คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คำสั่งระหว่างพิจารณา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 223 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 654/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งเลื่อนการพิจารณาคดีรอผลคดีอื่นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามอุทธรณ์ตามกฎหมาย
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้เลื่อนการพิจารณาคดีไป รอฟังผลของคดีอื่น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 654/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งเลื่อนการพิจารณาคดีรอผลคดีอื่นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามอุทธรณ์ตามกฎหมาย
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้เลื่อนการพิจารณาคดีไป รอฟังผลของคดีอื่นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 462/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสิ้น คู่ความยังไม่อุทธรณ์ฎีกาได้
จำเลยขอให้ศาลชี้ขาดเบื้องต้นว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความลงเป็นฟ้องซ้ำศาลชั้นต้นสั่งให้รอไว้รวมวินิจฉัยสั่งคำร้องในคำพิพากษา และให้ดำเนินการสืบพยานต่อไปนั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 462/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งระหว่างพิจารณาที่รอรวมวินิจฉัยกับคำพิพากษา ไม่ถือเป็นคำสั่งที่ทำให้คดีเสร็จสิ้น อุทธรณ์ฎีกาได้
จำเลยขอให้ศาลชี้ขาดเบื้องต้นว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความและเป็นฟ้องซ้ำศาลชั้นต้นสั่งให้รอไว้รวมวินิจฉัยสั่งคำร้องในคำพิพากษาและให้ดำเนินการสืบพยานต่อไปนั้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งไม่อนุญาตระบุพยาน/สืบพยาน เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา หากไม่โต้แย้ง สิทธิอุทธรณ์ฎีกาขาดเสีย
คำร้องขออนุญาตอ้างพยานหลักฐานและบัญชีระบุพยานนั้น หาใช่คำคู่ความที่ยื่นต่อศาลไม่ ฉะนั้นคำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้ระบุพยานจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา เมื่อคู่ความไม่ได้แย้งไว้ ก็ย่อมจะอุทธรณ์และฎีกาคำสั่งนั้นไม่ได้
คำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้จำเลยเข้าสืบ ก็เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาเมื่อไม่โต้แย้งไว้ ก็ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งไม่อนุญาตระบุพยานเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ไม่โต้แย้งสิทธิอุทธรณ์ฎีกาขาด
คำร้องขออนุญาตอ้างพยานหลักฐานและบัญชีระบุพยานนั้น หาใช่คำคู่ความที่ยื่นต่อศาลไม่ฉะนั้น คำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้ระบุพยานจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา เมื่อคู่ความไม่โต้แย้งไว้ก็ย่อมจะอุทธรณ์และฎีกาคำสั่งนั้นไม่ได้
คำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้จำเลยเข้าสืบ ก็เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาเมื่อไม่โต้แย้งไว้ ก็ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 305/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ไม่รับอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณา ถือเป็นที่สุดตามมาตรา 236 ว.พ.พ.
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 บัญญัติไว้ชัดว่า ในกรณีที่การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์นั้น เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามหรือมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ก็ดี ให้คำสั่งของศาลอุทธรณ์นั้นเป็นที่สุด
ฉะนั้นในคดีที่จำเลยขาดนัดพิจารณา และศาลชั้นต้นไต่สวนสั่งอนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่ เมื่อโจทก์อุทธรณ์คำสั่งและศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ เพราะเห็นว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณานั้น จึงเป็นคำสั่งที่ถึงที่สุด โจทก์จะฎีกาอีกหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 305/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ไม่รับอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณา ถือเป็นคำสั่งถึงที่สุด ห้ามฎีกา
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 บัญญัติไว้ชัดว่า ในกรณีที่มีการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งยืนตามหรือมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ก็ดี ให้คำสั่งของศาลอุทธรณ์นั้นเป็นที่สุด
ฉะนั้นในคดีที่จำเลยขาดนัดพิจารณาและศาลชั้นต้นไต่สวนสั่งอนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่ เมื่อโจทก์อุทธรณ์คำสั่งและศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์เพราะเห็นว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณานั้น จึงเป็นคำสั่งที่ถึงที่สุด โจทก์จะฎีกาอีกหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1621/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการไต่สวนมูลฟ้อง & คำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่รับอุทธรณ์
ในการไต่สวนมูลฟ้องคดีอาญา แม้เมื่อโจทก์แสดงว่าหมดพยานแล้ว ศาลก็มีอำนาจสั่งเรียกพยานหลักฐานมาเองเพื่อประกอบการวินิจฉัยทำคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้องได้ และคำสั่งที่ให้รอคดีเพื่อฟังพยานหลักฐานเช่นนี้ เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 และถึงแม้ว่าในคำสั่งนั้นศาลจะได้สั่งไว้ด้วยว่าให้จำหน่ายคดีเสียชั่วคราว ถ้าสำนวนคดีที่ศาลสั่งเรียกมาเพื่อประกอบการวินิจฉัยนั้นเสร็จเมื่อใด ก็ให้โจกท์แถลงให้ศาลทราบ เพื่อจะได้ยกคดีที่มีการไต่สวนมูลฟ้องนี้ขึ้นพิจารณาสั่งต่อไป ดังนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นการสั่งจำหน่ายคดีที่ไม่ทำให้ประเด็นแพ่งคดีเสร็จไป โจทก์ก็ยังไม่มีสิทธิอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งนี้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 18/2506)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1609/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย การอุทธรณ์ และอำนาจศาล
ศาลชั้นต้นรับคำร้องขอแก้ไขคำให้การจำเลยไว้พิจารณาแล้วมีคำสั่งยกคำร้องนั้นเสียคำสั่งยกคำร้องนั้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาและไม่ใช่เป็นกรณีศาลสั่งไม่รับคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 18 จำเลยอุทธรณ์คำสั่งนั้นไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา 226 ศาลอุทธรณ์จึงไม่มีอำนาจรับพิจารณาอุทธรณ์ของจำเลย และศาลฎีกาก็พิจารณาตามข้อฎีกาของจำเลยต่อไปไม่ได้ให้ยกอุทธรณ์ ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และฎีกาจำเลย
of 23