คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คดีเดิม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 194 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 266/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คดีเดิมพิพาทกรรมสิทธิ์ คดีหลังฟ้องค่าเสียหายจากทำนาในที่ดินพิพาท
โจทก์จำเลยเคยเป็นความกันฟ้องขอให้แสดงว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิของโจทก์คดีถึงที่สุดโดยศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์แล้วโจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลย โดยอ้างว่า จำเลยทำนาในนาพิพาทโดยไม่มีอำนาจเมื่อปรากฏว่าโจทก์มีทางที่จะเรียกค่าเสียหายที่ได้เกิดขึ้นแล้ว แม้จะเกิดขึ้นต่อไปรวมไปในฟ้องโจทก์ในคดีก่อนได้อยู่แล้ว แต่โจทก์ไม่เรียกร้องเสียในคดีก่อนนั้นจะมาฟ้องเรียกภายหลัง ก็ย่อมเป็นฟ้องซ้ำ (อ้างฎีกาที่ 799/2496)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1992/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำต้องห้าม: ประเด็นซื้อขายที่เคยวินิจฉัยแล้วในคดีเดิม
คดีที่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วห้ามมิให้คู่ความเดียวกันรื้อร้องฟ้องกันอีก ในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน
เมื่อโจทก์และภริยาโจทก์แพ้คดีจำเลยในคดีก่อนโดยคดีถึงที่สุด ชั้นศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเงินที่ภริยาโจทก์ชำระให้ในคดีนั้นเป็นเงินที่ภริยาโจทก์ส่งเสียให้แก่จำเลยระหว่างต้องคดีฐานกบฎด้วยความกตัญญูมิได้มีการซื้อขายกันโดยสุจริต ดังนี้โจทก์จะมาฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่เรียกเงินจำนวนนั้นคืน โดยอ้างว่าโจทก์ชำระไปโดยเจตนาเป็นสินจ้างตอบแทนในการซื้อขายกัน ซึ่งถ้าไม่มีการตกลงซื้อขายกันโจทก์ก็ไม่ชำระให้แก่จำเลยเช่นว่านี้ไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1625/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในคดีมรดก: การที่โจทก์ไม่ยกเหตุรับรองบุตรขึ้นต่อสู้ในคดีเดิม ทำให้ไม่สามารถฟ้องเรียกมรดกโดยอ้างเหตุเดียวกันอีกได้
คดีเดิมจำเลยฟ้องเรียกมรดกผู้ตายจากโจทก์ จึงเป็นกรณีที่พิพาทกันเรื่องมรดกโดยตรงและมีประเด็นชัดแจ้งว่าโจทก์มีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตายได้อย่างไร แต่โจทก์ให้การสู้คดีเฉพาะเรื่องพินัยกรรมอย่างเดียว มิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้เลยว่าผู้ตายได้รับรองโจทก์เป็นบุตรดังนี้ เมื่อศาลพิพากษาชี้ขาดว่าพินัยกรรมนั้นใช้ไม่ได้ คดีถึงที่สุดฉนั้นโจทก์จะรื้อฟื้นกล่าวหาเรียกมรดกรายเดียวกันขึ้นมาอีกโดยกล่าวอ้างว่าผู้ตายได้รับรองโจทก์เป็นบุตรไว้แล้วโจทก์จึงมีสิทธิได้รับมรดกเช่นนี้หาได้ไม่เพราะมิใช่คนละประเด็นกับคดีก่อน ย่อมถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ค่าเสียหายจากละเมิดที่ควรฟ้องรวมในคดีเดิม ศาลฎีกายกฟ้อง
