คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 291 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 565/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาจำกัดในคดีทุนทรัพย์น้อยกว่า 5,000 บาท ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
โจทก์จำเลยพิพาทกันด้วยเรื่องที่ดินราคา 5,000 บาทศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย และศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2518 โจทก์ฎีกาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์โดยยื่นเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2518อันเป็นวันก่อนพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มีผลบังคับ การพิจารณาว่าคู่ความมีสิทธิฎีกาได้หรือไม่เพียงไรนั้น ต้องพิจารณาตามบทกฎหมายและสิทธิในวันยื่นฎีกาเป็นสำคัญ ฎีกาโจทก์จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ซึ่งใช้อยู่ในวันยื่นฎีกา (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 542/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับใช้ใบมอบอำนาจ: เหตุสงสัยและสิทธิในการต่อสู้คดี
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 47 ศาลจะบังคับให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับใบมอบอำนาจปฏิบัติตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 47 วรรคสาม เฉพาะแต่เมื่อมีเหตุผลอันควรสงสัยว่าใบมอบอำนาจนั้นจะไม่ใช่ใบมอบอำนาจอันแท้จริงหรือเมื่อคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งยื่นคำร้องแสดงเหตุอันควรสงสัยว่าใบมอบอำนาจนั้นจะไม่ใช่ใบมอบอำนาจอันแท้จริงฉะนั้นเมื่อศาลมิได้สงสัย.และจำเลยมิได้ให้การต่อสู้แสดงเหตุอันควรสงสัยก็ไม่จำต้องสั่งให้มีการปฏิบัติดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 448/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขชื่อจำเลยในคดีไม่ทำให้ขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องจำเลยภายในกำหนดอายุความ แต่ระบุชื่อบริษัทจำเลยไม่ถูกต้อง ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ชื่อบริษัทจำเลยให้ถูกต้อง ศาลชั้นต้นอนุญาต การแก้ไขเพิ่มเติมชื่อจำเลยให้ถูกต้องเช่นนี้ หาเป็นเหตุทำให้คดีโจทก์ขาดอายุความไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2089/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการอุทธรณ์ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับสัญญาเช่าเดิม และผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินของโจทก์ที่ให้จำเลยอาศัย ไม่ปรากฏในคำฟ้องว่า ในขณะยื่นคำฟ้องอาจให้เช่าได้เดือนละเท่าใด แต่ปรากฏตามสำนวนคดีแพ่งคดีอื่นที่จำเลยอ้างต่อสู้คดีว่าที่พิพาทรายนี้เป็นของวัดสุบรรณนิมิตร จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับวัดสุบรรณนิมิตรในสำนวนดังกล่าว โดยวัดสุบรรณนิมิตรให้จำเลยเช่ามีกำหนด 10 ปี อัตราค่าเช่าปีละ 30 บาท เทียบได้เท่ากับค่าเช่าเดือนละ 2.50 บาท ช่วงเวลาที่วัดให้จำเลยเช่าอยู่ระหว่างโจทก์ฟ้องคดีนี้ จึงพอรับฟังว่า เมื่อโจทก์ยื่นคำฟ้องนั้นที่พิพาทที่โจทก์ฟ้องในขณะยื่นคำฟ้องอาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละสองพันบาท จำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์หรือยกข้อโต้เถียงในเรื่องแปลความหมายแห่งข้อความในสัญญาเช่าหรืออาศัย จึงต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2499 มาตรา 15 ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงให้ จึงไม่ชอบ ต้องถือว่าปัญหาข้อนี้ยุติตามคำวินิจฉัยในคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ไม่ถือว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ฎีกาของจำเลยในข้อนี้จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยในปัญหาว่าฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 หรือไม่ และกรณีไม่ได้เป็นเรื่องจำเลยแย่งการครอบครองจากโจทก์ จึงนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 มาบังคับแก่คดีนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1982/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีซื้อขายแยกจากคดีเช็ค อายุความซื้อขาย 2 ปี
