พบผลลัพธ์ทั้งหมด 195 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 984-985/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องวิวาทต่อสู้: การระบุตัวผู้กระทำความผิดและฐานความผิดทำร้ายร่างกาย
กล่าวในฟ้องระบุถึงบุคคลตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปว่าเข้าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันโดยไม่ระบุว่าใครทำร้ายใครนั้น ถือว่าระบุฟ้องเป็นกรณีวิวาทต่อสู้กัน โจทก์บรรยายฟ้องเป็นเรื่องวิวาทต่อสู้กัน แต่ขอให้ลงโทษฐานทำร้ายร่างกายและในการวิวาทนั้นไม่มีถูกทำร้ายถึงสาหัสดังนี้แม้จำเลยให้การรับสารภาพศาลก็ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีวิวาททำให้ถึงแก่ความตาย โจทก์ขอเปลี่ยนฐานความผิดเป็นทำร้ายร่างกาย
ฟ้องว่าสมคบกับทำร้ายเขาถึงตาย ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยมีผิดฐานวิวาทเป็นเหตุให้คนตายตามาตรา 253, ลงโทษจำเลยไม่ได้คดีฟ้องขอให้ลงโทษฐานฆ่าคน ซึ่งถือว่าโจทก์ประสงค์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายไม่ถึงบาดเจ็บ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมอันเดียวกัน ฟ้องซ้ำไม่ได้: เมื่อศาลพิพากษาคดีหนึ่งแล้ว โจทก์ไม่สามารถฟ้องคดีเดิมอีกโดยเปลี่ยนฐานความผิด
การกระทำอันเป็นกรรมเดียวนั้น เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษสำหรับความผิดฐานหนึ่ง และศาลพิพากษาไปแล้ว โจทก์จะมาฟ้องขอให้ลงโทษฐานอื่นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกเงินซ่อมแซมของเจ้าหน้าที่รัฐ: การพิจารณาความผิดฐานใดที่ถูกต้อง
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามมาตรา 131 จำคุกจำเลย 5 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 319(3)ให้จำคุกจำเลย 3 ปี เป็นการแก้ไขมาก,จำเลยเป็นสรรพากรจุงหวัดได้รับเงินค่าซ่อมแซมที่พักสรรพากรจังหวัดแล้วยักยอกเอาไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย เป็นผิดตามมาตรา 314 หาใช่มาตรา 131 หรือ มาตรา 319(3)ไม่,โจทก์มิได้อ้างบทมาตรา 314 แต่คำบรรยายฟ้องของโจทก์กล่าวเป็นความผิดมาตรา 304 มาด้วยและอยู่ในข่ายที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษศาลย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรานี้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 703/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาฐานฉ้อโกง แม้ร้องทุกข์ในฐานยักยอกก่อน ไม่จำกัดฐานความผิดที่ร้องทุกข์
เมื่อผู้เสียหายมาร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงาน ๆ เห็นว่ามีความผิดฐานยักยอก+ใบมอบอำนาจให้ผู้เสียหายลงลายมือชื่อและสอบสวนในความผิดฐานยักยอก+เรื่องให้อัยยการ ๆ +เป็นเรื่องฉ้อโกง ก็ +ขอให้ลงโทษจำเลย+ฉ้อโกงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฐานความผิดยักยอกทรัพย์: การฟ้องฐานลูกจ้าง vs. เจ้าพนักงาน ส่งผลต่อการลงโทษ
กล่าวในฟ้องว่าจำเลยเป็นลูกจ้างของเทศบาลและยักยอกเงินของ เทศบาลไปเช่นนี้ ศาลลงโทษจำเลยตามมาตรา 131 ไม่ได้ ต้องลงโทษตามมาตรา 319 (3)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 774/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากบุกรุกและทำร้ายร่างกายเป็นพยายามชิงทรัพย์ และการพิพากษาตามศาลชั้นต้นหลังฎีกา
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม ม.329,338(3) จำเลยไม่อุทธรณ์ โจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียว ศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษตาม ม.299,60 จำเลยฎีกาฉะเพาะความผิดตาม ม.329 และ 338(3) ไม่ได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม ม.329,338(3) จำคุก 2 เดือน 20 วันศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตาม ม.299,60 จำคุก 2 ปี + เดือน เป็นแก้มาก
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม ม.329,338(3) จำคุก 2 เดือน 20 วันศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตาม ม.299,60 จำคุก 2 ปี + เดือน เป็นแก้มาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 336/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้องฐานความผิดอาญา: จำเลยไม่เสียเปรียบหากไม่หลงข้อต่อสู้
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเอาความเท็จไปร้องกล่าวโทษโจทก์ต่อกำนันและอำเภอครั้นสืบพะยานโจทก์หมดแล้วโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องว่าความเท็จที่จำเลยนำไปแจ้งนั้นจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จดังนี้ เมื่อไม่ปรากฎว่าจำเลยหลงข้อต่ออย่างใดแล้ว กฎหมายมิให้ถือว่าจำเลยเสียเปรียบโจทก์ย่อมขอแก้ได้,พฤตติการณ์ที่ถือว่าเป็นการ+แก้รายละเอียดที่ต้องตกลงในฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1293/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสำเร็จของฐานชิงทรัพย์ แม้มีการแย่งทรัพย์คืน การกระทำสำเร็จแล้วไม่เปลี่ยนเป็นพยายาม
การที่แย่งทรัพย์เอาไปจากตัวเจ้าทรัพย์ได้แล้วนั้นเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์สำเร็จแม้ภายหลังใกล้ชิดกันนั้นพวกของเจ้าทรัพย์ไปแย่งเอาคืนมาได้ก็ดี ก็ไม่ทำให้การกระทำนั้นกลายเป็นผิดแต่เพียงพยายามชิงทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการเปลี่ยนฐานความผิดในฟ้องอาญา: ลักทรัพย์ vs. รับของโจร
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักโคไป ต่อมาจำเลยรับไถ่ถอนโครายนี้ไว้ จำเลยจึงได้ลักหรือรับของของโจรโครายนี้ ต้องถือว่าฟ้องโจทก์บรรยายความผิดฉะเพาะฐานลักทรัพย์เท่านั้น ฐานรับของโจร+จะนับว่าเป็นข้อหาด้วยหาได้ไม่ฎีกาอุทธรณ์