พบผลลัพธ์ทั้งหมด 464 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนกระทำชำเราโทรมหญิง: การกระทำร่วมกันเป็นตัวการ
ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายไปเที่ยวงานศพที่วัด จนกระทั่งเวลา 21นาฬิกาเศษจะกลับบ้าน พบจำเลย ล. และ ช. ซึ่งรู้จักกันมาก่อน ล. รับอาสาพาผู้เสียหายไปส่งบ้าน ผู้เสียหายตกลงไปด้วยแต่เมื่อออกจากบริเวณงานได้ประมาณ 1 เส้น ล. ฉุด ผู้เสียหายเข้าป่าละเมาะข้างทาง อันเป็นที่เปลี่ยวและมืด แล้วข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่ จากนั้น ล. ก็ผิวปากเป็นสัญญาณให้จำเลยกับ ช. เข้าไปข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายต่อจนสำเร็จความใคร่คนละ 1 ครั้ง ดังนี้ลักษณะการกระทำของจำเลยกับพวกดังกล่าว แสดงว่ามีเจตนาร่วมเป็นตัวการในการผลัดเปลี่ยนกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายด้วยกัน อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 276 วรรคสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 981/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการ ตัวแทน ละเมิด: จำเลยต้องรับผิดในความเสียหายจากอุบัติเหตุที่ตัวแทนขับรถชน
จำเลยใช้ให้ ย.ขับรถยนต์ไปทำธุรกิจให้จำเลยโดยมีจำเลยนั่งไปด้วย ย่อมถือได้ว่าจำเลยเป็นตัวการ และ ย.เป็นตัวแทนของจำเลยในกิจการนี้โดยปริยาย เมื่อ ย.ขับรถยนต์โดยประมาทชนรถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยไว้เสียหาย ถือได้ว่า ย.กระทำละเมิดภายในขอบอำนาจแห่งฐานะตัวแทนจำเลยซึ่งเป็นตัวการจึงต้องรับผิดในผลแห่งการละเมิดที่ ย.ได้กระทำไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 427 ประกอบด้วย มาตรา 420
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 95/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมกันทำร้ายจนถึงแก่ความตาย: การพิเคราะห์เจตนาและตัวการในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
จำเลยทั้งสองทราบดีว่า ส. กับผู้ตายมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน วันเกิดเหตุจำเลยทั้งสองกับ ส.เดินไปพบผู้ตายกับพวก ส. ชักมีดปลายแหลมไล่แทงทำร้ายผู้ตาย จำเลยทั้งสองได้วิ่งตาม ส.เข้าไปด้วยเมื่อส.แทงผู้ตายแล้ว จำเลยทั้งสองได้ช่วยกันกระทืบผู้ตายซ้ำแล้วจำเลยทั้งสองกับ ส. ก็ได้หลบหนีไปด้วยกัน แสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยกับพวกที่จะร่วมกันแทงทำร้ายผู้ตายมาแต่ต้น แม้จำเลยทั้งสองจะไม่ได้แทงผู้ตาย เพียงแต่กระทืบผู้ตาย อันเป็นการทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจก็ตาม เมื่อการตายของผู้ตายเกิดจากการแทงทำร้ายของพวกจำเลยก็ย่อมถือว่าจำเลยทั้งสองเป็นตัวการในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาด้วย.
จำเลยทั้งสองกับพวกมาพบผู้ตายโดยบังเอิญ แล้วได้ร่วมกันทำร้ายผู้ตายทันทียังฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองกับพวกมีแผนการหรือไตร่ตรองไว้ก่อนในการที่จะฆ่าผู้ตาย.
