พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,865 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญา: การยักยอกเช็คในฐานะตัวแทนจำหน่าย
เรื่องอำนาจฟ้องเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จะมิได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์คู่ความอาจยกขึ้นอ้างได้ในชั้นฎีกา
จำเลยทำงานอยู่กับโจทก์ร่วม โดยโจทก์ร่วมให้จำเลยเป็นผู้ติดต่อและเก็บเงินจากลูกค้า จำเลยรับเช็คของลูกค้าโจทก์ร่วมมาในฐานะเป็นผู้รับชำระหนี้แทนโจทก์ร่วม มิใช่ในหน้าที่ซึ่งได้รับมอบหมายจากฝ่ายลูกค้า จำเลยจึงเป็นผู้ครอบครองเช็คของโจทก์ร่วมในฐานะตัวแทน มีหน้าที่ต้องนำเช็คหรือเงินตามเช็คนั้นส่งให้แก่โจทก์ร่วม เมื่อจำเลยนำเช็คไปเบิกเงินจากธนาคารและเบียดบังเอาไว้โดยทุจริตโจทก์ร่วมย่อมเป็นผู้เสียหาย มีอำนาจร้องทุกข์และฟ้องจำเลยได้ และการกระทำของจำเลยดังกล่าวย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 353เพราะจำเลยมิได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของโจทก์ร่วม
จำเลยทำงานอยู่กับโจทก์ร่วม โดยโจทก์ร่วมให้จำเลยเป็นผู้ติดต่อและเก็บเงินจากลูกค้า จำเลยรับเช็คของลูกค้าโจทก์ร่วมมาในฐานะเป็นผู้รับชำระหนี้แทนโจทก์ร่วม มิใช่ในหน้าที่ซึ่งได้รับมอบหมายจากฝ่ายลูกค้า จำเลยจึงเป็นผู้ครอบครองเช็คของโจทก์ร่วมในฐานะตัวแทน มีหน้าที่ต้องนำเช็คหรือเงินตามเช็คนั้นส่งให้แก่โจทก์ร่วม เมื่อจำเลยนำเช็คไปเบิกเงินจากธนาคารและเบียดบังเอาไว้โดยทุจริตโจทก์ร่วมย่อมเป็นผู้เสียหาย มีอำนาจร้องทุกข์และฟ้องจำเลยได้ และการกระทำของจำเลยดังกล่าวย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 353เพราะจำเลยมิได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของโจทก์ร่วม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1178/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม: โต้แย้งข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้น-อุทธรณ์วินิจฉัยแล้ว คดีเช็ค
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกจำเลย 4 เดือน ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค โดยฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยออกเช็คให้โจทก์เป็นการชำระค่าเช่าโฉนดที่ดิน จำเลยฎีกาว่ามูลหนี้ตามเช็คต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องเพราะเป็นหนี้ที่เกิดจากการเช่าอสังหาริมทรัพย์.ที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิด จึงเป็นฎีกาที่โต้แย้งข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1177/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คเพื่อประกันค่าจ้างทนาย ความผูกพันต่อผู้รับสลักหลัง
จำเลยออกเช็คให้นาย ส.เพื่อประกันค่าจ้างว่าความที่จำเลยตกลงจ้างนาย ส.ทนายความให้ดำเนินคดีอาญาให้นาย ข. มิได้ประสงค์จะออกเช็คให้เป็นการชำระหนี้ การที่นาย ส. สลักหลักเช็คนั้นให้โจทก์ จึงหามีผลผูกพันจำเลยแต่อย่างใดไม่ การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1177/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คเพื่อประกันค่าจ้างว่าความ มิใช่การชำระหนี้ สิทธิในเช็คไม่ผูกพันจำเลย
จำเลยออกเช็คให้ทนายความ เพื่อประกันค่าจ้างว่าความมิได้ประสงค์จะออกเช็คให้เป็นการชำระหนี้ การที่ทนายความสลักหลังเช็คนั้นให้โจทก์ จึงหามีผลผูกพันจำเลยแต่อย่างใดไม่การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1171/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้สั่งจ่ายเช็คต่อผู้ทรงโดยชอบ แม้มีคำพิพากษาให้ทำลายเช็คหรือคดีอาญา ยกฟ้อง
