พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,244 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยสภาพไม้เป็นสิ่งปลูกสร้างเป็นข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์แก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อย ฎีกาไม่ได้
การที่ศาลฟังว่า ไม้ของกลางใดมีสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือไม่ใช่เป็นสิ่งปลูกสร้างนั้น เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นในเรื่องไม้แปรรูปที่จำเลยมีไว้รวมอยู่ด้วยกันบางรายการว่าเป็นไม้ผิดกฎหมายเพิ่มจำนวนขึ้น แม้จะลงโทษปรับจำเลยอีกสถานหนึ่งก็เป็นการแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นเล็กน้อย ต้องห้ามไม่ให้ฎีกาให้ปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นในเรื่องไม้แปรรูปที่จำเลยมีไว้รวมอยู่ด้วยกันบางรายการว่าเป็นไม้ผิดกฎหมายเพิ่มจำนวนขึ้น แม้จะลงโทษปรับจำเลยอีกสถานหนึ่งก็เป็นการแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นเล็กน้อย ต้องห้ามไม่ให้ฎีกาให้ปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1622/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์นัดฟังคำแถลงการณ์ใหม่และการตัดสินคดีโดยองค์คณะใหม่
เมื่อผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์คณะหนึ่งได้นั่งฟังคำแถลงการณ์ด้วยวาจาของคู่ความครั้งหนึ่งแล้ว ศาลอุทธรณ์ก็ยังมีอำนาจนัดฟังคำแถลงการณ์ใหม่ เพื่อแก้ข้อขัดข้องในการดำเนินกระบวนพิจารณาได้ เมื่อได้นัดใหม่แล้วคู่ความมิได้มาแถลง ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์คณะใหม่ก็ชอบที่จะปรึกษาและตัดสินคดีไปได้ ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 183
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1622/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์ในการนัดฟังคำแถลงการณ์ใหม่และการตัดสินคดีโดยองค์คณะใหม่
เมื่อผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์คณะหนึ่งได้นั่งฟังคำแถลงการณ์ด้วยวาจาของคู่ความครั้งหนึ่งแล้ว ศาลอุทธรณ์ก็ยังมีอำนาจนัดฟังคำแถลงการณ์ใหม่เพื่อแก้ข้อขัดข้องในการดำเนินกระบวนพิจารณาได้ เมื่อได้นัดใหม่แล้วคู่ความมิได้แถลง ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์คณะใหม่ก็ชอบที่จะปรึกษาและตัดสินคดีไปได้ ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 183
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1586/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์วินิจฉัยประเด็นใหม่จากคำแก้ฟ้อง และการพิสูจน์การรับเงินกินเปล่า
จำเลยฟ้องแย้งให้โจทก์คืนเงินกินเปล่าโจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่าไม่เคยเรียกเกินจากจำเลย ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์เรียกเงินกินเปล่าจากจำเลยจริง แต่จำเลยได้ใช้ห้องพิพาทสมควรแก่เงินค่ากินเปล่าแล้ว พิพากษาให้ยกฟ้องแย้ง ดังนี้ แม้จำเลยจะอุทธรณ์ให้โจทก์คืนเงินกินเปล่า ที่ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์เรียกจากจำเลยจริงก็ดี หากโจทก์ได้แก้อุทธรณ์ของจำเลยให้ปรากฎไว้ด้วยว่า โจทก์ไม่เคยรับเงินกินเปล่าดังกล่าวนี้เลยแล้ว ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจวินิจฉัยว่าโจทก์เคยรับเงินกินเปล่ารายนี้หรือไม่ได้ เพราะประเด็นที่ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยนั้น มิใช่ว่าจะมีอยู่ในคำฟ้องอุทธรณ์เท่านั้น ในคำแก้อุทธรณ์ของอีกฝ่ายหนึ่งก็อาจตั้งประเด็นขึ้นมาให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1586/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์วินิจฉัยประเด็นใหม่จากคำแก้อุทธรณ์: เงินกินเปล่า
