คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อำนาจศาล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,218 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 215/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการริบของกลางตาม พ.ร.บ.การประมง และการใช้ดุลพินิจของศาลอุทธรณ์
ตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2496 มาตรา 10 ที่กำหนดว่า สิ่งของที่ใช้หรือได้มาในการกระทำผิด ศาลจะริบเสียก็ได้ ซึ่งเป็นการให้อำนาจศาลใช้ดุลพินิจนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเรื่องของกลางที่ให้ริบเป็นไม่ริบ ก็เป็นการใช้ดุลพินิจตามอำนาจที่ให้ไว้ตามกฎหมาย และเป็นการแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเล็กน้อย โจทก์จึงฎีกาขอให้ริบของกลางไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1878/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาด: ศาลมีอำนาจสั่งประกาศขายใหม่ได้ แม้ผู้สู้ราคาสูงสุดยินยอม และยังไม่มีสัญญาซื้อขายผูกพัน
ในการขายทอดตลาดทรัพย์ตามคำสั่งศาลเมื่อผู้สู้ราคาเสนอราคาสูงสุดแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดียังมิได้ตกลงด้วยโดยลำพัง แต่ได้รายงานต่อศาลเพื่อให้ศาลพิจารณาอีกชั้นหนึ่งว่าสมควรจะตกลงขายให้แก่ผู้สู้ราคาสูงสุดหรือไม่ดังนี้ การขายทอดตลาดยังไม่บริบูรณ์ ครั้นเมื่อศาลสั่งให้ประกาศขายใหม่ และเจ้าพนักงานบังคับคดีก็ดำเนินการตามคำสั่งแล้ว ก็แสดงอยู่ในตัวว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีถอนทรัพย์รายนี้ จากการขายทอดตลาดครั้งนั้นเสียแล้ว ผู้สู้ราคาสูงสุดจึงไม่มีสิทธิที่จะขอให้ขายแก่ตนตามราคาที่ตนได้เสนอไว้นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1827/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการพิจารณาคำร้องขัดทรัพย์ก่อนการพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลาย
เมื่อมีการยึดทรัพย์ ประกาศขายทอดตลาด และร้องลักทรัพย์ไว้ก่อนจำเลยถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลาย ระหว่างนัดไต่สวนสืบพยานผู้ร้องจึงปรากฎว่าจำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด กรณีเช่นนี้ ศาลชั้นต้นมีอำนาจที่จะไต่สวนและมีคำสั่งไปได้ ผู้ร้องไม่ต้องไปร้องขัดทรัพย์ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1827/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการไต่สวนคำร้องขัดทรัพย์ก่อนมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลาย
เมื่อมีการยึดทรัพย์ ประกาศขายทอดตลาดและร้องขัดทรัพย์ไว้ก่อนจำเลยถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลาย ระหว่างนัดไต่สวนสืบพยานผู้ร้อง จึงปรากฏว่าจำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด กรณีเช่นนี้ ศาลชั้นต้นมีอำนาจที่จะไต่สวนและมีคำสั่งไปได้ ผู้ร้องไม่ต้องไปร้องขัดทรัพย์ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีไม่มีข้อพิพาทกลายเป็นคดีมีข้อพิพาทแย่งกรรมสิทธิ์ ศาลมีอำนาจสั่งขับไล่ได้
โจทก์ยื่นคำร้องขอเป็นคดีไม่มีข้อพิพาท ขอให้ศาลสั่งแสดงว่าที่ดินมีโฉนดเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์โดยการครอบครอง
จำเลยยื่นคำคัดค้านเถียงกรรมสิทธิ์ ศาลชั้นต้นสั่งดำเนินคดีอย่างมีข้อพิพาทแย่งกรรมสิทธิ์ที่ดิน และได้เรียกค่าธรรมเนียมจากโจทก์ครบถ้วนแล้ว ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์ได้ฟ้องเรียกที่พิพาทจากจำเลย เมื่อศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ศาลจะมีคำสั่งให้ขับไล่จำเลยก็ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(1) หาเป็นการเกินคำขอไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1622/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์นัดฟังคำแถลงการณ์ใหม่และการตัดสินคดีโดยองค์คณะใหม่