โจทก์เคยฟ้องขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหายแล้ว ในคดีนั้นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายตั้งแต่วันผิดนัดถึงวันฟ้องเท่านั้น คดีถึงที่สุดชั้นศาลฎีกาพิพากษาให้ค่าเสียหายเพียงแค่วันฟ้อง ดังนี้ แม้ปรากฏว่าจำเลยเพิ่งจะส่งมอบห้องพิพาทแก่โจทก์ โจทก์จะกลับมาฟ้องขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายนับตั้งแต่วันฟ้องในคดีก่อนจนถึงวันจำเลยส่งมอบห้องพิพาทใหม่อีกไม่ได้
ค่าเสียหายที่โจทก์ฟ้องใหม่นี้ โจทก์มีทางจะเรียกรวมไปในคดีก่อน และศาลก็อาจพิพากษาให้จำเลยชำระได้อยู่แล้วเป็นฟ้องในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกับคดีก่อน ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 736/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในคดีไม้หวงห้าม: การฟ้องคดีเดิมซ้ำในประเด็นกรรมเดียวกัน แม้เปลี่ยนฐานความผิด
โจทก์เคยฟ้องจำเลยหาว่านำไม้หวงห้ามเคลื่อนย้ายโดยมิได้รับอนุญาต และไม่มีใบเบิกทางของเจ้าพนักงาน จนจำเลยได้รับโทษ คดีถึงที่สุดแล้ว เมื่อแรากฎว่าขณะที่จำเลยกระทำผิดในคดีก่อนนั้น จำเลยก็มีไม้ของกลางนั้นไว้ ในครอบครอง โดยไม่มีตราค่าภาคหลวงอยู่แล้ว แต่โจทก์ไม่ฟ้องจำเลยในฐานมีไม้ไม่มีตราค่าภาคหลวงในคราว นั้นด้วย ครั้นเมื่อคดีก่อนนั้นถึงที่สุดดังกล่าวแล้ว โจทก์จะกลับมาฟ้องจำเลยว่า มีไม้หวงห้ามของกลางนั้นไว้ในครอบ ครองโดยไม่มีตราค่าภาคหลวงวตามวันเวลาเดียวกับที่หาว่า จำเลยกระทำผิดในคดีก่อนอีกเป็นกลุ่มเดียวกัน จึงเป็น เรื่องฟ้องซ้ำ ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 39 (4)./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 342/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำต้องห้าม: คดีพิพาทเดิมถึงที่สุดแล้วฟ้องใหม่ไม่ได้ และการขอพิจารณาใหม่ต้องทำในคดีเดิม
เจ้าอธิการวัดฟ้องขับไล่โจทก์กับพวกออกจากที่พิพาทจนศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของวัด ให้ขับไล่โจทก์กับพวกออกจากที่พิพาทคดีถึงที่สุดแล้วโจทก์กลับมาฟ้องเจ้าอธิการวัด เป็นจำเลยอีกขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ และให้เพิกถอนคำพิพากษาคดีก่อนนั้นเสียดังนี้ ย่อมเป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148
การยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ในกรณีที่ขาดนัดยื่นคำให้การนั้นจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีที่ศาลพิจารณาโดยถือว่าขาดนัดนั้นเองจะมาฟ้องเป็นคดีใหม่ ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: การเรียกร้องค่าใช้จ่ายหลังศาลตัดสินคดีเดิมแล้ว ถือเป็นการฟ้องซ้ำตาม ป.วิ.แพ่ง
ในคดีก่อนโจทก์ถูกทายาทของผู้ตายฟ้องเรียกทรัพย์มฤดกของผู้ตายจากโจทก์ ๆ ต่อสู้ว่ามีส่วนได้ด้วย และต่อสู้ว่าได้เสียค่ารักษาพยาบาล ค่าจัดการศพ ค่าปลงศพผู้ตายไป ถ้าศาลพิพากษาให้ทายาทชนะคดีก็ขอให้หักค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้โจทก์ด้วย ศาลพิพากษาให้ทายาทผู้ตายชนะคดี โดยไม่หักค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้โจทก์ เพราะวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีสิทธิจะเรียกโจทก์ไม่ฎีกาต่อไป กลับมาฟ้องเรียกค่าใช้จ่ายดังกล่าวแก่ทายาทผู้ตายเป็นคดีใหม่อีกจึงเป็นการฟ้องซ้ำต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: การเรียกร้องค่าใช้จ่ายที่เคยต่อสู้ในคดีเดิมแล้ว ศาลถือเป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามตามกฎหมาย
ในคดีก่อนโจทก์ถูกทายาทของผู้ตายฟ้องเรียกทรัพย์มรดกของผู้ตายจากโจทก์ โจทก์ต่อสู้ว่ามีส่วนได้ด้วย และต่อสู้ว่าได้เสียค่ารักษาพยาบาล ค่าจัดการศพ ค่าปลงศพผู้ตายไป ถ้าศาลพิพากษาให้ทายาทชนะคดีก็ขอให้หักค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้โจทก์ด้วย ศาลพิพากษาให้ทายาทผู้ตายชนะคดี โดยไม่หักค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้โจทก์เพราะวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีสิทธิจะเรียกโจทก์ไม่ฎีกาต่อไป กลับมาฟ้องเรียกค่าใช้จ่ายดังกล่าวแก่ทายาทผู้ตายเป็นคดีใหม่อีกจึงเป็นการฟ้องซ้ำต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1267/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 144 ใช้กับคดีเดิมเท่านั้น คดีฟ้องใหม่ไม่เข้าข่าย
ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 144 วรรคต้นที่ว่า "เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งวินิจฉัย ชี้ขาดคดีหรือในประเด็นข้อใดแห่งคดีแล้ว ห้ามมิให้ดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลนั้น อันเกี่ยวกับคดีหรือประเด็นที่ได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้วนั้น" เป็นบทบัญญัติห้ามไม่ให้ดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีเดิมอีกเท่านั้นถ้าเป็นคดีฟ้องใหม่ไม่ใช่คดีเดิมบทบัญญัติ ดังกล่าวไม่บังคับถึง
พี่สาวโจทก์เคยฟ้องขอแบ่งทรัพย์จากจำเลยโดยอ้างว่าเป็นมฤดกของมารดา ศาลตัดสินว่าทรัพย์พิพาทไม่ใช่มฤดกของมารดาแต่เป็นของจำเลยกับสามีมาครั้งหนึ่งแล้ว บัดนี้โจทก์มาฟ้องขอแบ่งทรัพย์นั้นจากจำเลยโดยอ้างว่าเป็นมฤดกของมารดาอีก ดังนี้คดีไม่ต้องข้อห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 144

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1267/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ มาตรา 144 ว.พ.พ. ไม่ห้ามคดีฟ้องใหม่ หากไม่ใช่คดีเดิม แม้ประเด็นข้อพิพาทคล้ายคลึงกัน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 วรรคต้นที่ว่า"เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดคดีหรือในประเด็นข้อใดแห่งคดีแล้ว ห้ามมิให้ดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลนั้น อันเกี่ยวกับคดีหรือประเด็นที่ได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้วนั้น" เป็นบทบัญญัติห้ามไม่ให้ดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีเดิมอีกเท่านั้น ถ้าเป็นคดีฟ้องใหม่ไม่ใช่คดีเดิมบทบัญญัติดังกล่าวไม่บังคับถึง
พี่สาวโจทก์เคยฟ้องขอแบ่งทรัพย์จากจำเลย โดยอ้างว่าเป็นมรดกของมารดา ศาลตัดสินว่าทรัพย์พิพาทไม่ใช่มรดกของมารดาแต่เป็นของจำเลยกับสามีมาครั้งหนึ่งแล้ว บัดนี้โจทก์มาฟ้องขอแบ่งทรัพย์นั้นจากจำเลยโดยอ้างว่าเป็นมรดกของมารดาอีก ดังนี้ คดีไม่ต้องข้อห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144
of 20