คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อำนาจศาล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,218 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 732/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลทหารในการพิจารณาประกันตัวและการแก้ไขค่าปรับ คดีอาญาที่ขึ้นศาลทหารไม่อุทธรณ์ต่อศาลพลเรือนได้
คดีที่ขึ้นศาลทหารและพวกทหารได้สั่งเรื่องประกันไปอย่างไรแล้ว จะอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลอุทธรณ์อันเป็นศาลพลเรือนไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 732/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาล: คำสั่งศาลทหารเรื่องประกันคดีอาญา ไม่สามารถอุทธรณ์ต่อศาลพลเรือนได้
คดีที่ขึ้นศาลทหารและศาลทหารได้สั่งเรื่องประกันไปอย่างไรแล้ว จะอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลอุทธรณ์อันเป็นศาลพลเรือนไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจรับฟังพยานเดิมหลังศาลอุทธรณ์ยกคำพิพากษาและสั่งพิจารณาใหม่
เดิมศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยขาดนัด และให้สืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ ในการพิจารณาใหม่เช่นนี้ แม้โจทก์จะขาดนัดพิจารณาศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานของโจทก์ที่ได้เคยสืบไว้แต่เดิมนั้นได้เพราะในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มิได้สั่งให้ยกเลิกกระบวนพิจารณาเรื่องพยานหลักฐานที่สืบมาก่อนแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลพลเรือนเมื่อจำเลยเป็นทหาร - พระธรรมนูญศาลทหาร
ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาต่อศาลพลเรือน ศาลพลเรือนสั่งรับฟ้องไว้แล้ว ต่อมาความปรากฏว่า จำเลยเป็นทหารประจำการซึ่งควรจะถูกฟ้องต่อศาลทหาร ดังนี้ ศาลพลเรือนย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนั้นได้ ตามพระธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ.2498มาตรา 15 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลฟ้องคดีอาญา: ดุลพินิจไม่อนุญาตฟ้องต่อศาลอาญาชอบด้วยกฎหมาย
ศาลล่าง 2 ศาล พิพากษาต้องกันให้คืนฟ้อง โจทก์ฎีกาได้ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
เหตุคดีอาญาเกิดที่จังหวัดศรีสะเกษ และจำเลยก็อยู่ในท้องที่จังหวัดศรีสะเกษ แต่ตัวโจทก์ต้องถูกควบคุมอยู่ที่จังหวัดพระนคร ดังนี้การที่ศาลอาญาใช้ดุลพินิจ ไม่อนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลอาญาเป็นดุลพินิจที่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1197/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการลดค่าปรับตามสัญญา แม้จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ และผลกระทบต่อลูกหนี้ผู้ไม่ฎีกา
ข้อกำหนดเบี้ยปรับตามสัญญา อยู่ในอำนาจศาลจะพิจารณาให้ตามสัญญาหรือตามที่ศาลเห็นสมควรได้ ถึงแม้จำเลยจะมิได้ให้การต่อสู้ไว้ เมื่อจำเลยอุทธรณ์ฎีกาโต้แย้งมา ศาลฎีการับพิจารณาให้ได้
โจทก์ฟ้องลูกหนี้กับผู้ค้ำประกันให้รับผิดตามสัญญา ผู้ค้ำประกันผู้เดียวฎีกาเมื่อศาลฎีกาพิพากษาให้เป็นคุณแก่ผู้ค้ำประกัน คำพิพากษานั้นย่อมมีผลเป็นคุณแก่ลูกหนี้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 918/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการเลื่อนคดีและตัดพยานเมื่อพยานไม่มาศาล และการพิจารณาความยุติธรรมในคดีอาญา
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 111 พยานได้รับหมายเรียกแล้วไม่มาศาล ศาลจะเลื่อนการพิจารณาไปและออกหมายจับก็ได้ บทบัญญัตินี้ให้อำนาจแก่ศาลจะหยิบยกขึ้นเอง โดยศาลเห็นสมควรหรือเมื่อคู่ความร้องขอ คดีอาญาเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำพยานหลักฐานมาแสดงว่าจำเลยกระทำผิดดังฟ้อง สำหรับคดีนี้ ต้องเลื่อนคดีมาหลายครั้งก็จริง แต่โจทก์ก็พยายามที่จะเอาตัวพยานตลอดมา ถ้าจำเลยต้องขัง ศาลฎีกาก็เห็นควรตัดพยานโจทก์ แต่เนื่องจากจำเลยมีประกันตัวไป หากจะให้เลื่อนก็ไม่ลำบากแก่จำเลยและไม่เสียความยุติธรรม เมื่อพิจารณาถึงข้อนี้ประกอบพฤติการณ์ต่าง ๆ ในสำนวน ควรให้โอกาศโจทก์เลื่อนการพิจารณาไปอีกครั้งหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 918/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการเลื่อนคดีและตัดพยานเมื่อพยานไม่มาศาล – คดีอาญา
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 111 พยานได้รับหมายเรียกแล้วไม่มาศาล ศาลจะเลื่อนการพิจารณาไปและออกหมายจับก็ได้บทบัญญัตินี้ให้อำนาจแก่ศาลจะหยิบยกขึ้นเองโดยศาลเห็นสมควรหรือเมื่อคู่ความร้องขอ คดีอาญาเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องนำพยานหลักฐานมาแสดงว่าจำเลยกระทำผิดดังฟ้อง สำหรับคดีนี้ต้องเลื่อนคดีมาหลายครั้งก็จริง แต่โจทก์ก็พยายามที่จะเอาตัวพยานตลอดมา ถ้าจำเลยต้องขัง ศาลฎีกาก็เห็นควรตัดพยานโจทก์ แต่เนื่องจากจำเลยมีประกันตัวไป หากจะให้เลื่อนก็ไม่ลำบากแก่จำเลยและไม่เสียความยุติธรรม เมื่อพิจารณาถึงข้อนี้ประกอบพฤติการณ์ต่างๆ ในสำนวน ควรให้โอกาสโจทก์เลื่อนการพิจารณาไปอีกครั้งหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 889/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กฎหมายยกเว้นโทษอาวุธปืนใหม่มีผลถึงคดีระหว่างพิจารณา ศาลอุทธรณ์มีอำนาจยกฟ้องจำเลยทั้งหมด
คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2501 มาตรา 9 บัญญัติให้ผู้มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต นำปืนไปขอรับอนุญาตภายใน 90 วัน โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษดังนี้ จึงต้องถือว่า ในระหว่างนั้นกฎหมายยกเว้นโทษแก่ผู้มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ในระหว่างใช้พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯดังกล่าว ศาลอุทธรณ์ย่อมยกฟ้องได้ และแม้จะอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภายหลังระยะเวลา 90 วัน ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ก็หาทำให้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เสียไปไม่ (อ้างฎีกาที่ 766/2490) (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2503)
จำเลยที่ต้องโทษไม่ได้อุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่ามีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ออกใหม่บัญญัติว่า การกระทำของจำเลยไม่ต้องรับโทษ นับว่าเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยอื่นที่ไม่ได้อุทธรณ์ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรวมกระทงโทษอาญา: ศาลมีอำนาจลงโทษเฉพาะกระทงที่หนัก หรือลงโทษทุกกระทงตามที่เห็นสมควร
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ไม่มีบัญญัติถึงการรวมกระทงลงโทษ คงมีแต่ศาลจะลงโทษทุกกระทงหรือมิฉะนั้น ก็ลงโทษเฉพาะกระทงที่หนัก อย่างใดอย่างหนึ่ง ตาม ที่ศาลเห็นสมควรก็ได้
of 222