จำเลยฟ้องแย้งให้โจทก์คืนเงินกินเปล่า โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่าไม่เคยเรียกเงินจากจำเลย ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์เรียกเงินกินเปล่าจากจำเลยจริง แต่จำเลยได้ใช้ห้องพิพาทสมควรแก่เงินค่ากินเปล่าแล้วพิพากษาให้ยกฟ้องแย้ง ดังนี้ เมื่อจำเลยอุทธรณ์ให้โจทก์คืนเงินกินเปล่าที่ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์ได้เรียกจากจำเลยจริง และโจทก์ได้แก้อุทธรณ์ของจำเลยให้ปรากฏไว้ด้วยว่า โจทก์ไม่เคยรับเงินกินเปล่าดังกล่าวนี้แล้วศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจวินิจฉัยได้ว่า โจทก์เคยรับเงินกินเปล่ารายนี้หรือไม่เพราะประเด็นที่ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยนั้นมิใช่ว่าจะมีอยู่ในคำฟ้องอุทธรณ์เท่านั้นในคำแก้อุทธรณ์ของอีกฝ่ายหนึ่ง ก็อาจตั้งประเด็นขึ้นมาให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ข้อเท็จจริงต้องห้ามตามกฎหมาย การฎีกาซ้ำในประเด็นที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับพิจารณา
ศาลอุทธรณ์ไม่รับพิจารณาอุทธรณ์โจทก์เพราะเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 แล้ว โจทก์จะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงขึ้นมาอีกไม่ได้ เพราะถือได้ว่า ข้อเท็จจริงที่โจทก์ฎีกาไม่มีการยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ฎีกาโจทก์ต้องห้ามตามมาตรา 249 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ข้อเท็จจริงต้องห้ามตามมาตรา 224 และการฎีกาในประเด็นที่ไม่ได้ยกขึ้นในศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ไม่รับพิจารณาอุทธรณ์โจทก์ เพราะเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 224 แล้ว โจทก์จะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงขึ้นมาอีกไม่ได้ เพราะถือได้ว่าข้อเท็จจริงที่โจทก์ฎีกาไม่มีการยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ฎีกาโจทก์ต้องห้ามตามมาตรา 249 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1117/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการฎีกาในประเด็นข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยเนื่องจากต้องห้าม
คดีไม่มีทุนทรัพย์ (คดีฟ้องขับไล่) ที่ต้องห้ามอุทธรณ์ ในปัญหาข้อเท็จจริงนั้น แม้จะไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงด้วย ศาลฎีกาก็รับพิจารณาข้อเท็จจริงที่ได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์เท่านั้น
ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยข้อเท็จจริงให้เพราะต้องห้ามอุทธรณ์ ต้องถือว่าข้อเท็จจริงนั้นมิได้ว่ากันมาในศาลอุทธรณ์ แม้คดีจะฎีกาข้อเท็จจริงได้ ศาลฎีกาก็ไม่วินิจฉัยข้อเท็จจริงนี้ให้
ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยข้อเท็จจริงให้เพราะต้องห้ามอุทธรณ์ ต้องถือว่าข้อเท็จจริงนั้นมิได้ว่ากันมาในศาลอุทธรณ์ แม้คดีจะฎีกาข้อเท็จจริงได้ ศาลฎีกาก็ไม่วินิจฉัยข้อเท็จจริงนี้ให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดในการฎีกาคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์แก้ไขเฉพาะจำนวนทรัพย์ที่ยักยอก ศาลฎีกาต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยกระทำความผิดฐานยักยอก ให้จำคุก 6 เดือน รอการลงโทษไว้3 ปีและให้ใช้เงินแก่ผู้เสียหาย 120,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้เงิน แก่ผู้เสียหาย 66,000 บาท นอกนั้นยืน ดังนี้ คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ฉะนั้น ข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดว่าจำเลยยักยอกเงินเพียง 66,000 บาท จึงเป็นอันยุติ ซึ่งศาลจะต้องถือตามในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนวนเงินยักยอกที่ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดมีผลผูกพันในการพิจารณาคดีแพ่งตามไปด้วย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยกระทำความผิดฐานยักยอกให้จำคุก 6 เดือน รอการลงโทษไว้ 3 ปี และให้ใช้เงินแก่ผู้เสียหาย 120,000 บาทศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้เงินแก่ผู้เสียหาย 66,000 บาทนอกนั้นยืนดังนี้ คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ฉะนั้น ข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดว่าจำเลยยักยอกเงินเพียง 66,000 บาท จึงเป็นอันยุติ ซึ่งศาลจะต้องถือตามในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง