คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คำร้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 497 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2251/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์: ผลผูกพันเมื่อโจทก์ไม่ทราบคำร้อง และการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยการครอบครอง
คำสั่งศาลที่แสดงว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยโดยการ ครอบครองปรปักษ์มีผลผูกพันโจทก์ต่อเมื่อโจทก์ได้ทราบเรื่องที่จำเลยยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์แล้วไม่โต้แย้งคัดค้านภายในเวลาที่ศาลกำหนดไว้เมื่อโจทก์ไม่ทราบเรื่องที่จำเลยยื่นคำร้อง ขอแสดงกรรมสิทธิ์ ทำให้ไม่อาจโต้แย้งคัดค้านคำร้องขอของจำเลยได้คำสั่งของศาลจึงไม่ผูกพันโจทก์โจทก์มี อำนาจฟ้องคดีเพื่อพิสูจน์ว่าตนมีสิทธิในที่พิพาทดีกว่าจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา145(2)ได้ ข้อเท็จจริงในเรื่องการ ครอบครองที่พิพาทด้วยตนเองหรือให้ผู้อื่นครอบครองแทนนั้นเป็นรายละเอียดที่อาจนำสืบได้ในชั้นพิจารณาแม้โจทก์จะไม่ได้บรรยายฟ้องไว้ว่าผู้อื่นเป็นผู้ครอบครองที่พิพาทแทนก็ตามฟ้องของโจทก์ก็ไม่เคลือบคลุม แม้การที่บิดาโจทก์ยกที่พิพาทให้โจทก์โดยมิได้ จดทะเบียนการยกให้ตามกฎหมายทำให้เป็น โมฆะก็ตามแต่เมื่อโจทก์ได้ ครอบครองที่พิพาทมานับตั้งแต่บิดาโจทก์ยกที่พิพาทให้โดยความสงบและเปิดเผยด้วย เจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเกินกว่า10ปีแล้วประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1382

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1814/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเฉลี่ยทรัพย์: การยื่นคำร้องภายในกำหนดเวลาและการบรรยายคำร้องที่ชัดแจ้ง
ผู้ร้องได้บรรยายในคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ถึงสภาพแห่งข้อหาว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษาและไม่สามารถเอาชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นของจำเลยได้คงมีเฉพาะเงินที่โจทก์มีสิทธิที่จะได้รับจากศาลซึ่งเป็นจำนวนเงินงวดสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิได้รับและเหลืออยู่เท่านั้นผู้ร้องจึงไม่สามารถเอาชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นๆของจำเลยได้อีกขอให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยในเงินจำนวนดังกล่าวดังนี้คำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ได้บรรยายไว้ชัดแจ้งชอบด้วยกฎหมายแล้วไม่จำต้องบรรยายถึงรายละเอียดเรื่องวันเวลาที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้โอนเงินที่ผู้ร้องอายัดไว้ชั่วคราวมายังคดีของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเมื่อใดไว้เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวนอยู่แล้วและคู่ความสามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณาคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ แม้ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งตามคำร้องขอของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาให้อายัดเงินซึ่งธนาคารส่งมาตามหมายอายัดชั่วคราวของศาลเมื่อวันที่4มกราคม2533แต่ก็ยังไม่มีการชำระเงินตามคำสั่งดังกล่าวระยะเวลาสิบสี่วันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา290วรรคห้าจึงยังไม่เริ่มนับดังนั้นเมื่อผู้ร้องนำเงินมาชำระคืนตามคำสั่งศาลในวันที่31พฤษภาคม2533พร้อมกับยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์จากเงินจำนวนดังกล่าวในวันเดียวกันจึงถือได้ว่าผู้ร้องได้ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ภายในกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา290วรรคห้าแล้วจึงเป็นการยื่นขอเฉลี่ยทรัพย์โดยชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอพิจารณาคดีใหม่ต้องทำตามรูปแบบและระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หากไม่เป็นไปตามจะถูกยกคำร้อง
ที่จำเลยฎีกาข้อแรกว่า จำเลยขอถือเอาอุทธณ์ของจำเลยเอกสารท้ายฎีกาเป็นส่วนหนึ่งของฎีกาด้วย ไม่เป็นการกล่าวชัดแจ้งซึ่งข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างในฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคแรกศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
เมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่า คำร้องของจำเลยไม่กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งสาเหตุที่ขาดนัดและข้อคัดค้านคำชี้ขาดตัดสินของศาลตาม ป.วิ.พ.มาตรา208 วรรคสอง จึงมีอำนาจสั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยได้โดยไม่จำต้องส่งสำเนาคำร้องให้แก่โจทก์เพื่อคัดค้านหรือไม่อย่างไรอีก
จำเลยได้ยื่นคำร้องฉบับที่ 2 เพื่อให้คำร้องขอพิจารณาใหม่ของจำเลยสมบูรณ์ตามกฎหมาย แม้คำร้องฉบับที่ 2 จะต่อเนื่องเป็นเรื่องเดียวกันกับฉบับแรกก็ตาม แต่เมื่อจำเลยยื่นคำร้องฉบับที่ 2 เมื่อพ้น 15 วัน นับแต่วันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งให้จำเลย จำเลยย่อมไม่มีสิทธิจะขอให้พิจารณาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องขอพิจารณาใหม่ต้องยื่นภายในกำหนดเวลาและมีรายละเอียดครบถ้วน หากไม่เป็นไปตามกฎหมาย ศาลมีอำนาจยกคำร้องได้
คำร้องขอพิจารณาใหม่ที่ยื่นมานั้นถ้าศาลพิจารณาคำร้องแล้วเห็นว่าเป็นคำร้องที่ไม่กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งสาเหตุที่ขาดนัดและข้อคัดค้านคำชี้ขาดตัดสินของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา208วรรคสองศาลก็มีอำนาจสั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้และเมื่อมีคำสั่งให้ยกคำร้องเสียแล้วก็ไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องส่งสำเนาคำร้องให้แก่อีกฝ่ายเพื่อคัดค้านหรือไม่อีก จำเลยทราบว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำร้องขอพิจารณาใหม่ฉบับแรกแล้วได้ยื่นคำร้องฉบับที่2อีกครั้งหนึ่งเพื่อให้คำร้องขอพิจารณาใหม่ของจำเลยสมบูรณ์ตามกฎหมายแม้คำร้องฉบับที่2จะต่อเนื่องเป็นเรื่องเดียวกันกับฉบับแรกก็ตามแต่จำเลยก็ต้องยื่นต่อศาลภายในกำหนด15วันนับแต่วันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งให้จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1722/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์: การระบุความสามารถในการบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นไม่จำเป็นต้องระบุชัดเจน
คำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ไม่มีข้อความว่าผู้ร้องไม่สามารถเอาชำระหนี้ได้จากทรัพย์สินอื่นๆของจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาแต่ผู้ร้องได้อ้างในคำร้องว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษาได้สืบทราบว่าโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลยและได้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยเสร็จเรียบร้อยแล้วถือได้ว่าเป็นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ที่สมบูรณ์แล้วไม่เคลือบคลุมส่วนผู้ร้องจะสามารถเอาชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นของจำเลยได้หรือไม่เป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องนำสืบกันในชั้นพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1575/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเข้าเป็นคู่ความแทนผู้มรณะ และการลงลายมือชื่อในคำร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ผู้มรณะในขณะที่คดียังไม่พ้นเวลาที่โจทก์จะฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ซึ่งพิพากษายกฟ้องโจทก์ ประกอบกับคดียังสามารถฎีกาต่อไปได้ คดีจึงยังไม่เป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 147 วรรคสอง ถือได้ว่าคดีค้างพิจารณาอยู่ในศาลฎีกา ผู้ร้องจึงมีสิทธิขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะได้ตามมาตรา 42 วรรคแรก
ผู้ร้องไม่ได้เรียงคำร้องเอง แต่ก็ได้ลงลายมือชื่อในช่องผู้ร้องและช่องผู้เรียงด้วยตนเอง แสดงว่าผู้ร้องยอมรับเอาคำร้องซึ่งผู้อื่นเรียบเรียงว่าเป็นของตนโดยชอบ การลงลายมือชื่อในฐานะเป็นผู้เรียงถือได้ว่าผู้ร้องเป็นผู้เรียงโดยนิตินัยแล้ว คำร้องของผู้ร้องไม่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติทนายความ
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์ไม่ถูกต้อง เพราะในชั้นนี้เป็นกรณีพิพาทระหว่างผู้ร้องกับจำเลยเท่านั้น ทั้งผู้ร้องเป็นผู้แก้อุทธรณ์ หาใช่โจทก์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7521/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคัดค้านการบังคับคดีและการขายทอดตลาด จำเป็นต้องยื่นคำร้องต่อศาลตามกฎหมาย หากไม่ทำสิทธิอุทธรณ์ฎีกาไม่มีผล
