คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เช็ค

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,865 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1093/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชี แม้ชำระบางส่วนก็ไม่ทำให้คดีเลิกกันตามกฎหมาย
จำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นแล้ว แม้จำเลยได้นำเงินไปชำระให้ผู้เสียหายบางส่วน ยังไม่ครบตามจำนวนในเช็คนั้น ก็ยังไม่มีผลให้คดีเป็นอันเลิกกันตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 985/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีฉ้อโกง: การแจ้งความเพื่อรักษาอายุความเช็คไม่ใช่การร้องทุกข์
คำแจ้งความที่มีถ้อยคำที่แจ้งปรากฏชัดว่าโจทก์มาขอแจ้งความกล่าวหาว่า จำเลยร่วมกันออกเช็คไม่มีเงินให้ผู้แจ้ง ผู้แจ้งยังไม่ประสงค์ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวจำเลยมาดำเนินคดี เพียงแต่มาแจ้งให้ทราบไว้เป็นหลักฐาน มิให้เช็คขาดอายุความไปเท่านั้น ข้อความตามที่โจทก์แจ้งไม่ใช่คำร้องทุกข์ในความผิดฐานฉ้อโกง
โจทก์รู้ว่าจำเลยฉ้อโกงโจทก์เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2507แล้วไปแจ้งความร้องทุกข์ เรื่องจำเลยออกเช็คไม่มีเงินให้โจทก์ที่สถานีตำรวจเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2507 แล้วโจทก์มาฟ้องจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2511 เช่นนี้ ถือว่าคดีขาดอายุความ เพราะไม่ได้ร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความสะดุดหยุดลงจากการสลักหลังเช็ค การนับอายุความเริ่มจากวันที่เช็คสั่งจ่าย
เรื่องอายุความนั้นหาใช่สภาพแห่งข้อหาไม่ โจทก์ไม่จำเป็นต้องกล่าวมาในฟ้องว่า คดีของโจทก์ยังไม่ขาดอายุความเพราะเหตุใด
การที่จำเลยสลักหลังเช็คให้โจทก์เพื่อชำระเงินค่าซื้อเชื่อนั้นถือได้ว่าเป็นการกระทำอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์
จำเลยสลักหลังเช็คให้โจทก์เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2505แต่เช็คนั้นเป็นเช็คลงวันที่ล่วงหน้า สั่งจ่ายในวันที่ 26 พฤษภาคม 2505ดังนี้ หมายความว่าจำเลยได้รับสภาพหนี้ต่อโจทก์ในวันที่ 23 เมษายน2505 ว่าจะชำระเงินเป็นเช็คให้ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2505 นั่นเอง
เหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงสำหรับคดีนี้สิ้นสุดลงในวันที่ 26 พฤษภาคม 2505 คือ วันที่สั่งจ่ายเงินในเช็ค จึงเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2505 เพราะวันนั้นเป็นวันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องตามเช็คได้เป็นต้นไป ดังนั้น อายุความ2 ปีครบในวันที่ 26 พฤษภาคม 2507 ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา เป็นวันหยุดราชการ โจทก์ยื่นฟ้องในวันที่ 27 พฤษภาคม 2507 คดีจึงยังไม่ขาดอายุความ
(ปัญหาตามวรรคสอง, สี่ วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8,9/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนเช็คโดยสุจริตของผู้ทรง แม้ผู้สลักหลังจะทุจริต ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดตามเช็ค
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คและโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คดังกล่าวโดย จ. ได้สลักหลังแล้วมอบให้โจทก์ โจทก์นำเช็คนี้เข้าบัญชี แต่ธนาคารคืนเช็คมายังโจทก์ เพราะจำเลยได้สั่งอายัดไว้ โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทจริงโดยเตรียมไว้สำหรับชำระหนี้ให้แก่ผู้อื่น แต่ จ. ได้ลักเช็คดังกล่าวไปเสียก่อน จำเลยได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานแล้ว โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีนิติสัมพันธ์อันใดกับจำเลยจึงไม่มีสิทธิเรียกร้องประการใดจากจำเลย ดังนี้ เมื่อจำเลยมิได้กล่าวอ้างต่อสู้ว่า โจทก์รับโอนเช็คพิพาทนั้นมาโดยคบคิดกับ จ. เพื่อฉ้อฉลจำเลยก็ต้องถือว่าโจทก์ได้รับเช็คมาโดยสุจริต การที่ จ. แต่ฝ่ายเดียวเป็นผู้ทุจริตจึงไม่เป็นข้อต่อสู้ที่จำเลยจะยกขึ้นใช้ยันกับโจทก์ผู้ทรงได้ตาม มาตรา 905 และมาตรา 916 ฉะนั้นจำเลยจึงหามีสิทธิที่จะนำพยานเข้าสืบตามข้อต่อสู้ของจำเลยดังที่ปรากฏในคำให้การไม่ เช็คพิพาทเป็นเช็คที่ออกให้แก่ผู้ถือโจทก์เป็นผู้ถือจึงนับได้ว่าเป็นผู้ทรง เมื่อโจทก์นำไปขึ้นเงินจากธนาคารไม่ได้จำเลยก็ย่อมมีหน้าที่ต้องใช้เงินตามเช็คนั้นให้แก่โจทก์
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ทรงเช็คโดยสุจริตได้รับความคุ้มครอง แม้ผู้สลักหลังจะทุจริต จำเลยไม่สามารถยกข้อต่อสู้ได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คและโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คดังกล่าวโดย จ. ได้สลักหลังแล้วมอบให้โจทก์ โจทก์นำเช็คนี้เข้าบัญชี แต่ธนาคารคืนเช็คมายังโจทก์ เพราะจำเลยได้สั่งอายัดไว้ โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทจริงโดยเตรียมไว้สำหรับชำระหนี้ให้แก่ผู้อื่น แต่ จ. ได้ลักเช็คดังกล่าวไปเสียก่อน จำเลยได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานแล้ว โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีนิติสัมพันธ์อันใดกับจำเลยจึงไม่มีสิทธิเรียกร้องประการใดจากจำเลย ดังนี้ เมื่อจำเลยมิได้กล่าวอ้างต่อสู้ว่า โจทก์รับโอนเช็คพิพาทนั้นมาโดยคบคิดกับ จ. เพื่อฉ้อฉลจำเลยก็ต้องถือว่าโจทก์ได้รับเช็คมาโดยสุจริต การที่ จ. แต่ฝ่ายเดียวเป็นผู้ทุจริตจึงไม่เป็นข้อต่อสู้ที่จำเลยจะยกขึ้นใช้ยันกับโจทก์ผู้ทรงได้ตาม มาตรา 905 และมาตรา 916 ฉะนั้น จำเลยจึงหามีสิทธิที่จะนำพยานเข้าสืบตามข้อต่อสู้ของจำเลยดังที่ปรากฏในคำให้การไม่ เช็คพิพาทเป็นเช็คที่ออกให้แก่ผู้ถือโจทก์เป็นผู้ถือจึงนับได้ว่าเป็นผู้ทรง เมื่อโจทก์นำไปขึ้นเงินจากธนาคารไม่ได้จำเลยก็ย่อมมีหน้าที่ต้องใช้เงินตามเช็คนั้นให้แก่โจทก์
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 441/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขฟ้องคดีเช็ค: วันที่ออกเช็คไม่ใช่ข้อสารสำคัญ การแก้ฟ้องต้องไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
คำฟ้องกล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2511 เวลากลางวัน จำเลยบังอาจออกเช็คสั่งจ่ายเงินใน วันที่ 8 สิงหาคม 2511 มอบให้โจทก์เพื่อชำระหนี้เป็นคำฟ้องที่กล่าวหาว่าจำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินล่วงหน้า เช่นนี้ ต้องถือเอาวันถึงกำหนดใช้เงินที่ลงไว้ในเช็คเป็นวันเวลากระทำผิด วันที่จำเลยออกเช็ค หรือวันที่เขียนเช็คส่งมอบให้โจทก์จึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคำฟ้อง
การที่โจทก์ขอแก้วันที่จำเลยออกเช็คหรือวันที่เขียนเช็คให้โจทก์ในเวลาภายหลังต่อมา เท่ากับเป็นการแก้ไขในข้อที่ไม่ใช่ข้อสารสำคัญในคำฟ้องและเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธว่า มิได้กระทำความผิดตามฟ้อง แต่นำสืบรับว่าได้ออกเช็คตามฟ้องจริง แต่ออกให้คนอื่น ดังนี้ ไม่ทำให้เห็นว่าจำเลยเสียเปรียบหรือหลงต่อสู้ในข้อที่ผิดหรือข้อที่โจทก์แก้ฟ้อง
ถึงแม้จะปรากฏว่าวันออกเช็คให้โจทก์หรือวันเขียนเช็คให้โจทก์ตามคำฟ้องจะเป็นวันหนึ่ง ทางพิจารณากลับเป็นอีกวันหนึ่งต่างกัน ก็มิใช่ข้อแตกต่างในข้อสารสำคัญ และจำเลยหลงต่อสู้อันต้องแยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1983/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็คโดยรู้ว่าไม่มีเงินจ่าย ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยออกเช็คให้ผู้เสียหายด้วยการใช้เช็คของ ส. และส่งชื่อของ ส. เป็นผู้สั่งจ่าย โดยทำให้ผู้เสียหายหลงผิดว่าจำเลย คือ ส. ผู้มีอำนาจสั่งจ่าย เมื่อผู้เสียหายรับเงินตามเช็คไม่ได้เพราะธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค เป็นความผิดตามมาตรา 3(1) พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ฯ
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 29/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1983/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็คที่ไม่สามารถใช้ได้ การหลอกลวงให้เข้าใจผิดถึงผู้สั่งจ่ายเช็ค
จำเลยใช้เช็คของ ส. และลงชื่อ ส. เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คนั้น แล้วมอบให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้ ทำให้ผู้เสียหายหลงผิดว่าจำเลยเป็น ส. ผู้มีอำนาจสั่งจ่าย แล้วผู้เสียหายไปรับเงินไม่ได้เพราะธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เช่นนี้ ถือเป็นการออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1895/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายทรัพย์สินที่มีตำหนิ การรอนสิทธิ และผลกระทบต่อการเรียกร้องค่าเช็ค
มีผู้ลักปากกามาขายให้โจทก์ โจทก์ซื้อไว้แล้วนำมาขายให้กับจำเลย โดยจำเลยไม่รู้ ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจยึดปากกาไปจากจำเลยและคืนให้เจ้าของไป ถือว่าเป็นการรอนสิทธิจำเลย โจทก์ซึ่งเป็นผู้ขายต้องรับผิด จึงไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายเป็นค่าปากกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1812/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาการออกเช็ค: ชำระหนี้หรือประกันการกู้ยืม? ศาลฎีกาตัดสินคดีเช็คไม่มีเงิน
จำเลยยืมเงินโจทก์ร่วมแล้วออกเช็คให้ไว้โดยตกลงกันว่า เมื่อเช็คถึงกำหนดให้โจทก์ร่วมไปขึ้นเงินเป็นการชำระหนี้เงินยืม อันเป็นการแสดงเจตนาจะใช้เช็คนั้น เป็นการชำระหนี้มิใช่เพื่อประกันเงินกู้ ดังนี้ เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยย่อมมีความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น
of 187