาตได้
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการมรดกและผู้รับมรดกของภริยาผู้วายชนม์ผู้ร้องสอดผู้เป็นมารดาผู้ตายผู้ร้องสอดว่าโจทก์จำเลยสมยอมสร้างหนี้สินขึ้นโดยไม่เป็นความจริง ทำให้ผู้ร้องสอดเสียหายเนื่องจากผู้ร้องสอดกำลังฟ้องจำเลยเรียกทรัพย์มรดกรายนี้อยู่ ศาลชั้นต้นยกคำร้องของผู้ร้องสอดเสีย แล้วดำเนินคดีไปพิพากษาให้จำเลยในส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการและรับมรดกนางเลี๊ยบ ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์ตามฟ้องดังนี้ เมื่อผู้ร้องสอดอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นขึ้นมาศาลสูงก็มีอำนาจยกคำสั่งและคำพิพากษาศาลล่าง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ ตามรูปความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(1)
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการมรดกและผู้รับมรดกของภริยาผู้วายชนม์ผู้ร้องสอดผู้เป็นมารดาผู้ตายผู้ร้องสอดว่าโจทก์จำเลยสมยอมสร้างหนี้สินขึ้นโดยไม่เป็นความจริง ทำให้ผู้ร้องสอดเสียหายเนื่องจากผู้ร้องสอดกำลังฟ้องจำเลยเรียกทรัพย์มรดกรายนี้อยู่ ศาลชั้นต้นยกคำร้องของผู้ร้องสอดเสีย แล้วดำเนินคดีไปพิพากษาให้จำเลยในส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการและรับมรดกนางเลี๊ยบ ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์ตามฟ้องดังนี้ เมื่อผู้ร้องสอดอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นขึ้นมาศาลสูงก็มีอำนาจยกคำสั่งและคำพิพากษาศาลล่าง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ ตามรูปความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับมรดกและการเปลี่ยนแปลงคำขอในชั้นฎีกา ศาลฎีกาไม่รับฟังการเปลี่ยนแปลงที่ขัดแย้งกับข้อตกลงเดิม
ชั้นอุทธรณ์จำเลยยอมให้เอามฤดกส่วนของผู้ตายแบ่งเป็นมฤดกให้แก่โจทก์แล้ว มาชั้นฎีกากลับจะให้เอามาเป็นของจำเลย โดยไม่มีข้ออ้างอิงประการใดนั้น ฟังไม่ขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิรับมฤดก: การเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายหลังเจ้ามฤดกเสียชีวิตไม่มีผลต่อการรับมรดก
เจ้ามฤดกตาย มฤดกย่อมตกทอดทายาททันที บุคลธรรมดาที่จะเป็นทายาทและมีสิทธิรับมฤดกของ+ได้ นอกจากจะต้องมีสภาพ+สามารถมีสิทธิตาม ม.1604 +ยังต้องมีสิทธิที่จะรับมฤดกในขณะที่เจ้ามฤดกตายด้วย
ในกรณีที่มีคำพิพากษาว่าเป็นความชอบด้วยก.ม.นั้นมีผลนับตั้งแต่+พิพากษาถึงที่สุด ถ้าในขณะที่คำพิพากษาถึงที่สุดนั้น เป็นเวลาภายหลังเจ้ามฤดกตายแล้ว และไมามีมฤดก+ไม่มีทางจะให้เด็กคนน้นได้รับมฤดกได้
โจท์ฟ้องขอแบ่งมฤดกของบิดา+ข้อที่ศาลพิพากษา ว่าเป็น+นั้น ไม่มีประเด็นที่จะต้อง+ว่า เมื่อก่อนตาย บิดา+โจทก์ว่าเป็นบุตร อันจะทำมีสิทธิรับมฤดกตามป.พ.พ.ม.+หรือไม่ คงจะมีประเด็นข้อเถียง+ขอ งศาลที่แสดงไว้นั้น จะมีผลต่อโจทก์ในทางรับมฤดกอย่างไรหรือไม่
ในกรณีที่มีคำพิพากษาว่าเป็นความชอบด้วยก.ม.นั้นมีผลนับตั้งแต่+พิพากษาถึงที่สุด ถ้าในขณะที่คำพิพากษาถึงที่สุดนั้น เป็นเวลาภายหลังเจ้ามฤดกตายแล้ว และไมามีมฤดก+ไม่มีทางจะให้เด็กคนน้นได้รับมฤดกได้
โจท์ฟ้องขอแบ่งมฤดกของบิดา+ข้อที่ศาลพิพากษา ว่าเป็น+นั้น ไม่มีประเด็นที่จะต้อง+ว่า เมื่อก่อนตาย บิดา+โจทก์ว่าเป็นบุตร อันจะทำมีสิทธิรับมฤดกตามป.พ.พ.ม.+หรือไม่ คงจะมีประเด็นข้อเถียง+ขอ งศาลที่แสดงไว้นั้น จะมีผลต่อโจทก์ในทางรับมฤดกอย่างไรหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 204/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองทรัพย์มรดกโดยผู้รับมรดกย่อมไม่ทำให้จำเลยอ้างอายุความได้
