พบผลลัพธ์ทั้งหมด 241 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1010/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าร่วมเป็นจำเลยร่วมหลังคดีถึงที่สุด: สิทธิของผู้ให้เช่าเมื่อจำเลยแพ้คดี
ผู้ร้องสอดขอเข้ามาเป็นจำเลยร่วม อ้างเหตุว่าจำเลยทั้งสองเช่าที่ดินผู้ร้องสอด ไม่ได้เช่าจากโจทก์ หากจำเลยแพ้คดี อาจฟ้องร้องผู้ร้องสอดให้เสียหาย ผู้ร้องสอดจึงมีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(2) แต่เมื่อศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องและภายหลังปรากฏว่าศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองแพ้คดีไปแล้ว จำเลยทั้งสองมิได้อุทธรณ์เป็นเหตุให้คดีถึงที่สุด สิทธิในการดำเนินคดีของจำเลยจึงไม่มีอีกแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะอนุญาตให้ผู้ร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินโดยอาศัยสิทธิของผู้อื่น และผลผูกพันของคำพิพากษาต่อจำเลยร่วม
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่นาพิพาท จำเลยต่อสู้ว่านาพิพาทเป็นของ จ. ซึ่งต่อมาได้เข้ามาเป็นจำเลยร่วม จำเลยเข้าทำนาพิพาทแทนจำเลยร่วมเช่นนี้ การที่จำเลยเข้าไปทำนาพิพาทจึงมิใช่เข้าไปยึดถือโดยเจตนาที่จะยึดถือเพื่อตน หากแต่เป็นการเข้าไปครอบครองแทนจำเลยร่วม เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าที่นาพิพาทเป็นของโจทก์จำเลยร่วมซึ่งอ้างว่าที่นาพิพาทเป็นของตนมิได้ฎีกา คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ชี้ขาดว่าที่นาพิพาทเป็นของโจทก์ย่อมผูกพันจำเลยและจำเลยร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 คดีฟังเป็นยุติได้ว่าที่นาพิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยซึ่งเข้าทำนาพิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลยร่วมจึงไม่มีสิทธิใด ๆ ที่จะโต้แย้งโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองแทนจำเลยร่วม: คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ผูกพันทุกฝ่ายเมื่อจำเลยร่วมไม่คัดค้าน
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่นาพิพาท จำเลยต่อสู้ว่านาพิพาท เป็นของ จ. ซึ่งต่อมาได้เข้ามาเป็นจำเลยร่วมจำเลยเข้าทำนาพิพาทแทนจำเลยร่วมเช่นนี้การที่จำเลยเข้าไปทำนาพิพาทจึงมิใช่เข้าไปยึดถือโดยเจตนาที่จะยึดถือเพื่อตนหากแต่เป็นการเข้าไปครอบครองแทนจำเลยร่วมเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าที่นาพิพาทเป็นของโจทก์จำเลยร่วมซึ่งอ้างว่าที่นาพิพาทเป็นของตนมิได้ฎีกา คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ชี้ขาดว่าที่นาพิพาทเป็นของโจทก์ย่อมผูกพันจำเลยและจำเลยร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 คดีฟังเป็นยุติได้ว่าที่นาพิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยซึ่งเข้าทำนา พิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลยร่วมจึงไม่มีสิทธิใด ๆ ที่จะโต้แย้งโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1681/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานที่ไม่น่าเชื่อถือจากจำเลยร่วมคดี และคำเบิกความของจำเลยเอง ไม่อาจนำสืบลงโทษจำเลยอื่นได้