ที่จำเลยทั้งสองอ้างว่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนองไว้แก่โจทก์ตั้งแต่ปี 2529 ในราคา 500,000 บาท ซึ่งระยะเวลาได้ล่วงเลยมาพอสมควรแล้ว ทั้งที่ดินตั้งอยู่ในย่านชุมชน ราคาซื้อขายกันปกติปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 850,000 บาท หากมีการประกาศโฆษณาขายในหนังสือพิมพ์ที่ประชาชนทั่วไปสามารถอ่านได้กว้างขวางแล้ว จะทำให้มีผู้สนใจเข้าสู้ราคามากและได้ราคาสูงขึ้นขอให้ยกเลิกคำสั่งอนุญาตขาย และขายทอดตลาดใหม่นั้น เท่ากับเป็นการกล่าวอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีโดยมิชอบ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาและคำสั่ง กรณีจำต้องบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสองซึ่งจำเลยทั้งสองต้องยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลชั้นต้นก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง แต่ต้องไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่ทราบการฝ่าฝืนเมื่อจำเลยทั้งสองเพียงแต่คัดค้านการขายทอดตลาดไว้ในรายงานการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดี โดยมิได้ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลชั้นต้นตามที่กฎหมายกำหนดไว้ จำเลยทั้งสองจะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาหาได้ไม่ และข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัยได้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) ประกอบด้วยมาตรา246 และ 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6935/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีและการขาดนัดพิจารณา: ศาลต้องพิจารณาคำร้องเลื่อนคดีก่อนมีคำสั่งขาดนัด
คดีนี้ศาลนัดสืบพยานสองนัดติดต่อกัน โดยนัดแรกนัดสืบพยานจำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อน นัดต่อมานัดสืบพยานโจทก์ ก่อนถึงวันนัดสืบพยานจำเลยโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี เมื่อถึงวันนัดสืบพยานจำเลย โจทก์ไม่มาศาล ศาลไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาเช่นนี้ ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติป.วิ.พ. มาตรา 197 วรรคสอง เพราะโจทก์ได้มีการร้องขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องที่มาศาลไม่ได้ให้ศาลทราบก่อนลงมือสืบพยานแล้ว ไม่ใช่กรณีที่โจทก์ไม่มาศาลและไม่แจ้งเหตุขัดข้องอันจะถือว่าเป็นการขาดนัดพิจารณา การที่ศาลไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาจึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ การพิจารณาคดีนี้จึงมิใช่การพิจารณาโดยขาดนัด การที่โจทก์ไม่มาศาลในนัดแรกจึงไม่ทำให้โจทก์เสียสิทธิที่จะสืบพยาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6935/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณา: ศาลต้องพิจารณาคำร้องขอเลื่อนคดีก่อน หากมีการยื่นคำร้องแล้ว การไม่มาศาลไม่ถือว่าขาดนัด
คดีนี้ศาลนัดสืบพยานสองนัดติดต่อกัน โดยนัดแรกนัดสืบพยานจำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อน นัดต่อมานัดสืบพยานโจทก์ ก่อนถึงวันนัดสืบพยานจำเลยโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี เมื่อถึงวันนัดสืบพยานจำเลย โจทก์ไม่มาศาล ศาลไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาเช่นนี้ ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 197 วรรคสอง เพราะโจทก์ได้มีการร้องขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องที่มาศาลไม่ได้ให้ศาลทราบก่อนลงมือสืบพยานแล้ว ไม่ใช่กรณีที่โจทก์ไม่มาศาลและไม่แจ้งเหตุขัดข้องอันจะถือว่าเป็นการขาดนัดพิจารณา การที่ศาลไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีและมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาจึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ การพิจารณาคดีนี้จึงมิใช่การพิจารณาโดยขาดนัด การที่โจทก์ไม่มาศาลในนัดแรกจึงไม่ทำให้โจทก์เสียสิทธิที่จะสืบพยาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6322/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายระยะเวลาอุทธรณ์ต้องยื่นก่อนสิ้นกำหนดเวลายกเว้นเหตุสุดวิสัย คำร้องล่าช้าแม้มีเหตุผลก็ไม่อาจรับพิจารณาได้
อำนาจศาลตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 26,31เป็นอำนาจต่อเนื่องหลังจากที่คู่ความมีคำร้องขยายระยะเวลายื่นขอมาโดยถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 26,31 ก่อนแล้ว กล่าวคือศาลจะมีคำสั่งขยายระยะเวลาได้ต่อเมื่อมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลานั้นด้วย เว้นแต่ในกรณีมีเหตุสุดวิสัย แต่คำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ของโจทก์ได้ยื่นล่าช้าเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์ตามที่กฎหมายกำหนดแล้วโดยเหตุขัดข้องที่โจทก์อ้างอาศัยเป็นข้อแก้ตัวในความล่าช้าตามคำร้องมิใช่เหตุสุดวิสัย จึงไม่ได้รับประโยชน์จากข้อยกเว้นตามกฎหมาย คำร้องขอขยายระยะเวลาของโจทก์ดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลไม่อาจรับพิจารณาและสั่งขยายระยะเวลาให้ได้ไม่ว่าจะมีเหตุจำเป็นตามที่โจทก์อ้างหรือไม่
of 50