มารดาแลตาเป็นเจ้าของที่ดินและเรือนร่วมกัน เมื่อมารดาตายแล้ว บุตรผู้ตายซึ่งเป็นผู้รับมฤดก ได้อยู่ร่วมเรือนนี้มากับตา ย่อถือได้ว่าบุตรผู้ตายได้ครอบครองทรัพย์มฤดก ตาจะอ้างอายุความมฤดกมายันบุตรผู้ตายไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับโอนทรัพย์มรดกพร้อมภาระผูกพันตามพินัยกรรมและกฎหมาย
ตามพินัยกรรม์ได้ระบุทรัพย์ที่ยกให้แก่บรรดาทายาทไว้เป็นกิจะลักษณะ ย่อมว่าผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรม์เป็นผู้รับในลักษณะฉะเพาะความใน ป.พ.พ.ม.1651 (2) ต้องรับภาระผูกพัน เช่นภาระจำนองที่ดินติดอยู่กับทรัพย์ที่ตนรับด้วย
ข้อความในพินัยกรรม์ข้อหนึ่งที่กล่าวว่า "ทรัพย์สินอันใดที่มิได้ระบุไว้ข้างต้น บรรดาที่มีเหลืออยู่ในวันที่ข้าพเจ้าวายชนม์ลงจะเป็นสังหาริมทรัพย์ก็ดี อสังหาริมทรัพย์ก็ดี ให้ผู้จัดการมฤดกรวมขายเอาเงินทำศพ และจัดการมฤดกของข้าพเจ้าทำบุญในส่วนกุศลสาธารณะประโยชน์ได้ตามที่เห็นสมควรนั้น" เป็นข้อความกำหนดที่สั่งให้ผู้จัดการมฤดกจัดการขายทรัพย์ที่มิได้ระบุให้ผู้ใด ไว้ขายเอาเงินทำศพและทำบุญมิได้หมายความให้ไถ่ถอนการจำนองหรือชำระหนี้สินในทรัพย์ที่ระบุให้แก่ผู้ใดไว้แล้วเพื่อผู้นั้น
ป.พ.พ.ม.1740 เป็นเรื่องบัญญัติถึงวิธีให้ผู้จัดการมฤดกจัดการทรัพย์มฤดกเท่านั้นมิได้หมายความจะให้ลบล้างความในมาตรา 1651 (2).
ข้อความในพินัยกรรม์ข้อหนึ่งที่กล่าวว่า "ทรัพย์สินอันใดที่มิได้ระบุไว้ข้างต้น บรรดาที่มีเหลืออยู่ในวันที่ข้าพเจ้าวายชนม์ลงจะเป็นสังหาริมทรัพย์ก็ดี อสังหาริมทรัพย์ก็ดี ให้ผู้จัดการมฤดกรวมขายเอาเงินทำศพ และจัดการมฤดกของข้าพเจ้าทำบุญในส่วนกุศลสาธารณะประโยชน์ได้ตามที่เห็นสมควรนั้น" เป็นข้อความกำหนดที่สั่งให้ผู้จัดการมฤดกจัดการขายทรัพย์ที่มิได้ระบุให้ผู้ใด ไว้ขายเอาเงินทำศพและทำบุญมิได้หมายความให้ไถ่ถอนการจำนองหรือชำระหนี้สินในทรัพย์ที่ระบุให้แก่ผู้ใดไว้แล้วเพื่อผู้นั้น
ป.พ.พ.ม.1740 เป็นเรื่องบัญญัติถึงวิธีให้ผู้จัดการมฤดกจัดการทรัพย์มฤดกเท่านั้นมิได้หมายความจะให้ลบล้างความในมาตรา 1651 (2).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองมรดกเกิน 1 ปี ทำให้เกิดสิทธิในทรัพย์มรดก และผลของการแบ่งทรัพย์มรดกตามการครอบครอง
ผู้มีสิทธิได้รับมฤดกเข้ามาอยู่+ที่มฤดกเมื่อ-เกิน 1 ปีนับแต่+มฤดกตาย ผู้รับมฤดกคนที่+ครองที่มฤดก ย่อมฟ้องขับไล่ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกแย่งกรรมสิทธิที่ดินของโจทก์ 3 แปลง +ให้ห้ามมิให้เกี่ยวข้องต่อไปทาง พิจารณาได้ความว่าโจทก์เป็นเจ้าของเพียง 2 กะบิ้งเท่านั้น ศาล+พิพากษาห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้อง +ที่ดิน 2 กะบิ้งอันเป้นของโจทก์+ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกแย่งกรรมสิทธิที่ดินของโจทก์ 3 แปลง +ให้ห้ามมิให้เกี่ยวข้องต่อไปทาง พิจารณาได้ความว่าโจทก์เป็นเจ้าของเพียง 2 กะบิ้งเท่านั้น ศาล+พิพากษาห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้อง +ที่ดิน 2 กะบิ้งอันเป้นของโจทก์+ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองมรดกเกิน 1 ปี และสิทธิในการครอบครองทรัพย์มรดก