จำเลยทั้งสองกับพวกมาพบผู้ตายโดยบังเอิญ แล้วได้ร่วมกันทำร้ายผู้ตายทันทียังฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองกับพวกมีแผนการหรือไตร่ตรองไว้ก่อนในการที่จะฆ่าผู้ตาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 548/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการไม่เปิดเผยชื่อและผลกระทบต่อสิทธิของบุคคลภายนอกต่อตัวแทน
การที่ผู้ร้องใช้ชื่อของจำเลยที่ ๑ เข้าประมูลงานก่อสร้างกับทางราชการ ประมูลได้แล้วผู้ร้องได้ดำเนินการแต่ผู้เดียว แม้กิจการรับเหมาก่อสร้างดังกล่าวเป็นของผู้ร้อง โดยจำเลยที่ ๑ เป็นเพียงตัวแทนผู้ร้องก็ตาม แต่ก็เป็นเรื่องผู้ร้องซึ่งเป็นตัวการไม่เปิดเผยชื่อ ยอมให้จำเลยที่ ๑ ตัวแทนทำการออกนอกหน้าเป็นตัวการผู้ร้องจึงไม่อาจทำให้เสื่อมเสียถึงสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่มีต่อจำเลยที่ ๑ และขวนขวายได้สิทธิมาก่อนที่จะรู้ว่จำเลยที่ ๑ เป็นตัวแทนของผู้ร้อง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๘๐๖ ดังนั้น ผู้ร้องจะร้องขัดทรัพย์ขอให้เพิกถอนการอายัดสิทธิเรียกร้องค่าก่อสร้างของจำเลยที่ ๑ อันมีต่อทางราชการ ซึ่งศาลมีคำสั่งอายัดตามคำขอของโจทก์หาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 548/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการไม่เปิดเผยชื่อ & สิทธิของบุคคลภายนอกที่มีต่อตัวแทน
การที่ผู้ร้องใช้ชื่อของจำเลยที่ 1 เข้าประมูลงานก่อสร้างกับทางราชการ ประมูลได้แล้วผู้ร้องได้ดำเนินการแต่ผู้เดียว แม้กิจการรับเหมาก่อสร้างดังกล่าวเป็นของผู้ร้อง โดยจำเลยที่ 1 เป็นเพียงตัวแทนผู้ร้องก็ตาม แต่ก็เป็นเรื่องผู้ร้องซึ่งเป็นตัวการไม่เปิดเผยชื่อ ยอมให้จำเลยที่ 1 ตัวแทนทำการออกนอกหน้าเป็นตัวการผู้ร้องจึงไม่อาจทำให้เสื่อมเสียถึงสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่มีต่อจำเลยที่ 1 และขวนขวายได้สิทธิมาก่อนที่จะรู้ว่จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนของผู้ร้อง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 806 ดังนั้น ผู้ร้องจะร้องขัดทรัพย์ขอให้เพิกถอนการอายัดสิทธิเรียกร้องค่าก่อสร้างของจำเลยที่ 1 อันมีต่อทางราชการ ซึ่งศาลมีคำสั่งอายัดตามคำขอของโจทก์หาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3764/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนเชิดไม่ต้องรับผิดหากตัวการเป็นผู้รับผิดตามสัญญาซื้อขาย
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า จำเลยที่ 3 เป็นตัวแทนเชิดของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ในการสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์ตามฟ้องหรือไม่จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 3 ได้แสดงตนเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 หรือไม่ แม้ฟ้องโจทก์จะกล่าวว่าจำเลยที่ 3 แสดงตนเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 มาด้วยก็ตามแต่ศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทในชั้นชี้สองสถานไว้และโจทก์ก็มิได้คัดค้าน ถือได้ว่าโจทก์สละประเด็นข้อนี้แล้ว ดังนั้นเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 3 เป็นตัวแทนเชิดของจำเลยที่ 1ที่ 2 ซึ่งเป็นตัวการ จำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าสินค้าต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3764/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนเชิดไม่ต้องรับผิดเมื่อตัวการเป็นผู้สั่งซื้อสินค้า
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า จำเลยที่ 3 เป็นตัวแทนเชิดของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ในการสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์ตามฟ้องหรือไม่จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 3 ได้แสดงตนเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 หรือไม่ แม้ฟ้องโจทก์จะกล่าวว่าจำเลยที่ 3 แสดงตนเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1มาด้วยก็ตาม แต่ศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทในชั้นชี้สองสถานไว้ และโจทก์ก็มิได้คัดค้าน ถือได้ว่าโจทก์สละประเด็นข้อนี้แล้ว ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่เป็นตัวแทนเชิดของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ซึ่งเป็นตัวการ จำเลยที่ 3จึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าสินค้าต่อโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3595/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดยักยอกทรัพย์: ตัวการร่วมกับผู้มีหน้าที่ดูแลทรัพย์สิน แม้ไม่ใช่ผู้มีอาชีพที่ไว้วางใจได้ก็มีความผิด
ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ไม่ใช่ความผิดเฉพาะตัวของผู้ครอบครองทรัพย์เพียงผู้เดียว ผู้อื่นก็อาจร่วมกระทำความผิดกับผู้ครอบครองในการยักยอกทรัพย์ได้ หากได้ร่วมมือร่วมใจกันกระทำการยักยอกกับผู้ได้รับมอบหมายให้ครอบครองทรัพย์ ข้อที่ว่า ผู้ใดครอบครองทรัพย์นั้น มิใช่คุณสมบัติเฉพาะตัวผู้กระทำ แต่เป็นเพียงองค์ประกอบความผิดในส่วนการกระทำอันหนึ่งเท่านั้น
การที่จำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมิใช่ผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนได้ร่วมกับผู้จัดการและสมุห์บัญชีของธนาคารยักยอกทรัพย์ของธนาคาร จำเลยย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ประกอบด้วยมาตรา 83แม้จำเลยจะร่วมกระทำผิดกับผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนก็เป็นเหตุเฉพาะตัวผู้กระทำผิดแต่ละคน จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354 ประกอบด้วยมาตรา 86.
(วรรคสองวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2532)
การที่จำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมิใช่ผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนได้ร่วมกับผู้จัดการและสมุห์บัญชีของธนาคารยักยอกทรัพย์ของธนาคาร จำเลยย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ประกอบด้วยมาตรา 83แม้จำเลยจะร่วมกระทำผิดกับผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนก็เป็นเหตุเฉพาะตัวผู้กระทำผิดแต่ละคน จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354 ประกอบด้วยมาตรา 86.
(วรรคสองวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2532)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2299/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยสนับสนุนการปล้นทรัพย์ ศาลฎีกาแก้เป็นความผิดฐานสนับสนุนแทนการเป็นตัวการ
จำเลยที่ 2 ร่วมไปกับจำเลยที่ 3 กับพวก เมื่อจำเลยที่ 3 กับพวกลงจากรถของ ด. ที่หลังสวนกล้วยห่างบ้านผู้เสียหายประมาณ 580 เมตร เพื่อปล้นทรัพย์บ้านผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 ได้ติดรถของ ด. ไปที่บ้าน บ. และเป็นคนเรียกให้ ด. ขับรถมาคอยรอรับจำเลยที่ 3 กับพวกที่เดิม เมื่อจำเลยที่ 3 กับพวกปล้นทรัพย์เสร็จแล้ววิ่งมาขึ้นรถ จำเลยที่ 2 ก็สั่งให้ ด. ขับรถไปส่งจำเลยที่ 2 กับพวก พฤติการณ์ของจำเลยที่ 2 ยังอยู่ห่างไกลกับการเข้าปล้นทรัพย์บ้านผู้เสียหาย แม้จำเลยที่ 2 จะมีหน้าที่คอยติดตาม ด. คนขับรถรับจ้างในขณะที่จำเลยที่ 3 กับพวกเข้าทำการปล้นทรัพย์และควบคุมให้นำรถกลับไปคอยรับตามเวลาที่จำเลยที่ 3 กับพวกนัดไว้ จำเลยที่ 2 ก็ไม่ได้อยู่คอยช่วยเหลือจำเลยที่ 3 กับพวกเมื่ออาจเกิดเหตุการณ์คับขันขึ้น ยังไม่พอฟังว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกันปล้นทรัพย์ เป็นเพียงการให้ความสะดวกในการกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์แก่จำเลยที่ 3 กับพวกทั้งก่อนและขณะกระทำความผิด จำเลยที่ 2 จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ในความผิดฐานปล้นทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2268/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองเฮโรอีนเพื่อจำหน่าย: ตัวการหรือผู้สนับสนุน, ปริมาณสารบริสุทธิ์และบทลงโทษ
เฮโรอีนของกลางอยู่ในกระเป๋าเดินทางของจำเลย จำเลยเตรียม จะนำออกไปนอกราชอาณาจักรไทยพร้อมกับจำเลย โดยจำเลยมีหนังสือเดินทางและตั๋วโดยสารเครื่องบินพร้อมที่จะเดินทางโดยมีกระเป๋าบรรจุเฮโรอีนของกลางไปด้วยเช่นนี้ จำเลยจึงเป็นผู้ครอบครองเฮโรอีนของกลางอันถือได้ว่าเป็นตัวการในการกระทำความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย หาใช่เป็นเพียงผู้สนับสนุนไม่.
เฮโรอีนของกลางที่จำเลยมีไว้ในครอบครองมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ 1,297 กรัม ซึ่งตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง บัญญัติ ว่าการผลิตนำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ตั้งแต่ยี่สิบกรัมขึ้นไป ให้ถือว่าผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยจะเถียงว่าไม่ได้มีไว้เพื่อจำหน่ายหาได้ไม่.
เฮโรอีนของกลางที่จำเลยมีไว้ในครอบครองมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ 1,297 กรัม ซึ่งตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง บัญญัติ ว่าการผลิตนำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ตั้งแต่ยี่สิบกรัมขึ้นไป ให้ถือว่าผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยจะเถียงว่าไม่ได้มีไว้เพื่อจำหน่ายหาได้ไม่.