จำเลยสั่งจ่ายเช็คให้ ท. เพื่อชำระหนี้ ท. สลักหลังเช็คโอนให้โจทก์เพื่อชำระหนี้อีกต่อหนึ่ง เมื่อโจทก์เป็นผู้ทรงโดยชอบ จำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ แม้ต่อมาศาลได้พิพากษาให้ทำลายเช็คนั้นแล้วก็ดี หรือโจทก์จะฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญา ฐานออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค แต่ศาลพิพากษายกฟ้องแล้วก็ดีก็ไม่ทำให้จำเลยหลุดพ้นจากความรับผิดทางแพ่งตามเช็คนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1171/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดตามเช็ค: ผู้ทรงโดยชอบมีสิทธิเรียกร้อง แม้มีคำพิพากษาให้ทำลายเช็ค หรือคดีอาญาไม่ฟัง
จำเลยสั่งจ่ายเช็คให้ ท. เพื่อชำระหนี้ ท. สลักหลังเช็คโอนให้โจทก์เพื่อชำระหนี้อีกต่อหนึ่ง เมื่อโจทก์เป็นผู้ทรงโดยชอบ จำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ แม้ต่อมาศาลได้พิพากษาให้ทำลายเช็คนั้นแล้วก็ดี หรือโจทก์จะฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาฐานออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค แต่ศาลพิพากษายกฟ้องแล้วก็ดี ก็ไม่ทำให้จำเลยหลุดพ้นจากความรับผิดทางแพ่งตามเช็คนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสลักหลังเช็ค: ผู้สลักหลังมีฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมกับผู้สั่งจ่าย ไม่ใช่ผู้ค้ำประกัน
การลงลายมือชื่อของตนที่ด้านหลังเช็คต้องถือว่าเป็นการสลักหลังตั๋วแลกเงินโดยสมบูรณ์. ตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 919 อันมีผลให้ผู้สลักหลังต้องรับผิดต่อผู้ทรงตามมาตรา 914 และมาตรา989 ให้นำบทบัญญัติดังกล่าวมาใช้ในเรื่องเช็คด้วยผู้สลักหลังจึงต้องรับผิดใช้เงินที่ค้างชำระให้แก่ผู้ทรง ในเมื่อธนาคารไม่ยอมจ่ายเงินตามเช็คนั้น
ผู้สลักหลังมีฐานะเป็นลูกหนี้ต้องร่วมกับผู้สั่งจ่ายรับผิดต่อผู้ทรงมิได้มีฐานะเป็นผู้ค้ำประกัน จึงนำมาตรา 700 มาใช้บังคับกรณีนี้มิได้
ผู้สลักหลังมีฐานะเป็นลูกหนี้ต้องร่วมกับผู้สั่งจ่ายรับผิดต่อผู้ทรงมิได้มีฐานะเป็นผู้ค้ำประกัน จึงนำมาตรา 700 มาใช้บังคับกรณีนี้มิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ทรงเช็คที่แท้จริงและอำนาจร้องทุกข์ในคดีเช็ค – เช็คสั่งจ่ายแก่ผู้ถือ
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ ช. เป็นผู้นำเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีของ ช. ขอให้ธนาคารเรียกเก็บเงินจากจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่าย ช. จึงเป็นผู้ทรงเช็คในฐานะเป็นผู้มีเช็คไว้ในครอบครองโดยฐานเป็นผู้รับเงิน และเป็นผู้ถือเช็คฉบับนี้ด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 904
ความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คหรือฐานออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชีอันจะพึงจ่ายให้ได้นั้นสารสำคัญอยู่ที่วันที่สั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็ค เมื่อวันที่ธนาคารปฏิเสธการใช้เงิน ช. เป็นผู้ทรงเช็ค ช. จึงเป็นผู้เสียหาย แม้เดิมจำเลยจะได้ออกเช็คพิพาทให้ ว. ว. ก็มิใช่ผู้เสียหาย ตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และไม่มีอำนาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
ความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คหรือฐานออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชีอันจะพึงจ่ายให้ได้นั้นสารสำคัญอยู่ที่วันที่สั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็ค เมื่อวันที่ธนาคารปฏิเสธการใช้เงิน ช. เป็นผู้ทรงเช็ค ช. จึงเป็นผู้เสียหาย แม้เดิมจำเลยจะได้ออกเช็คพิพาทให้ ว. ว. ก็มิใช่ผู้เสียหาย ตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และไม่มีอำนาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ทรงเช็คที่แท้จริงและการมีอำนาจฟ้องคดีเช็ค: ผู้รับเช็คและผู้ถือเช็คมีสิทธิฟ้อง
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ ช. เป็นผู้นำเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีของ ช. ขอให้ธนาคารเรียกเก็บเงินจากจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่าย ช. จึงเป็นผู้ทรงเช็คในฐานะเป็นผู้มีเช็คไว้ในครอบครองโดยฐานเป็นผู้รับเงิน และเป็นผู้ถือเช็คฉบับนี้ด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 904
ความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค หรือฐานออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชีอันจะพึงจ่ายให้ได้นั้น สารสำคัญอยู่ที่วันที่สั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็ค เมื่อวันที่ธนาคารปฏิเสธการใช้เงิน ช.เป็นผู้ทรงเช็คช. จึงเป็นผู้เสียหาย แม้เดิมจำเลยจะได้ออกเช็คพิพาทให้ ว. ว. ก็มิใช่ผู้เสียหาย ตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และไม่มีอำนาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
ความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค หรือฐานออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชีอันจะพึงจ่ายให้ได้นั้น สารสำคัญอยู่ที่วันที่สั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็ค เมื่อวันที่ธนาคารปฏิเสธการใช้เงิน ช.เป็นผู้ทรงเช็คช. จึงเป็นผู้เสียหาย แม้เดิมจำเลยจะได้ออกเช็คพิพาทให้ ว. ว. ก็มิใช่ผู้เสียหาย ตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และไม่มีอำนาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คลงวันที่ไม่สมบูรณ์ ผู้ทรงแก้ไขได้หากสุจริต ผู้สั่งจ่ายและสลักหลังต้องรับผิดร่วมกันตามเช็ค
จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็คชำระหนี้ให้โจทก์ โดยไม่ได้ลงวันที่โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังเช็ค ต่อมาจำเลยที่ 1 บอกให้โจทก์ลงวันที่ในเช็คเพื่อเบิกเงินในวันที่ 8 มกราคม 2512 ดังนี้ การที่โจทก์ลงวันที่ในเช็คแล้วนำเช็คไปเข้าบัญชีธนาคารเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คในวันที่ 8 มกราคม 2512 จึงเป็นการจดวันที่ถูกต้องลงในเช็คโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 910เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอ้างว่าบัญชีของจำเลยปิดแล้วจำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดตามเช็คนั้น แม้จะฟังข้อเท็จจริงว่า เมื่อโจทก์รับเช็คโจทก์ทราบว่าธนาคารได้ปิดบัญชีกับจำเลยที่ 1 แล้วก็ตาม จำเลยที่ 1 ก็จะปฏิเสธความรับผิดตามเช็คนั้นหาได้ไม่ และแม้จำเลยที่ 2 จะมิได้เกี่ยวข้องรู้เห็นในการที่จำเลยที่ 1 ยินยอมให้โจทก์ลงวันที่ในเช็คจำเลยที่ 2. ก็ต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คร่วมกับจำเลยที่ 1 ด้วย