ผู้มีสิทธิได้รับมรดกเข้ามาอยู่ในที่มรดกเมื่อเกิน 1 ปีนับแต่เจ้ามรดกตายผู้รับมรดกคนที่ปกครองที่มรดก ย่อมฟ้องขับไล่ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกแย่งกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทก์ 3 แปลงขอให้ห้ามมิให้เกี่ยวข้องต่อไป ทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์เป็นเจ้าของเพียง 2 กะบิ้งเท่านั้น ศาลย่อมพิพากษาห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้องกับที่ดิน 2 กะบิ้งอันเป็นของโจทก์นั้นได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกแย่งกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทก์ 3 แปลงขอให้ห้ามมิให้เกี่ยวข้องต่อไป ทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์เป็นเจ้าของเพียง 2 กะบิ้งเท่านั้น ศาลย่อมพิพากษาห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้องกับที่ดิน 2 กะบิ้งอันเป็นของโจทก์นั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทายาทรับมรดกเฉพาะเจาะจงต้องรับภาระผูกพันเดิมของทรัพย์สินนั้นด้วย
ตามพินัยกรรมได้ระบุทรัพย์ที่ยกให้แก่บรรดาทายาทไว้เป็นกิจลักษณะ ย่อมถือว่าผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมเป็นผู้รับในลักษณะเฉพาะตามความใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.1651(2) ต้องรับภาระผูกพันเช่นภาระจำนองที่ติดอยู่กับทรัพย์ที่ตนรับด้วย
ข้อความในพินัยกรรมข้อหนึ่งที่กล่าวว่า 'ทรัพย์สินอันใดที่มิได้ระบุไว้ข้างต้นบรรดาที่มีเหลืออยู่ในวันที่ข้าพเจ้าวายชนม์ลงจะเป็นสังหาริมทรัพย์ก็ดีอสังหาริมทรัพย์ก็ดี ให้ผู้จัดการมรดกรวมขายเอาเงินทำศพ และจัดการมรดกของข้าพเจ้าและทำบุญในส่วนกุศลสาธารณะประโยชน์ได้ตามที่เห็นสมควร'นั้น เป็นข้อความกำหนดที่สั่งให้ผู้จัดการมรดกจัดการขายทรัพย์ที่มิได้ระบุให้ผู้ใด ไว้ขายเอาเงินทำศพและทำบุญมิได้หมายความให้ไถ่ถอนการจำนองหรือชำระหนี้สินในทรัพย์ที่ระบุให้แก่ผู้ใดไว้แล้ว เพื่อผู้นั้น
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1740 เป็นเรื่องบัญญัติถึงวิธีให้ผู้จัดการมรดกจัดการทรัพย์มรดกเท่านั้นมิได้หมายความจะให้ลบล้างความในมาตรา 1651(2)
ข้อความในพินัยกรรมข้อหนึ่งที่กล่าวว่า 'ทรัพย์สินอันใดที่มิได้ระบุไว้ข้างต้นบรรดาที่มีเหลืออยู่ในวันที่ข้าพเจ้าวายชนม์ลงจะเป็นสังหาริมทรัพย์ก็ดีอสังหาริมทรัพย์ก็ดี ให้ผู้จัดการมรดกรวมขายเอาเงินทำศพ และจัดการมรดกของข้าพเจ้าและทำบุญในส่วนกุศลสาธารณะประโยชน์ได้ตามที่เห็นสมควร'นั้น เป็นข้อความกำหนดที่สั่งให้ผู้จัดการมรดกจัดการขายทรัพย์ที่มิได้ระบุให้ผู้ใด ไว้ขายเอาเงินทำศพและทำบุญมิได้หมายความให้ไถ่ถอนการจำนองหรือชำระหนี้สินในทรัพย์ที่ระบุให้แก่ผู้ใดไว้แล้ว เพื่อผู้นั้น
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1740 เป็นเรื่องบัญญัติถึงวิธีให้ผู้จัดการมรดกจัดการทรัพย์มรดกเท่านั้นมิได้หมายความจะให้ลบล้างความในมาตรา 1651(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1217/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกที่ดินพิพาท: ศาลพิพากษาตามส่วนแบ่งมรดกได้ แม้ฟ้องขอทั้งหมด
โจทก์ฟ้องเรียกที่ดินพิพาทจากจำเลยหมดทั้งแปลง โดยอ้างว่า ย่ายกให้แก่บิดาโจทก์ แต่ทางพิจารณาได้ความว่า ที่พิพาทยังเป็นของย่าจนกระทั่งตาย จึงเป็นมฤดกควรได้แก่บิดาโจทก์และจำเลยคนละครึ่ง ศาลเห็นสมควรก็พิพากษาให้โจทก์ได้รับส่วนแบ่งนั้นได้ ไม่เป็นการเกินคำขอในฟ้อง