พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,473 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2560
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานพยายามจำหน่ายยาเสพติด: การแบ่งหน้าที่และความผิดฐานตัวการหรือผู้สนับสนุน
จำเลยกระทำความผิดฐานร่วมกันพยายามจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนของกลาง ซึ่งมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 โดยลำพังไม่ใช่บทความผิดในตัวเองและมีระวางโทษของตัวเอง แต่บัญญัติให้ผู้พยายามกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดสำเร็จ การกระทำของจำเลยซึ่งต้องด้วยความผิดฐานพยายามจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่ง ประกอบ ป.อ. มาตรา 80, 83 จึงเป็นความผิดต่อกฎหมายบทเดียว ไม่ใช่ความผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6528/2560
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท – ยาเสพติดประเภท 5 (กัญชา, กระท่อม) – โทษจำคุกและปรับ
ความผิดฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องระวางโทษตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 76 วรรคหนึ่ง ส่วนความผิดฐานมีพืชกระท่อมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องระวางโทษตามมาตรา 76 วรรคสอง และยาเสพติดทั้งสองชนิดซึ่งเป็นวัตถุแห่งการกระทำความผิดดังกล่าว กฎหมายถือว่าเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เช่นเดียวกัน โดยบัญญัติบทความผิดกับบทลงโทษในบทมาตราเดียวกัน เมื่อจำเลยที่ 4 มีไว้ในครอบครองในขณะเดียวกัน การกระทำของจำเลยที่ 4 จึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แม้โจทก์บรรยายฟ้องแยกเป็นความผิดแต่ละกรรมโดยชัดแจ้ง และขอให้ลงโทษทุกกรรม ก็ไม่ทำให้การกระทำความผิดของจำเลยที่ 4 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6426/2560
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายยาเสพติด (เมทแอมเฟตามีน) แม้เป็นส่วนหนึ่งของยาที่ครอบครองไว้เพื่อจำหน่าย ถือเป็นความผิดอีกกระทง
จำเลยนำเมทแอมเฟตามีน 12 เม็ด ติดตัวไปที่บ้านที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านที่ ณ. พักอาศัยอยู่ พบ ณ. กับ น. และพวกรวมประมาณ 5 ถึง 6 คน ซึ่งไม่ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวมีความสัมพันธ์กับจำเลยอย่างไร และทั้งหมดนั่งล้อมวงอยู่ด้วยกันบริเวณด้านหลังของบ้านที่เกิดเหตุ โดยจำเลยนำเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยมีไว้ในครอบครอง 2 เม็ด ออกมาวางตรงกลางเพื่อจำเลยและทุกคนได้เสพ ถือเป็นการกระทำอันเป็นการแพร่กระจายยาเสพติดให้โทษไปสู่บุคคลอื่น เข้าลักษณะแจกจ่าย ซึ่งอยู่ในความหมายของการจำหน่ายตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4 แล้ว การที่ น. หยิบเอาเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ดไว้ แม้ น. และบุคคลอื่นเหล่านั้นจะยังไม่ทันได้เสพก็ตาม การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีน 12 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด โดยไม่ได้รับอนุญาต
การที่จำเลยมีเมทแอมเฟตามีน 12 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ย่อมเป็นความผิดสำเร็จแล้วกระทงหนึ่ง และเมื่อจำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด แม้เมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด จะเป็นส่วนหนึ่งของเมทแอมเฟตามีน 12 เม็ด ที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดอีกกระทงหนึ่ง การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน ซึ่งต้องเรียงกระทงลงโทษจำเลยทุกกรรมตาม ป.อ. มาตรา 91
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2560)
การที่จำเลยมีเมทแอมเฟตามีน 12 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ย่อมเป็นความผิดสำเร็จแล้วกระทงหนึ่ง และเมื่อจำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด แม้เมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด จะเป็นส่วนหนึ่งของเมทแอมเฟตามีน 12 เม็ด ที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดอีกกระทงหนึ่ง การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน ซึ่งต้องเรียงกระทงลงโทษจำเลยทุกกรรมตาม ป.อ. มาตรา 91
