คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ชอบด้วยกฎหมาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 507 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2418/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปิดหมายนัดฟังคำพิพากษาที่ภูมิลำเนาทนายจำเลยชอบด้วยกฎหมายเมื่อจำเลยมิได้โต้แย้ง
พนักงานเดินหมายบันทึกการส่งหมายว่าไม่พบทนายจำเลยพบแต่คนในบ้านสอบถามได้ความว่าทนายจำเลยไปธุระที่กรุงเทพมหานคร ไม่ทราบว่าจะกลับมาเมื่อใด จำเลยมิได้นำสืบหักล้างว่าบันทึกการส่งหมายดังกล่าวไม่ถูกต้อง ตามบันทึกดังกล่าวแสดงว่าทนายจำเลยยังอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 48การที่ทนายจำเลยยังอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 48 ก็ดี การที่ทนายจำเลยไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่ที่บ้านซึ่งเป็นสำนักงานแห่งใหม่ก็ดี ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ทนาย-จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ 48 ด้วย ฉะนั้น การปิดหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 79 ถือว่าจำเลยทราบวันนัดแล้วการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นจึงชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2418/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปิดหมายนัดฟังคำพิพากษาที่ภูมิลำเนาทนายความ แม้มีการย้ายสำนักงานแล้ว ถือว่าชอบด้วยกฎหมาย
พนักงานเดินหมายบันทึกการส่งหมายว่าไม่พบทนายจำเลย พบแต่คนในบ้านสอบถามได้ความว่าทนายจำเลยไปธุระที่กรุงเทพมหานครไม่ทราบว่าจะกลับมาเมื่อใด จำเลยมิได้นำสืบหักล้างว่าบันทึกการส่งหมายดังกล่าวไม่ถูกต้อง ตามบันทึกดังกล่าวแสดงว่าทนายจำเลยยังอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 48 การที่ทนายจำเลยยังอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 48 ก็ดี การที่ทนายจำเลยไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่ที่บ้านซึ่งเป็นสำนักงานแห่งใหม่ก็ดี ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าทนายจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ 48 ด้วย ฉะนั้น การปิดหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 ถือว่าจำเลยทราบวันนัดแล้ว การอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นจึงชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1987/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์และการประเมินราคาในคดีบังคับคดี การปิดประกาศยึดทรัพย์และการประเมินราคาที่โปร่งใสถือว่าชอบด้วยกฎหมาย
หลักปฏิบัติในการบังคับคดีตามที่ ป.วิ.พ.บัญญัติไว้เกี่ยวกับการยึดทรัพย์ มิได้มีข้อกำหนดว่าการยึดทรัพย์จะต้องกระทำต่อหน้าเจ้าของทรัพย์และหลังจากที่เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึดทรัพย์พิพาทแล้วก็ปิดประกาศการยึดไว้ ณ ที่ยึดซึ่งเป็นภูมิลำเนาของจำเลย ถือได้ว่าจำเลยทราบถึงการยึดทรัพย์โดยชอบแล้ว การยึดทรัพย์พิพาทย่อมชอบด้วยกฎหมาย
การประเมินราคาทรัพย์พิพาทเจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินโดยอาศัยหลักเกณฑ์เทียบเคียงกับราคาประเมินของกรมที่ดินและยังจัดให้สำนักงานวางทรัพย์กลางทำการประเมินอีกครั้งหนึ่งก็ได้ราคาใกล้เคียงกัน ราคาทรัพย์ที่พนักงานบังคับคดีประเมินไว้จึงมิได้เกิดจากการสมคบกับโจทก์กดราคาให้ต่ำลง ประกอบกับในการขายทอดตลาดก็ไม่มีพฤติการณ์ส่อให้เห็นว่าการประมูลทรัพย์พิพาทมีการสมคบกันกดราคาลง การขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทจึงชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1987/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดี: การยึดทรัพย์และการประเมินราคาที่ชอบด้วยกฎหมาย การขายทอดตลาดที่โปร่งใส
