คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความเสียหาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,842 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วางเพลิงเคหะสถานและทรัพย์สินของผู้เสียหาย ไม่เป็นทรัพย์สินเล็กน้อย จึงมีผิดตามกฎหมายอาญา
วางเพลิงจุดเผาบ้านเรือนซึ่งผู้เสียหายและครอบครัวใช้เป็นที่อยู่อาศัย ไม่ใช่เป็นโรงเรือนชั่วคราว เรือนที่ไหม้เป็นเรือนเสาไม้จริงฟากพื้นไม่ไผ่ เครื่องบนไม้รวก หลังคากแฝกและใบหลวง ราคา 150 บาท และไฟยังไหม้ทรัพย์สินของผู้เสียหายอีก 276 บาทไม่ใช่เป็นทรัพย์เล็กน้อยสำหรับชาวชนบท การกระทำของจำเลยจึงเป็นผิดตาม ม.186(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วางเพลิงบ้านพักอาศัย – การประเมินความเสียหายและทรัพย์สินเพื่อพิจารณาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
วางเพลิงจุดเผาบ้านเรือนซึ่งผู้เสียหายและครอบครัวใช้เป็นที่อยู่อาศัย ไม่ใช่เป็นโรงเรือนชั่วคราว เรือนที่ไหม้เป็นเรือนเสาไม้จริง ฟากพื้นไม้ไผ่ เครื่องบนไม้รวก หลังคาแฝกและใบพลวง ราคา 150 บาท และไฟยังไหม้ทรัพย์สินของผู้เสียหายอีก 276 บาท ไม่ใช่เป็นทรัพย์เล็กน้อยสำหรับชาวชนบท การกระทำของจำเลยจึงเป็นผิดตาม มาตรา 186(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1519/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญาและการขาดนัดโจทก์ร่วม
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118, 223,227 โดยบรรยายฟ้องว่าได้กระทำความเสียหายแก่นางสงวนนายบรรจัดและกรมที่ดิน มิได้บรรยายว่าได้กระทำความเสียหายแก่สาธารณชนหรือผู้หนึ่งผู้ใดนั้นเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ ผู้หนึ่งผู้ใดในที่นี้ก็คือนางสงวน นายบรรจัดและกรมที่ดินซึ่งได้บรรยายมาในฟ้องแล้ว
ในคดีซึ่งมีโจทก์ร่วมกันสองคนโจทก์คนหนึ่งมาอีกคนหนึ่งขาดนัด ดังนี้ จะยกฟ้องโจทก์เพราะเหตุขาดนัดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางแพ่งจากการใช้รถของราชการโดยมิได้รับอนุญาต และการขาดเจตนาจ้าง
การที่พลตำรวจเอารถของกรมตำรวจขับไปโดยพลการมิได้ขออนุญาตจากผู้ครอบครองรักษารถไปชนรถโจทก์เสียหาย เมื่อโจทก์ไม่มีพยานแสดงให้เห็นว่าการที่จำเลยที่ 2 ขับรถไปชนรถโจทก์นั้นได้กระทำไปในทางที่จ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425 กรมตำรวจก็ไม่ต้องรับผิด และตามพฤติการณ์เช่นว่านี้ พลตำรวจเป็นผู้ครอบครองรถในขณะเกิดเหตุกรมตำรวจมิได้ครอบครองอันจะต้องรับผิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437 (เข้าที่ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247-1248/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีความเสียหายจากการเดินเรือ: การยกข้อต่อสู้หลังการสืบพยาน
ข้อต่อสู้ของจำเลยที่ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ม.308 นั้น ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน จำเลยจะยกขึ้นต่อสู้หลังจากวันชี้สองสถานและสืบพยานโจทก์ไปแล้วไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ครอบครองเรือเมื่อเกิดความเสียหายจากการกระทำของผู้อื่น
นายท้ายเรือยสต์ของจำเลยได้ขับเรือไปขนเรือยนต์ของโจทก์ที่จอดอยู่เสียหาย จำเลยผู้ครอบครองเรือนั้นยอมต้องรับผิด เพื่อการเสียหายนั้นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกันภัยทางทะเล: การสูญเสียสิ้นเชิงจากภัยทางทะเลและการพิจารณาความเสียหายของสินค้าบรรทุก
กฎหมายทะเลของประเทศไทยในขณะนี้ยังไม่มี ทั้งจารีตประเพณีก็ไม่ปรากฎ เมื่อเกิดมีคดีขึ้น จึงควรเทียบวินิจฉัย ตามหลักกฎหมายทั่วไป.
สัญญาประกันภัยทางทะเลทำขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ จึงควรยึดกฎหมายว่าด้วยการประกันภัยทางทะเลของประเทศ อังกฤษเป็นกฎหมายทั่วไปเพื่อเทียบเคียงวินิจฉีย.