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2560)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6424/2560
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ฯ นำเข้าจากต่างประเทศ ศาลฎีกาพิพากษาตามกฎหมายใหม่ที่แก้ไขโทษจำคุก
ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาได้มี พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2560 มาตรา 6 ยกเลิกความใน มาตรา 65 แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 และให้ใช้ความใหม่แทน ซึ่ง มาตรา 65 วรรคหนึ่ง ที่แก้ไขใหม่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งล้านบาทถึงห้าล้านบาทเป็นคุณมากกว่า มาตรา 65 วรรคหนึ่ง เดิม ที่ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งล้านบาทถึงห้าล้านบาท จึงต้องใช้กฎหมายที่แก้ไขใหม่บังคับแก่จำเลยตาม ป.อ. มาตรา 3 ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นอ้างและแก้ไขใหม่ได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 และ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 มาตรา 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6216/2560
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถยนต์และโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการขนส่งยาเสพติดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ โดยพิจารณาจากคำให้การชั้นสอบสวนและพยานหลักฐาน
แม้บันทึกคำให้การชั้นสอบสวนเป็นเพียงพยานบอกเล่าแต่ตามสภาพ ลักษณะ แหล่งที่มา และข้อเท็จจริงแวดล้อม น่าเชื่อว่าจะพิสูจน์ความจริงได้ เพราะจำเลยทั้งสองให้การในชั้นสอบสวนหลังเกิดเหตุใกล้ชิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงไม่มีเวลาคิดปรุงแต่งข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่น และในชั้นพิจารณาจำเลยที่ 2 ยังคงเบิกความยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 2 รับจ้างขนเมทแอมเฟตามีนโดยใช้รถกระบะของกลางเป็นยานพาหนะ และใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ติดต่อรับขนและรับส่งเมทแอมเฟตามีน โดยไม่มีเหตุให้ระแวงสงสัยว่าจะให้การโดยไม่เป็นความจริง กรณีจึงมีเหตุผลอันหนักแน่นมีน้ำหนักรับฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองใช้รถกระบะของกลางเป็นยานพาหนะไปรับขนเมทแอมเฟตามีนเพื่อนำไปส่งมอบให้แก่ผู้รับ โดยใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางในการติดต่อกับ ส. และผู้มาส่งเมทแอมเฟตามีนของกลาง รถกระบะของกลางจึงเป็นยานพาหนะที่จำเลยทั้งสองได้ใช้ในการขนส่งเมทแอมเฟตามีน และโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางเป็นเครื่องมือสื่อสารที่จำเลยทั้งสองได้ใช้ในการติดต่อรับและส่งเมทแอมเฟตามีนของกลาง รถกระบะและโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางจึงเป็นเครื่องมือ เครื่องใช้ ยานพาหนะ ที่จำเลยทั้งสองได้ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ อันพึงต้องริบตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 102
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6207/2560
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานร่วมกันนำยาเสพติดเข้าประเทศ จำเลยมีส่วนร่วมรู้เห็น การกระทำเป็นตัวการร่วม
คดีนี้ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาได้มี พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2560 มาตรา 6 ยกเลิกความในมาตรา 65 แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 และให้ใช้ความใหม่แทน คดีนี้ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยทั้งสองตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 65 วรรคสอง (เดิม) ซึ่งระวางโทษประหารชีวิตและความผิดของจำเลยทั้งสองดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 65 วรรคสอง ที่แก้ไขใหม่ ซึ่งระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่หนึ่งล้านบาทถึงห้าล้านบาท หรือประหารชีวิต กรณีโทษจำคุกในความผิดฐานนี้ต้องถือว่ากฎหมายที่แก้ไขใหม่เป็นคุณมากกว่า จึงต้องใช้กฎหมายที่แก้ไขใหม่ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ภายหลังการกระทำความผิดบังคับแก่จำเลยทั้งสองในความผิดดังกล่าวไม่ว่าในทางใดตาม ป.อ. มาตรา 3 ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยก ขึ้นอ้างและแก้ไขโดยปรับบทกฎหมายให้ถูกต้อง ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 และ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 มาตรา 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2560