คดีเดิมเป็นคดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 ส่วนในคดีนี้เป็นคดีแพ่งที่โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขายด้วยการออกเช็ค อันเป็นสิทธิเรียกร้องที่มีอยู่โดยไม่ต้องอาศัยมูลความผิดทางอาญาตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้นแต่อย่างใด คดีนี้จึงมิใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวกับเนื่องกับคดีอาญา จะนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 มาใช้บังคับหาได้ไม่
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ชำระหนี้อันเกิดจากสัญญาซื้อขาย ที่โจทก์บรรยายฟ้องถึงเรื่องเช็ค 9 ฉบับมาด้วยก็เพื่อแสดงว่า จำเลยได้ชำระหนี้ให้โจทก์ตามสัญญาซื้อขายด้วยการออกเช็ค แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น หนี้ที่จำเลยชำระยังไม่ระงับไป หาใช่โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คทั้ง 9 ฉบับนั้นไม่ อายุความในมูลกรณีซื้อขายในคดีนี้จึงมีอายุความ 2 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา165(1) คดีไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเบิกความเท็จต้องแสดงให้เห็นความสำคัญของข้อความต่อคดี
ฟ้องว่าเบิกความเท็จบรรยายข้อความที่ว่าเบิกความเป็นเท็จกับความจริงเป็นอย่างไร แต่ไม่ได้บรรยายให้เห็นว่าข้อความนั้นเป็นข้อสำคัญแก่คดีอย่างไรฟ้องดังนี้ไม่พอฟังว่าคำเบิกความเป็นข้อสำคัญอันควรมีความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2432/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเบิกความเท็จไม่สมบูรณ์ เหตุไม่ระบุความสำคัญต่อคดี
ฟ้องว่าเบิกความเท็จ บรรยายคำเบิกความที่ว่าเป็นเท็จและว่าความจริงเป็นอย่างไร กับว่า เป็นข้อสำคัญในคดีแต่มิได้บรรยายว่าสำคัญแก่คดีอย่างไร เป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตาม มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2397/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาล: คดีเกิดก่อน/หลังขยายอำนาจ ศาลจังหวัดและศาลแขวงพิจารณาได้
ตามฟ้องระบุวันเกิดเหตุระหว่างตั้งแต่ก่อนจนถึงภายหลังขยายอำนาจศาลแขวงมาถึงที่เกิดเหตุ จึงเป็นเรื่องที่ศาลจังหวัดและศาลแขวงพิจารณาคดีได้ แม้คดีในอำนาจศาลแขวง ศาลจังหวัดก็พิจารณาได้ศาลจังหวัดจึงควรรับฟ้องไว้พิจารณาพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2124/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำฟ้องเพิ่มเติมทุนทรัพย์นอกประเด็นคดี และผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
ที่พิพาทตามคำฟ้องเดิมซึ่งโจทก์อ้างว่าจำเลยบุกรุกทำรั้วล้ำเข้ามาในที่ดินโจทก์ที่ 1 มีราคาเพียง 1,000 บาทเท่านั้น แต่เมื่อทำแผนที่กลางจำเลยนำชี้นอกเหนือออกไปจากที่พิพาทคำฟ้องเดิมคิดเป็นราคา 4,000 บาท และระบุไว้ในแผนที่กลางว่าที่พิพาทตามคำฟ้องเดิมกับที่จำเลยชี้นอกเหนือออกไปนั้น เป็นที่พิพาทในคดีทั้งหมด ดังนี้ย่อมไม่เป็นการถูกต้อง เพราะเป็นการนอกประเด็นในคำฟ้องและข้อต่อสู้ ฉะนั้น การที่โจทก์ขอแก้คำขอท้ายฟ้องเพิ่มเติมทุนทรัพย์จาก 1,000 บาทเป็น 5,000 บาท และขอเสียค่าขึ้นศาลเพิ่ม จึงเป็นการตั้งทุนทรัพย์ขึ้นใหม่ อันเป็นทุนทรัพย์นอกที่พิพาทและนอกคำฟ้อง ไม่ใช่เป็นการขอเพิ่มราคาทรัพย์สินที่พิพาทในฟ้องเดิมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179(1) การแก้ไขคำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบที่จะกระทำได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อุทธรณ์คำสั่งศาลหลังศาลพิพากษาคดีแล้ว ถือเป็นการยอมรับคำสั่ง
โจทก์ขอแก้คำฟ้อง จำเลยคัดค้าน ศาลอนุญาตให้แก้ จำเลยมิได้โต้แย้งคำสั่งศาลนั้นอีก จำเลยอุทธรณ์คำสั่งนั้นเมื่อศาลพิพากษาคดีแล้วไม่ได้
of 30