พยานโจทก์ได้รับคำบอกเล่ามาจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นจำเลยคนหนึ่งในคดีนี้ จะรับฟังเป็นพยานหลักฐานยันจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นจำเลยในคดีเดียวกันไม่ได้ ส่วนที่จำเลยที่ 2 เบิกความว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนยิงตนนั้นก็เป็นคำเบิกความของจำเลยที่ 2 ซึ่งอ้างตนเองเป็นพยานนำสืบต่อสู้คดีของตน เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 โดยเฉพาะ จะรับฟังลงโทษจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นจำเลยด้วยกันไม่ได้เช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาที่ไม่สามารถรื้อฟื้นประเด็นที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแล้วได้ และจำเลยร่วมไม่มีสิทธิฎีกาในประเด็นค่าเสียหายที่ศาลพิพากษาให้จำเลยรับผิดแต่เพียงผู้เดียว
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยบุกรุก ขอให้ขับไล่และเรียกค่าเสียหาย จำเลยให้การว่าที่พิพาทเป็นที่ดินโฉนดที่ 1174 ของบุตรจำเลย จำเลยมิได้ทำละเมิด และค่าเสียหายไม่ถึงจำนวนที่ฟ้อง ศาลอุทธรณ์ฟังว่าที่พิพาทเป็นที่ดินนอกโฉนดที่1174 และเป็นที่ดินของ ก. เมื่อ ก. ตายแล้วฝ่ายโจทก์ครอบครองตลอดมา จำเลยเพิ่งโต้แย้งการครอบครองไม่ถีง 1 ปี คดีโจทก์ไม่ขาดสิทธิฟ้องร้องเรียกคืนการครอบครอง โจทก์เป็นทายาทคนหนึ่งของ ก. จึงมีอำนาจฟ้อง พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาในประเด็นที่ว่าจำเลยละเมิดต่อโจทก์ตามฟ้องหรือไม่ และโจทก์เสียหายเพียงใด แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ดังนี้ เมื่อจำเลยมิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภายในกำหนดระยะเวลาที่อนุญาตให้ฎีกา ประเด็นที่ว่าที่พิพาทอยู่นอกเขตโฉนดที่ 1174 ของจำเลยหรือไม่ โจทก์ขาดสิทธิครอบครองและมีอำนาจฟ้องหรือไม่จึงยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ว่าจำเลยละเมิดต่อโจทก์ และโจทก์เสียหายจริงแล้ว จำเลยคงมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาคัดค้านในประเด็นเรื่องละเมิดและค่าเสียหายเท่านั้นจะรื้อฟื้นประเด็นที่ยุติไปแล้วเป็นข้ออุทธรณ์ฎีกาต่อไปอีกหาได้ไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ไม่ได้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแต่ผู้เดียว มิได้ให้จำเลยร่วมต้องรับผิดด้วย จำเลยร่วมจะฎีกาในประเด็นเรื่องค่าเสียหายด้วยหาได้ไม่
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแต่ผู้เดียว มิได้ให้จำเลยร่วมต้องรับผิดด้วย จำเลยร่วมจะฎีกาในประเด็นเรื่องค่าเสียหายด้วยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาที่ต้องอาศัยประเด็นที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยแล้ว และขอบเขตการฎีกาของจำเลยร่วม
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยบุกรุก ขอให้ขับไล่และเรียกค่าเสียหาย จำเลยให้การว่าที่พิพาทเป็นที่ดินโฉนดที่ 1174 ของบุตรจำเลย จำเลยมิได้ทำละเมิด และค่าเสียหายไม่ถึงจำนวนที่ฟ้อง ศาลอุทธรณ์ฟังว่าที่พิพาทเป็นที่ดินนอกโฉนดที่ 1174 และเป็นที่ดินของ ก. เมื่อ ก. ตายแล้วฝ่ายโจทก์ครอบครองตลอดมาจำเลยเพิ่งโต้แย้งการครอบครองไม่ถึง 1 ปี คดีโจทก์ไม่ขาดสิทธิฟ้องร้องเรียกคืนการครอบครอง โจทก์เป็นทายาทคนหนึ่งของ ก. จึงมีอำนาจฟ้อง พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาในประเด็นที่ว่าจำเลยละเมิดต่อโจทก์ตามฟ้องหรือไม่ และโจทก์เสียหายเพียงใด แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ดังนี้ เมื่อจำเลยมิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภายในกำหนดระยะเวลาที่อนุญาตให้ฎีกาประเด็นที่ว่า ที่พิพาทอยู่นอกเขตโฉนดที่1174 ของจำเลยหรือไม่ โจทก์ขาดสิทธิครอบครองและมีอำนาจฟ้องหรือไม่จึงยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ว่าจำเลยละเมิดต่อโจทก์ และโจทก์เสียหายจริงแล้ว จำเลยคงมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาคัดค้านในประเด็นเรื่องละเมิดและค่าเสียหายเท่านั้น จะรื้อฟื้นประเด็นที่ยุติไปแล้วเป็นข้ออุทธรณ์ฎีกาต่อไปอีกหาได้ไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ไม่ได้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแต่ผู้เดียว มิได้ให้จำเลยร่วมต้องรับผิดด้วย จำเลยร่วมจะฎีกาในประเด็นเรื่องค่าเสียหายด้วยหาได้ไม่
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแต่ผู้เดียว มิได้ให้จำเลยร่วมต้องรับผิดด้วย จำเลยร่วมจะฎีกาในประเด็นเรื่องค่าเสียหายด้วยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1402/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หุ้นส่วนจำกัดความรับผิด: สิทธิการร้องสอดคดีตั๋วเงิน
หุ้นส่วนจำกัดความรับผิดไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง ในคดีที่ห้างหุ้นส่วนถูกฟ้องให้ใช้หนี้ตามตั๋วเงิน จึงร้องสอดเข้าเป็นจำเลยร่วมไม่ได้ เมื่อศาลสั่งยกคำร้องสอด และเพิกถอนคำสั่งที่รับเข้าเป็นจำเลยร่วมของผู้ร้องบางคนไว้แล้ว ผู้ร้องอุทธรณ์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1265/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมยอมเพิกถอนการโอนที่ดิน: คำพิพากษาผูกพันแม้เป็นจำเลยร่วม
ศาลพิพากษาในคดีที่โจทก์ทั้งสองและจำเลยถูกบุคคลภายนอกฟ้องคดีถึงที่สุดว่าโจทก์รับโอนที่ดินจากจำเลยโดยมีเหตุสงสัยว่าจะไม่ได้รับเงินราคาซื้อกันจริง เป็นการสมยอมให้เพิกถอนการโอน คำพิพากษานี้ผูกพันโจทก์ทั้งสอง แม้จะเป็นจำเลยในคดีก่อนด้วยกันก็ตาม โจทก์มาฟ้องจำเลยเรียกเงินคืนไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1131/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าเป็นจำเลยร่วมและสิทธิในที่ดินที่ได้มาจากการซื้อ
จำเลยให้การในคดีฟ้องขับไล่ว่าได้อยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิจาก ก.ก.ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นจำเลยร่วมศาลอนุญาต แม้ศาลไม่รับคำให้การของ ก. จำเลยร่วม ก. ก็นำสืบตามข้อที่จำเลยเดิมให้การไว้ว่า ก. ซื้อที่ดินจาก ต.ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าร่วมเป็นจำเลยร่วมหลังสืบพยานเสร็จสิ้น: ศาลไม่อนุญาตหากไม่เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินคดีและไม่มีส่วนได้เสียเพิ่มเติม
เมื่อโจทก์สืบพยานเสร็จแล้ว ระหว่างนัดสืบพยานจำเลย บิดาจำเลยยื่นคำร้องขอเข้าเป็นจำเลยร่วม ดังนี้ ไม่เป็นประโยชน์แก่ผู้ร้องสอดที่จะเข้ามาในดคี เพราะไม่อาจใช้สิทธิใด ๆ ในการดำเนินคดีนอกจากสิทธิที่จำเลยมีอยู่เมื่อตนร้องสอด ทั้งจำเลยก็มิได้ร้องขอให้ศาลเรียกผู้ร้องสอดเข้ามาในคดีตั้งแต่แรก เพื่อผลแห่งคดีที่จะต้องรับผิดร่วมกัน จึงไม่สมควรอนุญาตให้ผู้ร้องเข้ามาในคดี