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อมูลจากผู้ต้องขังเป็นประโยชน์ต่อการจับกุมคดียาเสพติด แม้ไม่ได้แจ้งความโดยตรง ก็อาจได้รับโทษน้อยลงตามกฎหมาย
คดีนี้ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ส. บิดาของจำเลยที่ 1 แจ้งต่อร้อยตำรวจโท ร. ว่า ได้ไปเยี่ยมจำเลยที่ 1 ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางแล้วจำเลยที่ 1 แจ้งต่อ ส. ว่า อ. เครือข่ายของจำเลยที่ 1 มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดให้แก่ลูกค้าในเขตจังหวัดนครราชสีมา และให้ ส. แจ้งข้อมูลดังกล่าวต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ร้อยตำรวจโท ร. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้รับคำสั่งให้สืบสวนสอบสวน ต่อมาร้อยตำรวจโท ร. จับกุม อ. ได้พร้อมยึดเมทแอมเฟตามีน 400 เม็ด เป็นของกลาง เห็นว่า แม้จำเลยที่ 1 ไม่ได้ให้ข้อมูลต่อเจ้าพนักงานตำรวจโดยตรง แต่การที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้แจ้งข้อมูลให้แก่ ส. บิดาของจำเลยที่ 1 เพื่อให้นำข้อมูลดังกล่าวไปแจ้งต่อร้อยตำรวจโท ร. จนสามารถจับกุม อ. ได้ตามข้อมูลที่จำเลยที่ 1 แจ้ง พอถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ผู้กระทำความผิดเป็นผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100/2 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5309/2560
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบโทรศัพท์มือถือที่ใช้ติดต่อซื้อขายยาเสพติดเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
โทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางเป็นโทรศัพท์เครื่องเดียวกันกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่สายลับใช้โทรศัพท์ติดต่อขอซื้อเมทแอมเฟตามีน โทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางจึงเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในข้อหามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันพึงริบเสีย ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 102
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5270/2560
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการร่วม vs ผู้สนับสนุน: การกระทำที่ช่วยลำเลียงยาเสพติดโดยรู้เห็น
จำเลยที่ 2 ขับรถจักรยานยนต์นำหน้าคอยดูต้นทางให้จำเลยที่ 1 ขับรถกระบะนำเมทแอมเฟตามีนไปส่งลูกค้า แม้เมทแอมเฟตามีนไม่ได้อยู่กับจำเลยที่ 2 ก็เป็นเรื่องข้อจำกัดทางกายภาพที่ต้องแบ่งหน้าที่กัน เมื่อจำเลยที่ 2 รู้ว่าจำเลยที่ 1 ขับรถนำเมทแอมเฟตามีนไปส่งแล้วร่วมมือช่วยเหลือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการลำเลียงเมทแอมเฟตามีนไปส่งลูกค้าให้สำเร็จและได้รับผลประโยชน์ตอบแทน จำเลยที่ 2 จึงเป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 มิใช่เป็นเพียงผู้สนับสนุน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5032/2560
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการครอบครองยาเสพติด: การกระทำที่เข้าข่ายช่วยเหลือและให้ความสะดวกแก่ผู้กระทำผิด
จำเลยที่ 3 รับจ้างไปรับกุญแจบ้านเกิดเหตุ โดยรู้ว่าเป็นที่ซุกซ่อนเมทแอมเฟตามีน แต่จำเลยที่ 3 มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเมทแอมเฟตามีนไปซุกซ่อนที่บ้านดังกล่าว และไม่มีส่วนร่วมครอบครองเมทแอมเฟตามีนแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยที่ 3 จึงเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ในการกระทำความผิด อันเป็นการสนับสนุนการกระทำความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2