พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,377 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจของคณะปฏิวัติหลังยึดอำนาจ: ประกาศคณะปฏิวัติมีผลเป็นกฎหมาย
คณะปฏิวัติได้ทำการยึดอำนาจปกครองประเทศได้เป็นผลสำเร็จหัวหน้าคณะปฏิวัติย่อมเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบ้านเมือง ข้อความใดที่หัวหน้าคณะปฏิวัติสั่งบังคับประชาชนก็ต้องถือว่าเป็นกฎหมาย แม้พระมหากษัตริย์จะมิได้ทรงตราออกมาด้วยคำแนะนำและยินยอมของสภาผู้แทนราษฎรหรือสภานิติบัญญัติของประเทศก็ตาม ฉะนั้น ประกาศของคณะปฏิวัติซึ่งประกาศคำสั่งของหัวหน้าคณะปฏิวัติบังคับแก่ประชาชนจึงเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับในการปกครองในลักษณะเช่นนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1606/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าไม่กำหนดเวลาชำระค่าเช่า ต้องบังคับตามกฎหมาย และโจทก์ต้องพิสูจน์ข้อตกลงพิเศษเอง
ตกลงทำสัญญาชำระค่าเช่าที่ดินเป็นรายปี แต่มิได้กำหนดว่าจะชำระค่าเช่าเวลาใด ดังนี้ก็พึงชำระเมื่อสิ้นปี
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยตกลงชำระค่าเช่าล่วงหน้า จำเลยให้การต่อสู้ว่าสัญญาไม่ได้กำหนดชำระค่าเช่าเวลาใด จำเลยจึงมีสิทธิชำระให้เมื่อสิ้นปีการเช่า การที่จำเลยยอมชำระมาในปีก่อน ๆ เป็นเรื่องช่วยเหลือโจทก์เท่านั้น ดังนี้ ถือว่าจำเลยมิได้ให้การรับว่าได้มีข้อตกลงชำระค่าเช่าล่วงหน้า จึงเป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบให้ได้ความตามฟ้อง มิฉะนั้น ก็ต้องแพ้คดี
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยตกลงชำระค่าเช่าล่วงหน้า จำเลยให้การต่อสู้ว่าสัญญาไม่ได้กำหนดชำระค่าเช่าเวลาใด จำเลยจึงมีสิทธิชำระให้เมื่อสิ้นปีการเช่า การที่จำเลยยอมชำระมาในปีก่อน ๆ เป็นเรื่องช่วยเหลือโจทก์เท่านั้น ดังนี้ ถือว่าจำเลยมิได้ให้การรับว่าได้มีข้อตกลงชำระค่าเช่าล่วงหน้า จึงเป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบให้ได้ความตามฟ้อง มิฉะนั้น ก็ต้องแพ้คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1560/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วัตถุระเบิดตามกฎหมาย: ต้องมีกำลังทำลายหรือแรงประหารเพียงพอ จึงจะถือเป็นวัตถุระเบิดได้
แก๊ปกระดาษเป็นเม็ดเล็ก ๆ ติดกับกระดาษโตขนาดหัวไม้ขีดไฟบ้าง เล็กกว่าบ้าง อยู่ห่าง ๆ กัน เมื่อมีจำนวนไม่มากพอจะทำให้มีแรงทำลายหรือแรงประหารขึ้นได้ขณะระเบิดแล้ว ก็ยังไม่ถึงขนาดที่จะถือว่าเป็นวัตถุระเบิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1557/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกร้องค่าธรรมเนียมจากผู้ประกอบการแพปลาที่กระทำผิดกฎหมาย: โจทก์ฟ้องเรียกค่าธรรมเนียมจากผู้ประกอบการที่ไม่ขออนุญาตได้หรือไม่
จำเลยประกอบกิจการแพปลาโดยมิได้รับอนุญาตและเสียค่าธรรมเนียม ย่อมมีความผิดตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบกิจการแพปลา พ.ศ. 2496 มาตรา 29, 38 ซึ่งเป็นบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนทางอาญาอยู่แล้ว ฉะนั้น กรมประมงจะฟ้องร้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหายหรือค่าธรรมเนียมประกอบกิจการแพปลาตามที่กฎหมายกำหนดอัตราไว้จากจำเลยโดยอ้างว่าจำเลยประกอบกิจการแพปลาโดยมิได้รับอนุญาต และไม่ได้เสียค่าธรรมเนียมทำให้กรมประมงเสียหายขาดรายได้ ซึ่งควรจะได้รับจากค่าธรรมเนียมตามที่พระราชบัญญัติดังกล่าวกำหนดอัตราไว้ หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 153/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองย้อนหลัง: การกระทำก่อนมีกฎหมายไม่มีความผิด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยเมื่อ พ.ศ. 2463 โดยมิได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2493 ปรากฏว่าพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองได้ประกาศในประเทศไทย เป็นครั้งแรกใน พ.ศ. 2470 จำเลยเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อ พ.ศ. 2493 ซึ่งยังไม่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมืองในขณะนั้น จำเลยจึงไม่มีหน้าที่ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน การเข้ามารในราชอาณาจักรไทยของจำเลยในปี พ.ศ. 2463 เป็นการเข้าได้โดยเสรี จำเลยย่อมไม่มีความผิดตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 153/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับใช้กฎหมายย้อนหลังกับบุคคลที่เข้ามาในประเทศก่อนมีกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยเมื่อ พ.