คำว่า "อันตรายทางทะเล" หรือ "ภยันตรายแห่งทะเล" ซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษว่า "Peril of the sea" นั้น ย่อมหมาย ถึงภยันตรายใด ๆ ที่เกิดขึ้นอันเป็นวิสัยที่ท้องทะเลจะบันดาลได้หาจำจะต้องคำนึงถึงว่า ขณะนั้นทะเลเรียบร้อยอยู่ หรือทะเลเป็นบ้าอย่างใดไม่ การที่เรือเกิดรั่วต้องอับปางลงในระหว่างเดินทางในทะเลโดยไม่ใช่ความผิดของใคร ย่อมเป็นอันตรายที่เรือนั้นจะต้องประสพโดยวิสัยในการเดินทางผ่านทะลอยู่แล้ว เป็นอันตรายทางทะเลตามความ หมายแห่งการประกันภัยทางทะเลแล้ว ตามที่ศาลอังกฤษถือตามกันมาก็ถืออันตรายที่เกิดขึ้นโดยโชคกรรมจากทะเล หรือเนื่องจากทะเล.
โจทก์ได้ประกันภัยปูนซิเมนต์จำนวนหนึ่ง บรรทุกเรือยนต์ตรังกานูไปจังหวัดสงขลา ไว้กับจำเลย หรือตรังกานูออก จากท่ากรุงเทฯ จะไปจังหวัดสงขลา พ้นสันดอนปากน้ำเจ้าพระยาไปแล้วประมาณ 10 ไมล์เศษเกิดมีคลื่นลมจัด เรือ โคลงมาก และน้ำเข้าเรือมาก ถ้าไม่กลับเรือจะจม เรือตรังกานูจึงได้แล่นกลับ พยายามแก้ไขและวิดน้ำก็ไม่ดีขึ้น ใน ที่สุดน้ำท่วมเครื่องดับนายเรือให้สัญญาณบอกเหตุเรืออับปาง มีเรือยนต์อื่นมาช่วยถ่ายคนและลากเรือตรังกานูมา ปล่อยไว้ที่กลางน้ำหน้าที่ทำการไปรษณีย์ปากน้ำ,แล้วได้จ้างเรือเล็กลากเข้าฝั่งเกยตื้นจมอยู่ที่ฝั่ง ป้อมผีเสื้อสมุทร ปูน ซิเมนต์ถูกน้ำท่วมเสียหายสิ้นเชิง ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นความเสียหายที่เนื่องจากเรือได้สูญเสียสิ้นเชิงเนื่องจากอัน ตรายทางทะเล แล้วบริษัทผู้รับประกันต้องรับผิด ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานจดข้อความเท็จในเอกสารราชการ ทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ
ปลัดอำเภอกับผู้ช่วยนายด่านศุลกากร และศุลการักษ์ด้านศุลกากรสมคบกันจดข้อความเท็จลงในสมุดบัญชีและทำ รายงานเท็จรับรองการขนสินค้าขึ้นท่า ซึ่งความจริงสินค้ารายนั้นได้ถูกขนย้ายไปสิงคโปร์ โดยมิได้ผ่านการตรวจ รับของพวกจำเลยเลย ดังนี้ ย่อมเป็นการเสียหายแก่ทางราชการในหน้าที่ของจำเลยโดยตรง จำเลยจึงต้องมีความ ผิดตาม าก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 230.
(อ้างฎีกาที่ 1450/2494)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานจดข้อความเท็จในเอกสารราชการ ทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ
ปลัดอำเภอกับผู้ช่วยนายด่านศุลกากร และศุลการักษ์ด่านศุลกากรสมคบกันจดข้อความเท็จลงในสมุดบัญชี และทำรายงานเท็จรับรองการขนสินค้าขึ้นท่า ซึ่งความจริงสินค้ารายนั้นได้ถูกขนย้ายไปสิงคโปร์ โดยมิได้ผ่านการตรวจรับของพวกจำเลยเลย ดังนี้ ย่อมเป็นการเสียหายแก่ทางราชการในหน้าที่ของจำเลยโดยตรง จำเลยจึงต้องมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 230 (อ้างฎีกาที่ 1450/2494)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 865/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในความเสียหายจากการใช้รถยนต์ที่ขายฝาก แม้ผู้ใช้จะไม่ทราบการขายฝาก
จำเลยที่ 1 ขายฝากรถยนต์ 1 คัน ไว้แก่โจทก์ ครบกำหนดไถ่แล้วไม่ไถ่คืน โจทก์จึงโอนทะเบียนเป็นชื่อโจทก์ ใน ระหว่างขายฝากจำเลยที่ 1 ยืมรถยนต์ที่ขายฝากไปใช้ ว่าจะส่งคืนใน 3 วัน แล้วไม่ส่งคืน จำเลยที่ 2 เอารถยนต์นั้น ไปใช้ต่างจังหวัด จนรถยนต์ชำรุดเสียหาย ดังนี้ จำเลยที่ 2 ก็ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ด้วย เพราะเป็นการ ละเมิดสิทธิของโจทก์ แม้จำเลยที่ 2 จะไม่รู้ว่ามีการขายฝาก ก็ไม่เป็นข้อแก้ตัวไปได้.
of 185