เมื่อผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์คณะหนึ่งได้นั่งฟังคำแถลงการณ์ด้วยวาจาของคู่ความครั้งหนึ่งแล้ว ศาลอุทธรณ์ก็ยังมีอำนาจนัดฟังคำแถลงการณ์ใหม่ เพื่อแก้ข้อขัดข้องในการดำเนินกระบวนพิจารณาได้ เมื่อได้นัดใหม่แล้วคู่ความมิได้มาแถลง ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์คณะใหม่ก็ชอบที่จะปรึกษาและตัดสินคดีไปได้ ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 183

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1622/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์ในการนัดฟังคำแถลงการณ์ใหม่และการตัดสินคดีโดยองค์คณะใหม่
เมื่อผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์คณะหนึ่งได้นั่งฟังคำแถลงการณ์ด้วยวาจาของคู่ความครั้งหนึ่งแล้ว ศาลอุทธรณ์ก็ยังมีอำนาจนัดฟังคำแถลงการณ์ใหม่เพื่อแก้ข้อขัดข้องในการดำเนินกระบวนพิจารณาได้ เมื่อได้นัดใหม่แล้วคู่ความมิได้แถลง ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์คณะใหม่ก็ชอบที่จะปรึกษาและตัดสินคดีไปได้ ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 183

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1621/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการไต่สวนมูลฟ้อง & คำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่รับอุทธรณ์
ในการไต่สวนมูลฟ้องคดีอาญา แม้เมื่อโจทก์แสดงว่าหมดพยานแล้ว ศาลก็มีอำนาจสั่งเรียกพยานหลักฐานมาเองเพื่อประกอบการวินิจฉัยทำคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้องได้ และคำสั่งที่ให้รอคดีเพื่อฟังพยานหลักฐานเช่นนี้ เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 และถึงแม้ว่าในคำสั่งนั้นศาลจะได้สั่งไว้ด้วยว่าให้จำหน่ายคดีเสียชั่วคราว ถ้าสำนวนคดีที่ศาลสั่งเรียกมาเพื่อประกอบการวินิจฉัยนั้นเสร็จเมื่อใด ก็ให้โจกท์แถลงให้ศาลทราบ เพื่อจะได้ยกคดีที่มีการไต่สวนมูลฟ้องนี้ขึ้นพิจารณาสั่งต่อไป ดังนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นการสั่งจำหน่ายคดีที่ไม่ทำให้ประเด็นแพ่งคดีเสร็จไป โจทก์ก็ยังไม่มีสิทธิอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งนี้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 18/2506)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1621/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการเรียกพยานหลักฐานเพิ่มเติมระหว่างไต่สวนมูลฟ้องคดีอาญา และคำสั่งรอคดีที่ไม่ทำให้ประเด็นคดีเสร็จ
ในการไต่สวนมูลฟ้องคดีอาญา แม้เมื่อโจทก์แถลงว่าหมดพยานแล้วศาลก็มีอำนาจสั่งเรียกพยานหลักฐานมาเองเพื่อประกอบการวินิจฉัยทำคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้องได้ และคำสั่งที่ให้รอคดีเพื่อฟังพยานหลักฐานเช่นนี้ เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 และถึงแม้ว่าในคำสั่งนั้นศาลจะได้สั่งไว้ด้วยว่าให้จำหน่ายคดีเสียชั่วคราว ถ้าสำนวนคดีที่ศาลสั่งเรียกมาเพื่อประกอบการวินิจฉัยนั้นเสร็จเมื่อใดก็ให้โจทก์แถลงให้ศาลทราบ เพื่อจะได้ยกคดีที่มีการไต่สวนมูลฟ้องนี้ขึ้นพิจารณาสั่งต่อไป ดังนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นการสั่งจำหน่ายคดีที่ไม่ทำให้ประเด็นแห่งคดีเสร็จไป โจทก์ก็ยังไม่มีสิทธิอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งนี้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2506)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1609/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย การอุทธรณ์ และอำนาจศาล
ศาลชั้นต้นรับคำร้องขอแก้ไขคำให้การจำเลยไว้พิจารณาแล้วมีคำสั่งยกคำร้องนั้นเสียคำสั่งยกคำร้องนั้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาและไม่ใช่เป็นกรณีศาลสั่งไม่รับคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 18 จำเลยอุทธรณ์คำสั่งนั้นไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา 226 ศาลอุทธรณ์จึงไม่มีอำนาจรับพิจารณาอุทธรณ์ของจำเลย และศาลฎีกาก็พิจารณาตามข้อฎีกาของจำเลยต่อไปไม่ได้ให้ยกอุทธรณ์ ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และฎีกาจำเลย
of 222