หลักปฏิบัติในการบังคับคดีตามที่ ป.วิ.พ. บัญญัติไว้เกี่ยวกับการยึดทรัพย์ มิได้มีข้อกำหนดว่าการยึดทรัพย์จะต้องกระทำต่อหน้าเจ้าของทรัพย์และหลังจากที่เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึดทรัพย์พิพาทแล้วก็ปิดประกาศการยึดไว้ ณ ที่ยึดซึ่งเป็นภูมิลำเนาของจำเลย ถือได้ว่าจำเลยทราบถึงการยึดทรัพย์โดยชอบแล้ว การยึดทรัพย์พิพาทย่อมชอบด้วยกฎหมาย การประเมินราคาทรัพย์พิพาทเจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินโดยอาศัยหลักเกณฑ์เทียบเคียงกับราคาประเมินของกรมที่ดินและยังจัดให้สำนักงานวางทรัพย์กลางทำการประเมินอีกครั้งหนึ่งก็ได้ราคาใกล้เคียงกัน ราคาทรัพย์ที่พนักงานบังคับคดีประเมินไว้จึงมิได้เกิดจากการสมคบกับโจทก์กดราคาให้ต่ำลง ประกอบกับในการขายทอดตลาดก็ไม่มีพฤติการณ์ส่อให้เห็นว่าการประมูลทรัพย์พิพาทมีการสมคบกันกดราคาลง การขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทจึงชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1613/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิเรียกร้องที่ชอบด้วยกฎหมาย และผลของการชำระค่าอ้างที่ล่าช้า
นอกจากหนังสือบอกกล่าวการโอนสิทธิเรียกร้องจะมีข้อความแจ้งการโอนสิทธิเรียกร้องแล้ว ยังมีข้อความเรื่องการโอนสิทธิเรียกร้องระหว่างจำเลยที่ 1 กับผู้ร้องด้วย เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 1 กับผู้ร้องร่วมกันลงชื่อในหนังสือดังกล่าว จึงฟังได้ว่าวันที่มีการบอกกล่าวการโอนนั้น จำเลยที่ 1 ได้โอนสิทธิเรียกร้องให้ผู้ร้องก่อน แล้วจึงบอกกล่าวการโอนไปยังลูกหนี้โดยทำเป็นหนังสือไว้ในเอกสารฉบับเดียวกัน การโอนสิทธิเรียกร้อง และการบอกกล่าวการโอนดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมาย แม้จะปรากฏว่าในวันต่อมาจำเลยที่ 1 กับผู้ร้องได้ทำสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวขึ้นอีกฉบับหนึ่งก็ไม่เป็นเหตุให้การบอกกล่าวการโอนนั้นเสียไป กฎหมายเพียงแต่กำหนดให้ผู้อ้างเอกสารมีหน้าที่ชำระค่าอ้างตั้งแต่เมื่อส่งเอกสารเป็นต้นไป มิใช่ว่าหากไม่ชำระทันทีแล้วจะรับฟังเอกสารนั้น ๆ ไม่ได้ การที่ผู้ร้องเพิ่งชำระค่าอ้างขณะยื่นคำแก้อุทธรณ์โดยไม่ปรากฏเหตุว่ามีเจตนาฝ่าฝืนคำสั่งศาล แต่พฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นเพราะหลงลืมมาทราบภายหลังเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาคดีการชำระค่าอ้างดังกล่าวนับว่าผู้ร้องได้จัดการแก้ไขข้อหลงลืมแล้วไม่ทำให้การรับฟังพยานหลักฐานของผู้ร้องถึงกับเสียไป คดีขอให้ถอนคำสั่งอายัดชั่วคราวเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ การที่โจทก์อุทธรณ์ฎีกาในปัญหาว่าจะอายัดได้หรือไม่ก็เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1603/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งวันขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมายเมื่อผู้รับมอบอำนาจได้รับประกาศแทนเจ้าหนี้
ตามหนังสือมอบอำนาจนอกจากผู้ร้องมอบอำนาจให้ ม. เข้าสู้ราคาเกี่ยวกับการขายทอดตลาดและดำเนินการอื่น ๆ จนเสร็จการแล้ว ยังมีข้อความระบุว่าให้ ม. มีอำนาจรับเอกสารแทนผู้ร้องด้วย ดังนั้นการที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จัดส่งประกาศขายทอดตลาดให้ ม. ณ ภูมิลำเนาของ ม. โดยมีผู้รับไว้แทน จึงถือได้ว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้แจ้งวันขายทอดตลาดแก่ผู้ร้องโดยชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5560/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งกำหนดนัดขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมายแม้จำเลยมีภูมิลำเนาไม่แน่นอน เจ้าพนักงานบังคับคดีพิจารณาจากข้อมูลราชการได้