ศ.2463 โดยมิได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2493 ปรากฏว่า พระราชบัญญัติคนเข้าเมืองได้ประกาศใช้ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ในพ.ศ.2470 จำเลยเข้ามาในราชอาณาจักรไทยเมื่อ พ.ศ.2463 ซึ่งยังไม่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.คนเข้าเมืองในขณะนั้นจำเลยจึงไม่มีหน้าที่ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานการเข้ามาในราชอาณาจักรไทยของจำเลยใน พ.ศ.2463 จึงเป็นการเข้าได้โดยเสรี จำเลยย่อมไม่มีความผิดตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1286/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานยักยอก การปรับกระทงความผิด และหลักการใช้กฎหมายที่เป็นผลดีต่อจำเลย
คดีที่จำเลยกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน อันเป็นความผิดหลายกระทง บางกระทงควบเกี่ยวระหว่างใช้กฎหมายเก่าและใหม่ ไม่แน่ว่าจำเลยกระทำความผิดตามกฎหมายใดนั้น ศาลต้องพิจารณาใช้กฎหมายที่เป็นผลดีแก่จำเลย
จำเลยรับราชการตำแหน่งเสมียนตราได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่รับและจำหน่ายสลากกินแบ่ง เมื่อบังอาจเบียดบังเงินค่าขายสลากกินแบ่งไว้เป็นของตนโดยทุจริต ย่อมมีความผิดฐานยักยอกธรรมดา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ไม่ใช่มาตรา 353, หรือมาตรา 354
การกระทำผิดหลายกระทงซึ่งมีโทษหนักเท่ากันนั้น ศาลย่อมลงโทษจำเลยกระทงใดกระทงหนึ่งแต่กระทงเดียวได้
จำเลยรับราชการตำแหน่งเสมียนตราได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่รับและจำหน่ายสลากกินแบ่ง เมื่อบังอาจเบียดบังเงินค่าขายสลากกินแบ่งไว้เป็นของตนโดยทุจริต ย่อมมีความผิดฐานยักยอกธรรมดา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ไม่ใช่มาตรา 353, หรือมาตรา 354
การกระทำผิดหลายกระทงซึ่งมีโทษหนักเท่ากันนั้น ศาลย่อมลงโทษจำเลยกระทงใดกระทงหนึ่งแต่กระทงเดียวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1023/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องคดีต้องเกิดจากข้อพิพาทที่ชัดเจน การฟ้องก่อนดำเนินการตามกฎหมายเพื่อพิสูจน์สัญชาติจึงไม่ชอบ
โจทก์ถือหนังสือเดินทางที่พนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ฮ่องกงออกให้ ระบุว่าโจทก์เป็นคนสัญชาติจีน เมื่อโจทก์เดินทางเข้ามาถึงประเทศไทยเพื่อขออยู่ชั่วคราวกองตรวจคนเข้าเมืองก็อนุญาต แต่ก่อนถึงวันครบกำหนด โจทก์ก็ยื่นฟ้องกรมตำรวจกับหัวหน้ากองตรวจคนเข้าเมืองเป็นจำเลยอ้างว่าโจทก์เป็นคนไทยโดยกำเนิด ขอให้จำเลยระงับคำสั่งให้โจทก์ออกไปจากประเทศไทย ทั้งนี้ โดยโจทก์ให้เหตุผลว่ากลัวจะถูกส่งออกนอกประเทศไทยเมื่อครบกำหนดวันที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ ซึ่งแท้จริงแล้วทางจำเลยยังมิได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์ที่จะอยู่ในประเทศไทยและโจทก์ไม่มีหลักฐานใดแสดงว่าก่อนยื่นฟ้องคดีนี้โจทก์ได้เคยร้องต่อจำเลยว่าโจทก์เป็นคนไทย ไม่ได้ยื่นขอพิสูจน์สัญชาติต่อศาลหรือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ดังนี้ โจทก์ยังไม่มีสิทธิที่จะฟ้องจำเลยต่อศาลได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 936/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบการชำระดอกเบี้ยและเงินที่ได้รับจริง แม้ไม่มีหลักฐานหนังสือ ก็ทำได้ตามกฎหมาย
จำเลยขอสืบพยานบุคคลว่า ได้ชำระดอกเบี้ยให้โจทก์ไปแล้วได้ แม้จะไม่มีพยานหลักฐานเป็นหนังสือมาแสดงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรค 2
จำเลยขอสืบว่า เวลาจำนองโจทก์จ่ายเงินให้เพียง 50,000 บาท หักเอาไว้เป็นดอกเบี้ยเสีย 10,000 บาท (แต่ทำสัญญาจำนองเป็นเงิน 60,000 บาท)่ จำเลยนำพยานบุคคลมาสืบได้ ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 แต่เป็นการนำสืบถึงการชำระดอกเบี้ย
จำเลยขอสืบว่า เวลาจำนองโจทก์จ่ายเงินให้เพียง 50,000 บาท หักเอาไว้เป็นดอกเบี้ยเสีย 10,000 บาท (แต่ทำสัญญาจำนองเป็นเงิน 60,000 บาท)่ จำเลยนำพยานบุคคลมาสืบได้ ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 แต่เป็นการนำสืบถึงการชำระดอกเบี้ย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำเนาเอกสารทางกฎหมาย: ถือฉบับยื่นต่อศาลเป็นหลัก
ต้นฉบับใบมอบอำนาจฟ้องคดีมีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ 2 คนครบถ้วน แต่สำเนาที่ส่งให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งปรากฎว่าตกพยานไปคนหนึ่ง ดังนี้ ต้องถือต้นฉบับที่ยื่นต่อศาลเป็นสำคัญ