ก่อนแจ้งกำหนดนัดการขายทอดตลาดให้จำเลยที่ 1 ทราบ โจทก์ได้ขอตรวจสอบภูมิลำเนาของจำเลยที่ 1 ไปยังนายทะเบียนของเขตตามที่จำเลยที่ 1 ได้แจ้งย้ายไป ปรากฏว่าบ้านดังกล่าวไม่มีโจทก์ได้แจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบพร้อมด้วยเอกสารต่าง ๆที่เกี่ยวข้องของทางราชการ จึงเป็นเหตุพอเพียงและสมควรที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะถือว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้มีหลักแหล่งไม่แน่นอน ไม่จำเป็นจะต้องพิจารณาว่าการจด-แจ้งบ้านเลขที่ที่จำเลยที่ 1 ย้ายไปผิดพลาด เป็นเพราะจำเลยที่ 1 มีเจตนาหรือไม่เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงชอบที่จะแจ้งกำหนดนัดการขายทอดตลาดโดยประกาศทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่จำหน่ายในจังหวัดที่จำเลยที่ 1 เคยมีภูมิลำเนาอยู่ และศาลชั้นต้นที่พิจารณาคดีตั้งอยู่ได้ การแจ้งกำหนดนัดดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5493/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์โดยผู้แทนโจทก์: การยึดยังชอบด้วยกฎหมายแม้โจทก์ไม่ได้ดำเนินการเอง
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไปทำการยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่มีบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง บทใด บังคับว่าหากโจทก์ไม่นำยึดหรือผู้ที่นำยึดมิใช่ผู้แทนโจทก์แล้ว จะทำให้การยึดนั้นเป็นอันเสียไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4481/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนการเลือกตั้งและผลกระทบต่อสิทธิผู้สมัคร: การรับสมัครใหม่ชอบด้วยกฎหมาย
การที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อย แห่งชาติได้มีประกาศรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 19 เมื่อวันที่ 23กุมภาพันธ์ 2534 ให้เลื่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดสมาชิกสภาเทศบาล และกรรมการสุขาภิบาลทั่วราชอาณาจักรออกไปโดยไม่มีกำหนดจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ให้คณะผู้บริหารชุดเดิมยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป และในกรณีที่มีตำแหน่งว่าง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งผู้มีคุณสมบัติตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นดำรงตำแหน่งแทน เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้มีคำสั่งแต่งตั้งบุคคลผู้มีชื่อจำนวน 9 คน ให้ดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่แทนกรรมการสุขาภิบาลป่าตองที่จะมาจากการเลือกตั้งตามมาตรา 7(4) แห่งพระราชบัญญัติสุขาภิบาล พ.ศ. 2495 แล้ว ดังนี้ ประกาศจังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2533 เรื่องให้เลือกตั้งกรรมการสุขาภิบาลป่าตองเนื่องจากกรรมการสุขาภิบาลป่าตองที่มาจากการเลือกตั้งเดิมได้ออกตามวาระจึงถือว่ายกเลิกไปตามประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 19 แม้ต่อมาจะมี พระราชบัญญัติยกเลิกประกาศดังกล่าว ก็หาทำให้การสมัครรับเลือกตั้งตามประกาศจังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2533 กลับมีผลขึ้นอีกไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4461/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้อาวุธปืนเพื่อหยุดยั้งการทำร้ายด้วยมีด
โจทก์ร่วมเป็นฝ่ายก่อเหตุเข้ามาตบจำเลยในสวนยางพาราของจำเลยแล้วใช้มีดแทงจำเลย จำเลยแย่งมีดจากโจทก์ร่วม แต่แย่งไม่ได้จึงใช้อาวุธปืนซึ่งจำเลยมีติดตัวยิงโจทก์ร่วม 1 นัด ถูกที่บริเวณขาขวาของโจทก์ร่วม การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงถูกบริเวณขาขวาของโจทก์ร่วมเพียง 1 นัดในขณะที่โจทก์ร่วมกำลังใช้มีดแทงจำเลยเพื่อไม่ให้โจทก์ร่วมแทงจำเลยต่อไปนั้น เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
of 51